CREDIT กำไร Q2/68ที่ 925 ลบ. คุม NPL ลดเหลือ 4.3%
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน)หรือ CREDIT รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ในไตรมาส 2 ปี 2568 ธนาคารมีกำไรสุทธิเท่ากับ 925.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิในงวดครึ่งปีแรก 2568 อยู่ที่ 1,828.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า ร้อยละ 44.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนปัจจัยหลักมาจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง ร้อยละ 36.7 จากการบริหารการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังของธนาคาร
นอกจากนี้ ในปี 2568 ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อเร่งการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ และป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ไหลเข้าสู่กลุ่ม Stage 2 และ Stage 3 ส่งผลให้ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ดีขึ้น
ด้วยเหตุผลข้างต้น ส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (Gross NPLs Ratio) ปรับลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ ร้อยละ 4.3 ขณะเดียวกันอัตราส่วนการกันสำรองต่อ NPL (NPL Coverage Ratio) ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ ร้อยละ 154.4 เพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 148.6 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ในไตรมาส 2 ปี 2568 ธนาคารยังคงขยายตัวในส่วนของเงินให้สินเชื่อ โดยเพิ่มขึ้น ร้อยละ 13.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนธันวาคม 2567 โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อเพื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี สินเชื่อที่ใช้บ้านเป็นหลักประกัน และสินเชื่อบุคคล
อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีอัตราส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin: NIM) อยู่ที่ ร้อยละ 7.6 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผลกระทบจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น โครงการ “คุณสู้ เราช่วย”
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของเจ้าของ (ROE) ในไตรมาส 2 ปี 2568 ยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมที่ ร้อยละ 15.41
ชสินเชื่อด้อยคุณภาพก่อนหักค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Gross NPLs) และอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Gross NPLs Ratio)
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 สินเชื่อด้อยคุณภาพก่อนหักค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Gross NPLs) อยู่ที่ 7,345.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ร้อยละ 1.6 จาก 7,228.4 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567
ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Gross NPLs Ratio) ปรับตัวลดลงจาก ร้อยละ 4.4 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 มาอยู่ที่ ร้อยละ 4.3 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 การลดลงของอัตราส่วน NPLs นี้เป็นผลมาจากการที่ธนาคารได้ออกมาตรการเร่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ ก่อนที่จะกลายเป็น Stage 3 ทำให้จำนวนลูกหนี้ที่ตกชั้นกลายเป็น NPL ลดลง นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เพิ่มจำนวนพนักงานเร่งรัดหนี้ (Collection) อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2567 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามหนี้ ส่งผลให้สามารถบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ได้ดีขึ้น