รปภ.รุ่นน้องแทง รปภ.รุ่นพี่ดับ คาป้อมยามหมู่บ้าน
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 5 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.20 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทนนทบุรี 5 ก.ค.-รปภ. รุ่นน้อง มีปากเสียงกับ รปภ.รุ่นพี่ ก่อนคว้ามีดแทง รปภ.รุ่นพี่ แล้วลากศพมาไว้ในป้อม จากนั้นนั่งรอมอบตัว อ้างสุดทน รปภ.รุ่นพี่ เมาเหล้ามาทำงานสาย และถูกต่อยก่อน
ภาพวงจรปิด เมื่อเวลา 19.33 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 จับภาพไว้ได้ โดยจะเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นั่งอยู่ภายในป้อมยาม และมีภาพชายอีกคน คาดเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเช่นกัน ยืนอยู่ในป้อม จากนั้นทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกัน ก่อนจะเกิดการชกต่อยกันขึ้น จนกระทั่งผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวมา แทงเข้าบริเวณใต้ราวนมของผู้เสียชีวิต
ต่อมาจะเห็นภาพผู้เสียชีวิตเดินออกมาจากป้อมยาม โดยใช้มือกุมบาดแผลไว้ และมีลักษณะคล้ายกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคนรู้จักเพื่อให้ช่วยเรียกรถพยาบาล จากนั้นผู้เสียชีวิตเดินมาถึงริมถนนหน้าป้อมยามก่อนจะล้มลง ผู้ก่อเหตุ จึงเดินออกมาลากร่างผู้เสียชีวิตกลับเข้าไปในป้อมยาม และเป็นผู้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพให้มาที่เกิดเหตุ พร้อมยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่
ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณป้อมยาม หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ โดยในป้อมยามพบร่าง นายเฉลิมเกียรติ อายุ 50 ปี รปภ.ของหมู่บ้าน นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด ร่างกายมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่หน้าอกด้านซ้าย 1 แผล
ส่วนผู้ก่อเหตุเป็น รปภ.หมู่บ้านเดียวกัน ชื่อ นายมานิต อายุ 22 ปี หลังก่อเหตุได้โยนมีดพับทิ้งเข้าพุ่มหญ้าข้างหมู่บ้าน และนั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งเป็นผู้โทรแจ้งสายด่วน 1669 ให้มารับตัวผู้บาดเจ็บ แต่ปรากฏว่านายเฉลิมเกียรติ เสียชีวิตก่อน สอบปากคำเบื้องต้น ทำงานผลัดเดียวกัน ผู้ตายมีอาการเมามาทำงาน จึงมีการต่อว่า ก่อนมีเกิดทะเลาะวิวาท มีปากเสียงกัน
สอบปากคำพ่อผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลว่า ลูกชายทำงานเป็น รปภ. มาได้ราว 7 เดือนแล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่เคยบอกเล่าปัญหาการทำงานให้ฟัง ส่วนผู้เสียชีวิต เคยเห็นเวลาเอาข้าวมาส่งให้ลูกชาย แต่ก็ไม่เคยคุยกัน ล่าสุดก่อนเกิดเหตุ ลูกบอกว่า กลับถึงบ้านให้หุงข้าวรอ และให้ซื้อแกงมาด้วย เดี๋ยวกลับถึงบ้านจะได้ไปกิน ตนบอกให้ลูกรีบไปทำงาน ตอนนั้นเวลาราว 1 ทุ่มแล้ว แต่ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงลูกชายโทรมาบอกว่า มีเรื่องใช้อาวุธมีดแทงคนตาย แต่ไม่ได้บอกว่ามีปัญหาอะไรกับใคร ตนเลยบอกว่าให้รอมอบตัว หลังเกิดเหตุยังไม่ได้คุยกัน
ขณะที่น้องสาวผู้เสียชีวิต บอกว่า พี่ชายเป็น รปภ. ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ที่อื่น ย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะใกล้บ้าน มาทำงานไม่ถึงปี อยู่กับแม่และลูกสาวอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งพี่ชายก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง ตอนนี้รู้สึกตกใจ ปกติพี่ก็อารมณ์ร้อนบ้าง พูดเสียงดังพูดตรงๆ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้อง ต้องแทงกันถึงขนาดนี้
เบื้องต้น ผกก.สภ.บางบัวทอง เปิดเผยว่า จากสอบสวนนายมานิต ผู้ก่อเหตุให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้เข้าเวรคู่กับผู้ตาย แต่นายมานิต มาเข้าเวรก่อน เมื่อผู้ตายมาทำงานทีหลัง เมื่อเข้ามาก็เข้ามานั่งอยู่ในป้อมยาม จึงได้ยืนต่อว่า เรื่องที่ผู้ตายมาทำงานสาย และยังมีอาการเมาเหล้ามาด้วย แต่เรื่องบานปลายถึงกันมีปากเสียงและชกต่อยกัน โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่า เป็นฝ่ายถูกต่อยก่อน จึงป้องกันตัว หยิบมีดพับที่พกติดตัวมาแทงผู้ตาย ก่อนที่ผู้ตายเดินออกจากป้อมมาล้มกลางถนน จากนั้นได้ลากผู้ตายเข้าไปในป้อม แล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนมีดได้นำไปทิ้งนอกรั้วกำแพงของหมู่บ้าน และยืนรอมอบตัวอยู่ในป้อม รปภ. เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ล่าสุด เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ตำรวจสภ.บางบัวทอง ได้ควบคุมตัวนายมานิต ผู้ก่อเหตุไปฝากขังที่ ศาลจังหวัดนนทบุรี ในระหว่างเดินขึ้นรถเจ้าหน้าที่ มีสีหน้าที่เคร่งเครียด ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า “ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต” พร้อมย้ำว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ต่อว่าผู้ตายเรื่องกินเหล้าเมามาทำงาน แต่ผู้ตายโมโหตน เลยมีปากเสียงกัน ตนเลยใช้มือผลักผู้ตายแล้วใช้เท้าเตะ ส่วนมีดอยู่ที่ตัวไม่ได้พกมาเพื่อจะมาทำร้ายใคร เก็บไว้ปอกทุเรียนกิน เพราะเมื่อคืนพ่อให้ทุเรียนมา 1 ลูก ตอนนี้รู้สึกเครียดมากๆ.-สำนักข่าวไทย