วันภาษาไทยแห่งชาติ ทชภณ – ใบเฟิร์น คว้ารางวัลใช้ภาษาไทยดีเด่น
เนื่องใน วันภาษาไทยแห่งชาติ วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2568 นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากร ในฐานะหน่วยงานหลักด้านมรดกทางวัฒนธรรมของชาติภายใต้สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษ โดยได้ดำเนินกิจกรรมที่สำคัญ 3 กิจกรรม
หนึ่งในนั้นคือ การประกวดเพลง “เพชรในเพลง” จัดขึ้นเพื่อยกย่องบุคคลในวงการเพลงที่มีผลงานดีเด่นด้านภาษาไทย รวม 20 รางวัล แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- การประพันธ์เพลงดีเด่นด้านภาษาไทย: นักประพันธ์เพลงที่มีความสามารถผสมผสานความรู้ทางภาษา วรรณศิลป์ คีตศิลป์ และจินตนาการได้อย่างเหมาะสม จำนวน 6 รางวัล
- การขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทย: นักร้องที่ขับร้องเพลงได้ชัดเจนและถูกต้องตามหลักภาษาไทย มีศิลปะการใช้เสียง และถ่ายทอดจังหวะอารมณ์ในการขับร้องได้อย่างยอดเยี่ยม จำนวน 12 รางวัล
- การเชิดชูเกียรติ: บุคคล องค์กร หรือโครงการที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริมภาษาไทยและมีคุณูปการต่อวงการเพลง จำนวน 2 รางวัล
ทชภณ พลกองเส็ง
สำหรับ ‘รางวัลการขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทย’ ผลปรากฏว่า นาย ทชภณ พลกองเส็ง (พลพล พลกองเส็ง) ได้รับการตัดสินให้ได้รับ รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลชาย จากบทเพลง อยากให้รู้ว่าห่วงใย
“จริงๆ เพลงนี้เป็นโปรเจคไอเดียแห่งความคิดถึงกัน คิดถึงกันที่สุด คิดถึงคนที่จากกันไปแล้ว วันนั้นเผอิญน้องโอ๋ (บารเมศวร์ เมืองสันเทียะ) นักร้องนำ วง Full เข้ามาอยู่ที่ genie records ด้วยกัน ก็เลยได้คุยกัน ทางน้องๆ ที่คุยกันบอกโอ๋ว่า พี่พลอยากได้เพลงลักษณะนี้ เป็นโจทย์ไปจากผม โอ๋ก็บอกว่า ผมมีเพลงหนึ่งที่คิดว่าจะเหมาะกับพี่พล เขามีเพลงนี้อยู่แล้ว ก็เลยเขียนต่อให้จบ เป็นเพลงแห่งความคิดถึงกันที่เราอยากได้จริง ๆ ก็เลยได้เพลงนี้มา” ทชภณ พลกองเส็ง ให้สัมภาษณ์กับ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ถึงที่มาของบทเพลง ‘อยากให้รู้ว่าห่วงใย’
“ซึ่งพอโอ๋เขียนมาปุ๊บ ทั้งทำนองทั้งเนื้อร้องไม่มีแก้เลย เพลงนี้ผมโปรดิวซ์เองเพราะอยากได้ความรู้สึกที่ตัวเองอยากได้ อยากได้กีตาร์ เครื่องดนตรีน้อยๆ แล้วก็ร้องให้ชัดๆ”
ทชภณ พลกองเส็ง (พลพล พลกองเส็ง)
สำหรับการใส่เสียงร้อง ทชภณกล่าวเพิ่มเติมว่า ให้ความสำคัญมาก หากใส่เสียงร้องไปแล้วท่อนไหนประโยคไหนที่คำไม่ชัด ควบกล้ำไม่ได้ ก็บันทึกเสียงใหม่
โดยเนื้อเพลงท่อนที่พิถีพิถันเป็นพิเศษคือ “อยากให้รู้ว่าห่วงใย..” ต้องออกเสียงและเน้นคำให้เกิดความรู้สึกห่วงใย ทั้งรู้สึกและเห็นภาพจริงๆ
“ไม่ได้คิดมาก่อนว่าเพลงนี้จะได้รับรางวัลครั้งนี้ แต่ว่าการทำงานของผมที่ผ่านมาทุกๆ เพลง ผมให้ความสำคัญกับการร้องมาตลอด เพียงแต่ชุดแรกๆ ที่ผมไม่ได้คุมร้องเอง อาจมีบ้างที่หางประโยคเช่นตัวสะกด ง. ไม่มา เป็นบทเรียนให้เรา แต่หลังจากนั้นต้องชัดเลย ไม่ต้องมาแก้ ไม่ต้องมานั่ง..ประโยคนี้มันพูดว่าอะไรนะ”
พร้อมกับกล่าวฝากไปยังน้องๆ วัยรุ่นทุกวันนี้ ท่ามกลางสื่อโซเชียลมีเดีย มีการใช้คำศัพท์ใหม่ๆ คำสแลงเยอะขึ้นตามสมัยนิยมก็จริง แต่ส่วนหนึ่งก็ยังควรรู้จักการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง เพื่อช่วยกันสืบทอดภาษาของชาติ คือภาษาไทย ซึ่งชาติอื่นไม่มี
ใบเฟิร์น สุทธิยา
สำหรับ รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง ได้แก่นางสาวสุทธิยา รอดภัย หรือ ใบเฟิร์น สุทธิยา จากบทเพลง เสียงหวานจากหลานย่าโม
“เพลง ‘เสียงหวานจากหลานย่าโม’ เฟิร์นได้มีโอกาสรู้จักกับอาจารย์ที่แต่งเพลงให้ คืออาจารย์คม ร่อนพิบูลย์ ซึ่งท่านชื่อ ‘พี่ปัน’ ท่านเห็นความเป็นตัวตนของเฟิร์นในการร้องเพลงลูกทุ่ง และได้พูดคุยกันเห็นว่าเฟิร์นเป็นคนโคราช เป็นนักร้องเดินสายประกวด ทำอะไรอยู่ที่ไหน จนพี่ปันก็บอกเฟิร์นน่าจะมีเพลงสักเพลงที่เหมือนเป็นตัวเราและเป็นการขอบคุณแฟนเพลง ครั้งหนึ่งที่เราก้าวเข้ามาเป็นศิลปิน เราก็มีแฟนเพลงที่คอยซัพพอร์ตเราบนเส้นทางการเป็นศิลปิน ก็เลยได้เพลงนี้ขึ้นมา และท่านก็ให้อาจารย์มาร์ค ใบเตย เป็นผู้เรียบเรียง อาจารย์ทั้งสองท่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการทำเพลงให้หนูค่ะ” ใบเฟิร์น ให้สัมภาษณ์
นักร้องเพลงลูกทุ่งสาว ใบเฟิร์น สุทธิยา กล่าวถึงที่มาของบทเพลงที่ทำให้เธอคว้า รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง จากกิจกรรมการประกวด ‘เพชรในเพลง’ ซึ่งจัดโดยกรมศิลปากร เนื่องใน วันภาษาไทยแห่งชาติ วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2568
ใบเฟิร์นกล่าวด้วยว่า ได้รับบทเพลงนี้มานานมากแล้ว แต่เพิ่งจะมีโอกาสหยิบขึ้นมาทำ และได้ปล่อยเพลงนี้เมื่อปี 2567 และกล่าวถึงความรู้สึกครั้งแรกที่ได้รับบทเพลงนี้ว่า
“จำได้ว่าในวันแรกที่อาจารย์ส่งไกด์เพลงมาให้ฟังครั้งแรก เฟิร์นกำลังเตรียมตัวจะไปงานคอนเสิร์ตที่ปากช่อง อาจารย์ส่งมาตอนเช้า บอกว่าลองฟังไกด์เพลงนี้ก่อนนะว่าชอบหรือเปล่า
ได้ฟังแค่ที่ท่านร้องไกด์มากับเนื้อเพลงที่ท่านส่งมา ก็น้ำตาไหลเลย มีความรู้สึกว่าอยากมีเพลงสักเพลงที่บ่งบอกความเป็นตัวตนหนูที่อยากจะขอบคุณผู้ที่คอยซัพพอร์ต แล้วเราก็ถ่ายคลิปไปให้อาจารย์ว่าดีใจมากที่ได้เพลงนี้” ใบเฟิร์น กล่าวถึงความรู้สึกครั้งแรกที่ได้รับบทเพลงนี้
ใบเฟิร์น สุทธิยา, ทชภณ พลกองเส็ง, พนมบุตร จันทรโชติ, นัน - อนันต์
สำหรับความท้าทายและรายละเอียดในการบันทึกเสียงเพลงนี้ ใบเฟิร์นกล่าวว่า
“เฟิร์นมองว่าเพลงนี้ร้องยากทั้งเพลง เพราะเป็นความรู้สึกที่ตื้นตันอยู่ข้างในใจ ดนตรีมีการผสมผสานความเป็นลูกทุ่งยุคก่อน โดยเฉพาะดนตรีท่อนแรกที่เปิดตัว เหมือนศิลปินยุคก่อน ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่มากเลยสำหรับหนู
พอเข้าสู่ท่อนร้อง ด้วยคำร้องที่เป็นภาษาไทยลูกทุ่งจริงๆ ที่ค่อนข้างชัดเจน เราในฐานะผู้ถ่ายทอด ต้องพยายามเข้าใจความหมายของเพลงให้มากที่สุด และถ่ายทอดออกไปให้คนฟังเข้าใจได้มากที่สุด”
ใบเฟิร์นเล่าถึงบรรยากาศในห้องบันทึกเสียงเพลง ‘เสียงหวานจากหลานย่าโม’ ด้วยว่า
“ในห้องบันทึกเสียง มีอาจารย์ทั้งสองท่านอยู่ด้วย ทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ คอยแนะนำการถ่ายทอดอารมณ์และความเข้าใจในเนื้อเพลง
การบันทึกเสียงค่อนข้างหนัก เนื่องจากความเป็นเพลงลูกทุ่งไทยและการใช้ภาษาที่ต้องสัมพันธ์กัน หากคำที่ร้องออกไปฟังไม่ชัดเจน เฟิร์นจะขอร้องใหม่ทันที
ท่อนที่ร้องยากที่สุด คือท่อนฮุค ที่ว่า‘ฝากเสียงลูกร้องดังก้องไปทั่วทุกทิศ’ ซึ่งท่อนนี้ใช้ทั้งอารมณ์และความรู้สึกที่ลึกซึ้งมาก จนทำให้มีน้ำตาคลอ แต่น้ำตานั้นเป็นน้ำตาแห่งความตื้นตันใจ
ความยากยังมาจากโน้ตเพลงที่ค่อยๆ ไต่คีย์ขึ้นไป ทำให้พอเราซาบซึ้งกับเนื้อหาเพลงแล้ว การถ่ายทอดอาจมีความคลุมเครือ จึงต้องพยายามร้องท่อนนี้ให้ชัดเจนมาก”
ใบเฟิร์นกล่าวด้วยว่า "รางวัลนี้เป็นรางวัลที่ภาคภูมิใจมาก คิดว่าอาจารย์ทั้งสองท่านก็ภาคภูมิใจไปกับหนูเช่นกันหลังจากที่หนูผันตัวมาเป็นศิลปินอิสระ เราต่อสู้กับตัวเองและเส้นทางที่ตัวเองเดินค่อนข้างเยอะมากๆ แต่ท้ายที่สุด เราก็มองถึงพยายามและความตั้งใจที่เราทำ
วันนี้ที่ประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่แค่ตัวหนูคนเดียว แต่ยังมีครูเพลงทั้งสองท่าน มีผู้จัดการที่คอยดูแล มีครอบครัวที่คอยซัพพอร์ตข้างหลัง และยังมีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แม่ๆ พ่อๆ แฟนคลับที่ติดตามหนู คอยซัพพอร์ตและให้กำลังใจหนูทุกวันนี้”
เข็มและโล่เชิดชูเกียรติแก่ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น
กระทรวงวัฒนธรรม กำหนดจัดงาน วันภาษาไทยแห่งชาติ 2568 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2568 ภายในงานมีการ มอบเข็มและโล่เชิดชูเกียรติแก่ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น แบ่งเป็น 4 ประเภท จำนวน 16 รางวัล คัดเลือกโดย 'กรมส่งเสริมวัฒนธรรม' ดังนี้
ประเภทที่ 1: ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย จำนวน 1 ราย ได้แก่ รองศาสตราจารย์จุไรรัตน์ ลักษณะศิริ
จุไรรัตน์ ลักษณะศิริ
รศ.จุไรรัตน์ เริ่มรับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อปีพ.ศ.2516 ต่อมารับราชการเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และได้รับตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ระดับ 9 ภาควิชาภาษาไทย ได้รับการพิจารณาให้ต่อเวลาราชการอีก 5 ปี
ขณะรับราชการเคยดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าภาควิชาภาษาไทยและรองคณบดีฝ่ายบริหาร ด้านการสอนรับผิดชอบทั้งในระดับปริญญาบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการสอนภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
รางวัลผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น วันภาษาไทยแห่งชาติ 2568
ประเภทที่ 2: ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น จำนวน 7 ราย ได้แก่
- นายกิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน
- นายเผด็จ บุญหนุน
- รองศาสตราจารย์วิภาส โพธิแพทย์
- นายสมพล เข็มกำเหนิด
- นายเอกรัตน์ จิตรมั่นเพียร
- นายอนุสรณ์ ติปยานนท์
- รองศาสตราจารย์อรชุมา ยุทธวงศ์
ประเภทที่ 3: ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น จำนวน 6 ราย ได้แก่
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประภาศ ปานเจี้ยง
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์พวงผกา ธรรมธิ
- นายยุทธพงศ์ มาตย์วิเศษ
- นายวิเชียร รัตนบุญโน
- นางสำรวม ดีสม
- นายอรุณศิลป์ ดวงมูล
ประเภทที่ 4: ผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย จำนวน 1 ราย และ 1 องค์กร ดังนี้
- ประเภทบุคคล ได้แก่ นางสุรีย์ พันเจริญ
- ประเภทองค์กร ได้แก่ สมาคมกวีร่วมสมัย
นัน - อนันต์ อาศัยไพรพนา
ภายในงาน วันภาษาไทยแห่งชาติ 2568 ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ ชมสาธิตการเขียนอักษรโบราณและสาธิตการแปรอักษรโบราณสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์โดย รศ. ดร.อภิลักษณ์ เกษมผลกูล ผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย พ.ศ.2559
การร้องเพลงจากการประกวดสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, การแสดงชุด “บินให้ถึงฝัน …ร่วมกันรักษ์ภาษาไทย” โดย น้องกีต้าร์ เด็กชายนัฐโชติ มรกฎคันโท ได้รับรางวัลชมเชย อันดับ 2 ประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ
การแสดงของศิลปินผู้ได้รับรางวัล เพชรในเพลง จำนวน 6 เพลง จากกรมศิลปากร ดังนี้
- เพลง “ฟ้าหลังฝน” โดย ผิงผิง สรวีย์ ธนพูนหิรัญ รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลหญิง
- เพลง “คลื่น” โดย ชนาภรณ์ ทวีชาติ หรือ แพร ชนา รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงเพื่อชีวิตหญิง
- เพลง “จีบเธอได้ไหม” โดย นัน อนันต์ อาศัยไพรพนา รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย
- เพลง “เสียงหวานจากหลานย่าโม” โดย ใบเฟิร์น สุทธิยา รอดภัย รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง
- เพลง “แฟนเก่าที่เรายังรัก” โดย กาญจนา มาศิริ รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง
- เพลง “สู้ชีวิต” โดย วรพล นวลผกา หรือ น๊อตตี้ freedom รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงเพื่อชีวิตชาย
หน้าปกหนังสือจินดามณี ฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ
นอกจากนี้ กรมศิลปากร โดยสำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ ได้จัดพิมพ์หนังสือหายาก เรื่อง จินดามณี ฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ หนังสือแบบเรียนภาษาไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา สอนเรื่องอักขรวิธี การประสมอักษร และการผันวรรณยุกต์อย่างละเอียด
การจัดพิมพ์ครั้งนี้ได้ตรวจสอบชำระจากหลักฐานที่ค้นพบเพิ่มเติม ทำให้มีเนื้อหาสมบูรณ์มากกว่าที่เคยพิมพ์เผยแพร่มาก่อน กำหนดจัดพิมพ์จำนวน 1,000 เล่ม เพื่อเผยแพร่ในงานวันภาษาไทยแห่งชาติ พ.ศ.2568
พิธีมอบรางวัลผู้ใช้ภาษาดีเด่นแขนงต่างๆ ในงาน วันภาษาไทยแห่งชาติ 2568 นิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ จัดที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2568 ซึ่งตรงกับ วันภาษาไทยแห่งชาติ ระหว่างเวลา 08.00 - 12.00 น.