RCL กำไร Q2 แตะ 2 พันลบ. รายได้เดินเรือเพิ่ม
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 8 สิงหาคม 2568 เวลา 20.49 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงานดร.ทวินโชค ตันธุวนิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) (RCL) เปิดเผยว่า บริษัทฯสามารถทำกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ได้ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 1 หรือมีกำไร 2,005 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าเพียง 53 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.6 เนื่องจากรายได้จากการเดินเรือลดลง 288 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.1 แม้ปริมาณการขนส่งจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 1.4 แต่อัตราค่าระวางเฉลี่ยในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 อยู่ที่ 406 เหรียญต่อตู้ ปรับตัวลงจาก 415 เหรียญต่อตู้ในไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับงวด 6 เดือนของปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 4,063 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,302 ล้านบาท หรือร้อยละ 130.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,761 ล้านบาท
โดยมีปัจจัยหลักมาจากรายได้จากการเดินเรือที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 สอดคล้องกับปริมาณขนส่งที่เพิ่มขึ้น 144,000 ตู้ หรือร้อยละ 12.2 ซึ่งสะท้อนถึงผลจากการขยายกองเรือ โดยมีเรือใหม่จำนวน 6 ลำ ทั้งขนาด 12,000 TEUs และ 7,000 TEUs เข้าสู่กองเรือของบริษัทฯ ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปีนี้ รวมถึงการเพิ่มเครือข่ายการให้บริการ และการให้บริการขนส่งสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินมาตรการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด ควบคู่ไปกับการเสริมศักยภาพของกองเรือใหม่ที่ทันสมัยและประหยัดพลังงาน ซึ่งช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ต้นทุนการเดินเรือเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 13 ซึ่งต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 ดังกล่าวข้างต้น ทำให้บริษัทฯ สามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ภายใต้บริบทของความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การค้าโลก
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 อุตสาหกรรมการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางทะเลยังคงเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องจากปี 2567 จากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ส่งผลต่อทิศทางการค้าโลก และเหตุการณ์ความไม่สงบในช่องทางเดินเรือหลัก ซึ่งเพิ่มต้นทุนและระยะเวลาในการขนส่ง รวมถึงอุปทานเรือใหม่ที่เข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมากตั้งแต่ปี 2567 ส่งผลให้อัตราค่าระวางเฉลี่ยปรับตัวลดลง ปัจจัยดังกล่าวนี้ได้เพิ่มความซับซ้อนและความท้าทายในการบริหารจัดการ
ในการนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ เช่น การปรับกองเรือให้มีความหลากหลายทั้งขนาดของเรือและประเภทของตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค อีกทั้งขยายเครือข่ายการให้บริการไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง เช่น ลาตินอเมริกา พร้อมทั้งยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าผ่านการให้บริการที่มีคุณภาพและความต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกัน การเพิ่มศักยภาพของกองเรือใหม่ที่มีความทันสมัย ประหยัดพลังงาน และรองรับพลังงานทางเลือกนั้น ไม่เพียงแต่สอดคล้องกับมาตรการสิ่งแวดล้อมของ IMO เท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับมาตรการควบคุมต้นทุนของบริษัทฯ ซึ่งส่งเสริมความสามารถในการทำกำไรอย่างยั่งยืน
บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 5 กันยายน 2568