สะเทือนส่งออกสินค้าประมงไทย จีนยกเลิกแบนอาหารทะเลญี่ปุ่น
วันนี้ (30 มิ.ย.2568) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การค้าสินค้าประมง (พิกัดศุลกากร 03) พบว่า เมื่อช่วงปลายเดือนพ.ค. 2568 ญี่ปุ่นได้บรรลุข้อตกลงกับจีน โดยคาดว่าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะสามารถส่งออกไปตลาดจีนได้อีกครั้ง หลังจากจีนห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นเป็นเวลาเกือบ 2 ปีนับตั้งแต่ปี 2565
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์
โดยญี่ปุ่นต้องขึ้นทะเบียนโรงงานแปรรูปอาหารทะเลกับทางการจีน และสินค้าที่ส่งออกต้องมีใบรับรองเพื่อยืนยันว่าไม่มีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ซึ่งในปี 2565 จีนนำเข้าสินค้าประมงจากญี่ปุ่นเป็นอันดับที่ 10 มูลค่า 506.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.7% ของมูลค่าการนำเข้าของจีนสำหรับสินค้าประมงที่จีนนำเข้าจากญี่ปุ่นมาก เช่น หอยสแกลลอป และปลา เป็นต้น
ข้อมูลการค้าสินค้าประมง จาก Trademap.org พบว่า ปี 2567 การส่งออกสินค้าประมงของโลก มีมูลค่า 136,804.03 ล้านเหรียญสหรัฐ ประเทศที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ นอร์เวย์ 11.3% ของมูลค่าการส่งออกของโลก จีน 7.6% เอกวาดอร์ 5.4% ชิลี 5.3% และอินเดีย 4.5%ขณะที่ไทยส่งออกเป็นอันดับ 24 ของโลก หรือ 1.1%
สำหรับประเทศที่มีมูลค่าการนำเข้าสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 15.3% ของมูลค่าการนำเข้าของโลก จีน 13% ญี่ปุ่น 6.9% สเปน 5.4% และ อิตาลี 4.7% ขณะที่ไทยนำเข้าเป็นอันดับ 10 ของโลก 2.5%
ประมงไทยที่สร้างรายได้จากการส่งออกไปทั่วโลก ในปีที่ผ่านมา สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 54,000 ล้านบาท
ส่วนจีนเป็นตลาดใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก มีสัดส่วน 13% ของมูลค่าการนำเข้าของโลก ในปี 2567 ทั้งนี้จีนนำเข้าสินค้าประมง 17,885.61 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่นำเข้าจากเอกวาดอร์ 17.4% ของมูลค่าการนำเข้าของจีน รอลงมาเป็น รัสเซีย 15.3%แคนาดา 7.0% เวียดนาม 6.6%และอินเดีย 6.4% โดยนำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 11 หรือ 2.1% คิดเป็นมูลค่า 380.96 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับการค้าสินค้าประมงของไทย ปี 2567 ไทยส่งออกเป็นมูลค่า 1,544.96 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 54,171.21 ล้านบาท ขยายตัว 1.29% จากปีก่อนหน้า ตลาดส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 23.5% ของมูลค่าการส่งออกของไทย ญี่ปุ่น 18.9% สหรัฐฯ 14.2% กาหลีใต้ 5.6%และ อิตาลี 5.5%โดยการส่งออกสินค้าประมงจากไทยไปจีน มีมูลค่า 363.49 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 12,717.60 ล้านบาท หดตัว 2.1% จากปีก่อนหน้า
สินค้าสำคัญที่ส่งออกไปจีน 5 อันดับแรก ได้แก่ กุ้ง 68.9% ของมูลค่าการส่งออกไปจีน สัตว์น้ำเปลือกแข็ง และโมลลุสก์ อื่น ๆ 14.3% ปลา 10.7% หมึก 4.2% และ แมงกะพรุน 1.5%
สำหรับปี 2568 ช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค. – เม.ย.) ไทยส่งออกสินค้าประมงของไทย มีมูลค่า 464.06 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 15,654.61 ล้านบาท หดตัว 10.55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตลาดส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ อิตาลี และ เกาหลีใต้ โดยการส่งออกสินค้าประมงจากไทยไปจีนมีมูลค่า 105.23 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3,549.13 ล้านบาทหดตัว 20.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ผอ. สนค. กล่าวอีกว่า การส่งออกสินค้าประมงสร้างรายได้ให้ประเทศมาอย่างต่อเนื่องการที่ญี่ปุ่นกลับมาส่งออกสินค้าประมงไปยังจีนได้ อาจส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดสินค้าประมงของไทยในจีนลดลง ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์ทางการค้า เพื่อรักษาตลาดเดิม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
โดยควบคุมคุณภาพมาตรฐานสินค้าประมง การขยายตลาดไปยังตลาดที่มีศักยภาพอื่น ๆ เช่น สหรัฐฯ ขยายตัว 5.09% แคนาดา ขยายตัว 4.58% สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 28.18% กัมพูชา 9.9%และฟิลิปปินส์ 8.49% เป็นต้นรวมทั้งให้ความสำคัญในการแก้ไขประเด็นการทำประมงที่ผิดกฎหมาย การขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) รวมถึงส่งเสริมการทำประมงที่ยั่งยืน (Sustainable Fishing) อันจะเป็นการยกระดับมาตรฐานการค้าและอุตสาหกรรมประมงของไทย
อ่านข่าว:
ผู้ส่งออก ชี้ “ปิดช่องแคบฮอร์มุซ” ไทยเสี่ยงด้านพลังงาน สินค้าเกษตรต้นทุนพุ่ง
หวั่นกระทบส่งออกครึ่งปีหลัง บิ๊กเอกชนห่วงเจรจาภาษีสหรัฐฯล่าช้า