มีลุ้นครึ่งหลังปี 68 ทุนต่างชาติไหลกลับเข้าไทย จับตาการค้า-การเมือง
ผ่านไปแล้วเกือบ 7 เดือนแรกของปี 68 หรือกว่า 137 วันทำการแรกของปี ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนอย่างมาก ล่าสุด (25 ก.ค.68) ปิดตลาดที่ระดับ 1,217.15 จุด ลดลง 180.78 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -12.93% จากดัชนีเปิดตลาดวันแรกปีนี้ที่ 1,397.93 จุด
โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 5,640,460.43 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 41,171.24 ล้านบาท/วัน สูงสุดที่ 74,536.25 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ก.พ. และต่ำที่สุดที่ 17,321.58 ล้านบาท ในวันที่ 28 มี.ค. แต่หากแบ่งมูลค่าตามประเภทนักลงทุน พบว่า
เม็ดเงินทุนต่างชาติยังคงสถานะขายสุทธิสูงสุด รวม 66,223.78 ล้านบาท โดยเป็นการขายมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ม.ค. - มิ.ย. สูงสุดที่ 21,865.52 ล้านบาท เมื่อช่วงเดือน มี.ค. และต่ำที่สุด 6,667.44 ล้านบาท ในเดือนก.พ. สำหรับเดือน ก.ค. นับเป็นเดือนแรกของปีนี้ที่กลับมามีสถานะซื้อสุทธิ รวม 12,468.99 ล้านบาท
ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนสถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ มีสถานะขายสุทธิรองลงมาที่ 14,190.51 ล้านบาท และ 13,256.29 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ กลุ่มนักลงทุนสถาบันมีแรงซื้อสลับขายออก ส่วนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ มีการซื้อเดือน ม.ค. เพียงเดือนเดียว ที่เหลือก็ขายมาต่อเนื่อง
ด้านนักลงทุนในประเทศเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่มีสถานะซื้อสุทธิ รวม 93,670.58 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกเป็นการซื้อติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง สูงสุดที่ 26,857.77 ล้านบาท ในเดือนมี.ค. และต่ำสุดที่ 11,035.65 ล้านบาท ในเดือนม.ค. อย่างไรก็ดี ในเดือนก.ค. เป็นเดือนแรกที่กลุ่มนักลงทุนในประเทศมีสถานะขายสุทธิ
มีลุ้นครึ่งหลังโฟลว์เข้าต่อ
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการสังเกตมูลค่าการซท่ขายรายวันตลอดช่วงเดือนก.ค. นี้ พบว่า กลุ่มทุนต่างชาติเริ่มกลับมามีการซื้อสลับขายเพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงการซื้อกลับในแต่ละครั้งนั้น เริ่มมีมูลค่าที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับมูลค่าการขายของตลอดทั้งเดือนก.ค. ส่งผลให้ในปัจจุบันทุนต่างชาติพลิกกลับมามีสถานะซื้อสุทธิ 1.24 หมื่นล้านบาท เป็นครั้งแรกของปี 68 นี้
สะท้อนให้เห็นว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้มีสัญญาณที่ดีที่เม็ดเงินทุนต่างชาติจะมีโอกาสไหลกลับเข้ามาลงทุนยังตลาดหุ้นไทยเพิ่มเติม ต้องยอมรับว่า ณ ปัจจุบันหุ้นไทยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูกมากๆ แล้ว Valuation ค่อนข้างน่าดึงดูดใจในการลงทุนระยะกลางและยาว
โดย P/E เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13 - 14 เท่า เป็นผลให้เม็ดเงินทุนต่างชาติเริ่มหันกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยในตอนนี้ และมีสัญญาณการกลับเข้าซื้อที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังปี 68 นี้อีกด้วย หากว่าไม่มีปัจจัยเชิงลบใหม่ๆ เข้ามากระแทกให้ทรุดซ้ำ ไม่ว่าจะเรื่องการเมือง หรือเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาษีการค้ากับสหรัฐฯ