ร้องอธิบดี ค้านย้ายหัวหน้า อช.แก่งกระจาน แฉโยง จับเอกชนทุนการเมืองรุกที่ดิน 4 พันไร่
ร้องอธิบดี ค้านย้ายหัวหน้าอช.แก่งกระจาน แฉโยงจับเอกชนทุนการเมืองรุกที่ดิน 4 พันไร่
วันที่ 22 กรกฎาคม นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยมวลชนราว 50 คน เดินทางไปยังอาคารสืบนาคะเสถียร กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อยื่นหนังสือถึงนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช คัดค้านการย้ายนายมงคล ไชยภักดี ออกจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยมีนายสมวรรตน์ ปัญญานุกูล ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นผู้แทนรับมอบหนังสือ เนื่องจากนายอรรถพล เจริญชันษา ติดภารกิจที่สภาผู้แทนราษฎร
นายชัยวัฒน์ระบุว่า สาเหตุที่นายมงคลถูกย้ายจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพราะนายมงคลไม่ยอมจ่ายเงินเรียกเก็บตามเปอร์เซ็นต์จากงบประมาณแผ่นดินที่ได้จัดสรรไป โดยทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 อ้างว่าเป็นการขอความร่วมมือค่าใช้จ่ายส่วนกลาง กิจการร่วมทำบุญ และบริจาคการกุศล โดยคิดจากงบประมาณที่ได้จัดสรร ประจำปี 2568 โดยขอความร่วมมือจ่ายภายในวันที่ 20 ของทุกเดือน ซึ่งอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้รับการจัดสรรงบประมาณรวม 6,017,560 บาทต่อปี แต่ต้องจ่ายเงินเรียกเก็บตามเปอร์เซ็นต์ คิดเป็นร้อยละ 14.83 เป็นเงินรวม 892,767.58 บาท / โดยแบ่งการเก็บเป็นรายเดือน เดือนละ 69,382.63 บาท และเป็นการเก็บกันงบ อีก 60,176 บาทต่อปี แต่นายมงคลไม่ยอมจ่ายเงินในส่วนนี้
ทำให้เป็นเหตุการถูกสั่งย้าย
นายชัยวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมในส่วนนี้ว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการบังคับให้ข้าราชการผู้น้อยต้องหาเงินมาจ่าย ทำให้ต้องไปลดการจ้างงานลูกจ้าง หรือลดการซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็น เพราะนำเงินบางส่วนไปจ่ายค่าส่วนกลางให้กับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 หากคำนวณเงินเรียกเก็บตามเปอร์เซ็นต์ของงบประมาณแผ่นดิน ที่ทุกอุทยานแห่งชาติ และทุกหน่วยงานในกรมอุทยานฯได้รับ เท่ากับว่าแต่ละปีจะมีเงินส่วนกลางมากกว่า 300 ล้านบาท เหตุการณ์ลักษณะนี้ทำให้ตัวเองโกรธมาก ถ้าจำได้ว่าตังเองเคยโกรธที่อดีตอธิบดีฯท่านหนึ่ง เรียกรับเงิน จากนั้นตนเองจึงวางแผนล่อซื้อ จนเป็นข่าวใหญ่เมื่อ 3 ปีก่อน แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ตนเองโกรธมากกว่าครั้งนั้นถึง 10 เท่า เพราะถือว่าเป็นการรังแกคนทำงาน และเอาเปรียบข้าราชการชั้นผู้น้อย
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ส่วนอีกเหตุผลสำคัญที่นายมงคลถูกสั่งย้าย เพราะนายมงคลได้ตรวจยึดจับกุมดำเนินคดีกับบริษัทเอกชนที่อ้างเอกสิทธิ์ทับซ้อนเขตอุทยาน และเขตราชพัสดุ พื้นที่มากกว่า 4,000 ไร่ เมื่อวันที่ 8-9 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้น 6 วัน นายมงคลก็ถูกสั่งย้ายออกจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ซึ่งกรณีดังกล่าวจากการตรวจสอบของฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ยืนยันว่าคำสั่งย้ายนายมงคลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกพื้นที่มีความเกี่ยวพันกับพรรคการเมืองท้องถิ่นระดับนายก อบต. ที่เข้าไปมีส่วนในการนำรถขุดดินและถมดินรวมทั้งนำดินออกนอกพื้นที่ ทั้งที่ในพื้นพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน และไม่มีการขออนุญาตเพื่อดำเนินการ ซึ่งนายก อบต.ดังกล่าว มีความสัมพันธ์กับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าสาเหตุที่ทำให้นายมงคลถูกย้าย มาจากการไม่ยอมจ่ายเปอร์เซ็นต์เรียกเก็บจากงบประมาณ และการเข้าจับกุมดำเนินคดีนายทุนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมือง ตนจึงต้องออกมาเรียกร้องและปกป้องคนที่ทำงาน หากไม่มีนายมงคลก็ไม่น่าจะมีใครที่กล้าดำเนินคดีกับกลุ่มทุนใหญ่ ทั้งนี้ ตนเองจะให้เวลาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 7 วัน ในการพิจารณาทบทวนและแก้ไขคำสั่งโยกย้ายดังกล่าว หากเจ็ดวันไม่ได้รับการตอบรับ จะเปิดเผยข้อมูลความไม่ปกติ และเกี่ยวกับการบริหารงบประมาณในกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งตนเองมีหลักฐานทั้งหมด
นอกจากการยื่นหนังสือที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแล้ว นายชัยวัฒน์จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอให้ตรวจสอบการโยกย้ายดังกล่าวว่าเป็นธรรมหรือไม่ พร้อมทั้งร้องขอให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ว่าการเรียกเก็บเปอร์เซ็นต์จากงบประมาณที่ได้รับ ถือว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ นอกจากนั้นจะส่งหนังสือร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปถึงนายกรัฐมนตรี ให้มีมาตรการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อีกด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ร้องอธิบดี ค้านย้ายหัวหน้า อช.แก่งกระจาน แฉโยง จับเอกชนทุนการเมืองรุกที่ดิน 4 พันไร่
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th