ปลัดจังหวัดนนท์นำทีมปกครอง จู่โจมบุกตรวจผับชื่อดังย่านประชาชื่นเปิดเกินเวลา พบนักท่องราตรีกว่า 300 คน ยาเสพติดตกเกลื่อนพื้น
ปลัดจังหวัดนนท์นำทีมปกครอง จู่โจมบุกตรวจผับชื่อดังย่านประชาชื่นเปิดเกินเวลา พบนักท่องราตรีกว่า 300 คน ยาเสพติดตกเกลื่อนพื้น
วันที่ 10 ส.ค.68 เมื่อเวลา 01.00 น. นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี พร้อมปลัดฝ่ายปกครองและกำลังเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน นำกำลังเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงชื่อดังเลียบคลองประชา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังได้รับเบาะแสมาว่าสถานบันเทิงดังกล่าวลักลอบเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และยังปล่อยปละละเลยให้นักเที่ยวแอบนำยาเสพติดเข้าไปเสพในร้านอย่างโจ๋งครึ่ม โดยก่อนหน้านี้สถานบันเทิงแห่งนี้ตกเป็นเป้าหมายในการตรวจสอบของทางจังหวัดมาแล้ว เนื่องจากเจ้าของสถานบันเทิงเป็นเจ้าของเดียวกับร้านมูนบาร์ที่เคยตกเป็นข่าวโด่งดังมาก่อนหน้านี้
จากการนำกำลังเข้าบุกค้นในสถานบันเทิงโดยไม่ทันตั้งตัว เจ้าหน้าที่ทำการควบคุมการ์ดสถานบันเทิงที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าร้านก่อนเข้าบุกค้นภายใน พบนักเที่ยวทั้งชายหญิงประมาณ 300 คน กำลังสนุกสนานกับเสียงดนตรีอยู่ในร้าน เมื่อทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองแสดงตัวให้ปิดเพลงและเปิดไฟ ทำให้นักเที่ยวบางรายที่นำยาเสพติดเข้ามาเสพในร้าน ต่างพากันโยนยาเสพติดในซองพลาสติกลงพื้น และบางส่วนตกใจโยนทิ้งพื้นไม่ทันจึงโยนใส่ถังน้ำแข็งบนโต๊ะแทน ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้รวบรวมเก็บยาเสพติดที่พบทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะทยอยนำตัวนักเที่ยวทั้งหมดไปทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด จึงพบว่ามีปัสสาวะสีม่วงจำนวน 16 คน เป็นชาย 12 คน หญิง 4 คน จึงได้ควบคุมตัวเพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยในระหว่างที่นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและ อส. เข้าตรวจค้นสถานบันเทิงแห่งนี้ มีชายฉกรรจ์รายหนึ่งเดินเข้ามาเจรจาเพื่อขอไม่ให้ทำการตรวจสอบร้าน แต่ทางปลัดจังหวัดนนทบุรีไม่ยอม เพราะเป็นนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่มอบหมายนโยบายและสั่งกำชับในเรื่องนี้
ซึ่งมีนักเที่ยวรายหนึ่งเปิดเผยว่า สถานบันเทิงแห่งนี้เป็นที่รู้กันดีในหมู่นักเที่ยวยามค่ำคืนว่าเป็นสถานบันเทิงที่เปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะหลังตี 1 ไปแล้ว สถานบันเทิงแห่งนี้จะเปิดต่อไปถึงตี 3 หากเป็นนักเที่ยวที่ไหลต่อมาจากร้านอื่นจะต้องเสียค่าเข้าคนละ 100 บาท ต่างหากเพื่อแลกกับสายรัดข้อมือแทน โดยในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบพนักงานดูแลเก็บเงินค่าแลกเข้าร้านช่วงเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด นั่งขายสายรัดข้อมืออยู่ที่หน้าทางเข้าสถานบันเทิงพร้อมกับเงินจำนวนหลายพันบาท
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ควบคุมตัวผู้จัดการร้านแห่งนี้ พร้อมกับนักเที่ยว 16 คน ที่ปัสสาวะสีม่วงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยเตรียมเสนอให้ทางจังหวัดพิจารณาออกคำสั่งปิดสถานบันเทิงแห่งนี้เป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่งของ คสช. หลังพบว่านอกจากจะเปิดสถานบันเทิงเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้ว ยังปล่อยปละละเลยให้นักเที่ยวนำยาเสพติดเข้าไปเสพในร้านอีกด้วย
เครดิต พิรฎา