โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 4 สิงหาคม 2568

สวพ.FM91

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 4 สิงหาคม 2568

>> สธ.เผยโรงพยาบาลพนมดงรัก ถูกกัมพูชาถล่มเสียหายกว่า 45 ล้านบาท ต้องสร้างใหม่

07.00 น. ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา สสจ.สุรินทร์ ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.สุรินทร์ ที่เป็นผลจากการโจมตีสถานพยาบาลของกองทัพกัมพูชา

ผลการประมาณการมูลค่าความเสียหายด้านโครงสร้างและอาคารของโรงพยาบาลพนมดงรักครั้งล่าสุดนี้ ประมาณการความเสียหายใหม่ที่ 45,050,000 บาท เดิมกระทรวงสาธารณสุขประมาณการความเสียหายไว้ที่ 3,350,000 บาท ซึ่งเป็นประมาณการเบื้องต้นจากภาพถ่ายในช่วงที่ไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจได้

แต่หลังจากการลงพื้นที่ ตรวจพบความเสียหายจำนวนมากเมื่อเทียบจากประมาณการครั้งแรกทางภาพถ่าย ซึ่งแรงระเบิดคาดว่าอาจส่งผลกระทบระดับโครงสร้างและฐานรากของอาคาร และจำเป็นต้องสร้างใหม่จำนวน 4 อาคาร จึงมีการประมาณการความเสียหายใหม่ที่ 45,050,000 บาท

>> สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ หน่วยงานความมั่นคง ยังเฝ้าระวัง วางแนวกำลัง ปฏิบัติการตามแผน

07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยรายงานสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ภาพรวมเหตุการณ์ทั่วไปถึงเช้าวันนี้ ยังคงเป็นปกติ ไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน

ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงยังคง เฝ้าระวัง โดยยังวางกำลังตามแนวปฏิบัติการตามแผน เพื่อรักษาอธิปไตยไทยและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน

>> รมช.กลาโหม ไทย-กัมพูชา หารือเพื่อกำหนดกรอบและข้อตกลงฯ ก่อนร่วมถก GBC

10.00 น. ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายเลขาประชุม GBC ได้เริ่มหารือเพื่อกำหนดกรอบและตกลงหัวข้อการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมเตรียมการ 2 ฝ่ายประกอบด้วย ผู้แทนจากไทยและผู้แทนจากกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมประชุมฝ่ายเลขาฯ วันที่ 4-6 ส.ค.นี้

คณะกองเลขานุการ GBC ฝ่ายไทย ประกอบด้วย เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็นเลขานุการคณะกรรมชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา ผู้แทน กต. (กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมเอเชียตะวันออก) ผู้แทน มท. ผู้แทน สมช. ผู้แทน กห. (สำนักนโยบายและแผน กรมพระธรรมนูญ) ผู้แทน บก. ทท. (กรมข่าวทหาร กรมยุทธการ) ผู้แทน ทบ. (กรมยุทธการทหารบก กรมข่าวทหารบก กองทัพภาคที่ 1, 2 กองกำลังสุรนารี) ผู้แทนกองทัพเรือ (กรมยุทธการทหารเรือ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด) ผู้แทนกองทัพอากาศ ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ช่วยทูตทหารบก ทหารอากาศไทย ประจำกรุงพนมเปญ

>> "มาริษ" แจงสถานการณ์ชายแดนต่อ 74 ชาติ ย้ำไทยไม่เริ่มขัดแย้ง ร้องกัมพูชาหยุดสงครามข้อมูล

11.47 น. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศ พร้อมคณะ จัดบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาแก่คณะทูต 127 คน จาก 74 ประเทศ และ 16 องค์กรระหว่างประเทศ ณ กระทรวงการต่างประเทศ

นายมาริษย้ำ ไทยไม่ใช่ฝ่ายเริ่มต้นความขัดแย้ง และปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดการใช้ความรุนแรงและยุติสงครามข้อมูลที่บิดเบือนข้อเท็จจริง

เขาเผยว่า ไทยยังยึดมั่นกลไกทวิภาคี และไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกในกรณีนี้ โดยขอให้ทั้งสองฝ่ายแก้ปัญหาด้วยความจริงใจและสันติวิธี ภายใต้กรอบอาเซียนและสหประชาชาติ

>> จับสายลับกัมพูชา พร้อมโดรน ลอบเข้ามาในไทยด้านชายทะเล อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

11.51 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย บน.5 จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้จับกุมสายลับกัมพูชา ชื่อ นายเร พร้อมด้วยโดรนและอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ (จีพีเอส) ที่ลักลอบเข้ามา บริเวณด่านบ้านแหลม ต.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดยได้ลักลอบเข้ามาในไทยช่วงเวลา 03.00 น. และ ถูกจับกุมตัวได้ในเวลา 04.00 น.และอยู่ระหว่างการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย โดยเป้าหมายของสายลับกัมพูชา คือ กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีการทำงานในลักษณะเป็นทีม ใช้โดรนลำแรก บินตรวจการณ์และทิ้งกล่องอุปกรณ์จีพีเอส ลงสู่เป้าหมาย จากนั้นโดรนลำที่ 2 จะทิ้งลูกระเบิดมือ ส่วนโดรนลำที่ 3 จะทิ้งลูกระเบิด ค.ใส่เป้าหมาย

ล่าสุดทางฝ่ายไทย ได้แจ้ง ทุก กอ. ให้ไปสำรวจ สิ่งของแปลกปลอม ที่อาจจะถูกโดรนหย่อน กล่อง GPS ไว้ในพื้นที่บริเวณของทุกหน่วย และให้ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนโดยเร็วที่สุด

>> ก.พลังงาน- คปภ. ประสานช่วยเจ้าของปั๊มน้ำมันที่ถูกระเบิดกัมพูชา

11.54 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน นางกมลรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของสถานีบริการน้ำมัน พีทีทีสเตชั่น บ้านผือ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการยิงลูกระเบิด BM21 ที่ถูกยิงจากฝั่งกัมพูชา เข้าร้องเรียนต่อกระทรวงพลังงาน โดยมีพันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายคณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล ผู้ช่วยเลขาธิการสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รับเรื่อง และแถลงข่าวร่วมกัน

พันเอก เฟื่องวิชชุ์ กล่าวว่า แม้กระทรวงพลังงานจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องโดยตรง แต่กระทรวงพลังงาน โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มอบหมายให้ดูแลและเป็นตัวกลางในการประสานงานและหารือกับทาง คปภ. และผู้บริหารของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR) ในการหาแนวทางแก้ไขและช่วยเหลือเจ้าของสถานีบริการน้ำมัน

นายคณานุสรณ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบกรมธรรม์ที่ทางเจ้าของสถานีบริการได้ทำไว้กับบริษัทประกันนั้น แม้ในกรมธรรม์จะระบุว่าไม่คุ้มครองภัยจากภัยสงครามหรือการรุกราน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ยังไม่ใช่ภัยจากสงคราม เป็นเพียงการปะทะเท่านั้น จึงถือว่ากรมธรรม์ยังต้องคุ้มครองและจ่ายค่าสินไหมให้กับผู้ได้รับความเสียหาย

ด้านนางกมลรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของสถานีบริการน้ำมัน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ แต่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะสถานีบริการน้ำมันและร้านสะดวกซื้อของตนได้รับผลกระทบอย่างมาก ต้องปิดสถานีบริการมากกว่า 3 เดือน มูลค่าความเสียหายกว่า 21 ล้านบาท ซึ่งสถานีบริการน้ำมันดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการผ่อนชำระเงินกู้กับธนาคาร

>> หนีไม่พ้น ทีมหนุมานบุกจับ หน่มใหญ่ซิ่งรถชนตำรวจกองปราบหวังหนีคดี ก่อนซ่อนตัวบ้านลูก

12.19 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม นายนอ (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี บุคคลตามหมายจับ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฐาน “พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ และทำให้เสียทรัพย์” โดยจับกุมได้ที่ บ้านเลขแห่งหนึ่ง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุเมื่อปี 2565 ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด นายนอ (นามสมมุติ) กับพวกได้ร่วมกันลักลอบขนบุคคลต่างด้าวเข้ามาในประเทศ โดยการใช้รถกระบะซุกแรงงานต่างด้าว เมื่อ นายนอ (นามสมมุติ) ขับเข้ามาบริเวณจุดตรวจเห็นตำรวจ จึงได้ขับรถหลบหนี ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้ขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในปี 2566 แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงกำหนดนัดศาล กลับม่มาศาล จึงได้ออกหมายจับฐาน “พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง”

กระทั่ง ตำรวจทราบว่าหลบหนีมาซ่อนตัวที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งระหว่างเข้าจับกุม นายนอ (นามสมมุติ) ใช้รถกระบะขับพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ได้รับความเสียหาย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ พร้อมทีมหนุมานได้ร่วมกันทำการสืบสวนจนทราบว่า นายนอ (นามสมมุติ) ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านเช่าของลูกชาย จึงวางแผนเข้าตรวจค้นจับกุม พร้อมตรวจยึดรถยนต์กระบะคันดังกล่าว จากนั้นจึงได้นำตัวและรถกระบะคันดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แต่จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหา เบื้องต้น ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

>> ก.ต่างประเทศ เตรียมเชิญองค์การระหว่างประเทศ เข้าพบเชลยกัมพูชา พรุ่งนี้ ย้ำกัมพูชาต้องชดใช้เหตุยิงใส่โรงพยาบาลไทย

13.57 น. นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารยิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่พลเอกโมฮัมหมัด นิซาม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะติดตามการหยุดยิงไทย-กัมพูชา ให้สัมภาษณ์กับสื่อของมาเลเซีย ยืนยันว่า ทหารกัมพูชาทุกคนที่อยู่ในความควบคุมของไทย ได้รับการปฏิบัติอย่างดี ซึ่งขัดแย้งกับที่ฝ่ายกัมพูชาที่เสนอข่าว และร้องเรียนต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ว่าไทยทรมานและปฏิบัติต่อทหารกัมพูชาอย่างไร้มนุษยธรรม แสดงให้เห็นถึงผลเชิงประจักษ์ของหลักฐานและการชี้แจงของฝ่ายไทย และความล้มเหลวของการบิดเบือนข้อมูลจากฝ่ายกัมพูชาหรือไม่

นายนิกรเดช ย้ำว่าตนเองเชื่อมั่นมาตลอดว่าความจริงเท่านั้นที่จะชนะ ไทยสามารถพิสูจน์ได้ในทุกสิ่งที่พูด จากการที่มาเลเซียสนับสนุนสิ่งที่ไทยได้กล่าว แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการบิดเบือนข้อมูลของฝ่ายกัมพูชานั้นล้มเหลว ยืนยันว่าไทยปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกควบคุมตัวอย่างมีมนุษยธรรม และเป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศทุกประการ

โดยในวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค. 68) ไทยจะเชิญองค์การระหว่างประเทศไปพบกับทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ขณะนี้ด้วย ด้วยความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ไทยพูดไม่มีการบิดเบือน เป็นการถ่ายทอดความจริงทุกประการ หน่วยงานต่าง ๆ ในระดับสากลสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ประชาคมโลกจะได้ทราบข้อเท็จจริงถึงการปฏิบัติของไทย ขณะที่การโจมตีเป้าหมายโรงพยาบาล มีข้อกฎหมายใดที่เอาผิดฝั่งกัมพูชาได้แน่ ข้อกฎหมายระหว่างประเทศที่กำกับว่าผู้กระทำความผิดจะต้องชดใช้ กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการแบบคู่ขนาน ดูว่าสิ่งที่เราจะต้องเรียกร้องจากฝ่ายที่รุกรานเราคืออะไรบ้าง ไม่ใช่แค่ค่าเสียหาย มีมากกว่านั้น

>> คนร้ายลอบยิงชาวบ้านที่ อ.ระแงะ เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 1 ราย

15.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงมีทั้งผู้บาดเจ็บและมีผู้เสียชีวิต ในพื้นที่ บ้านบูเก๊ะปือเราะห์ (บ้านย่อย) ม.1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

ที่เกิดเหตุ พบร่างของผู้เสียชีวิต คือ นายอามราม อายุ 50 ปี ชาว ต.มะรือโบตก เสียชีวิต และทราบว่ามีผู้บาดเจ็บ คือ นายมาหะมะรอบี อายุ 60 ปี ชาว ต.ลาโละ อ.รือเสาะ ได้เข้ารับรักษาตัวที่ รพ.ยี่งอ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนและสืบสวนสาเหตุ รวมถึงติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> EOD สุรินทร์ ตรวจสอบพื้นที่ชายแดนกาบเชิง พบหลุมระเบิด BM-21 กว่า 10 แห่ง

16.45 น. พ.ต.อ. ต่อศักดิ์ ศรีเสริม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ (รอง ผบก.ภ.จว. สุรินทร์) นำทีมชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) กองกำกับการสืบสวน ภ.จว. สุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรกาบเชิง เข้าตรวจสอบพื้นที่กระสุนตกในเขตอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ หลังได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่
จากการเข้าตรวจสอบพิสูจน์ทราบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังสำรวจพื้นที่เป้าหมายรวมทั้งสิ้น 9 จุด ผลการตรวจสอบพบหลุมที่เกิดจากแรงระเบิดของจรวด BM-21 จำนวน 10 หลุม และหลุมระเบิดที่เกิดจากกระสุนปืนใหญ่ไม่ทราบขนาดอีก 2 หลุม กระจายอยู่ในพื้นที่ โดยอำเภอกาบเชิงมีจุดกระสุนตกมากกว่า 100 หลุมที่ยังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบ

การเข้าตรวจสอบในครั้งนี้เป็นการดำเนินการเพื่อสร้างความปลอดภัยและคลายความกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยหลังจากนี้ ชุด EOD จะทำการประเมินสถานการณ์และวางแผนเพื่อเก็บกู้หรือทำลายวัตถุระเบิดที่อาจยังหลงเหลืออยู่ต่อไป พร้อมทั้งได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่หากพบวัตถุต้องสงสัยหรือหลุมระเบิดเพิ่มเติม ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วนและห้ามเข้าใกล้หรือสัมผัสโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

>> รวบเพิ่มอีกหนึ่งขบวนการมูลนิธิทิพย์ อ้างนำไปช่วยการศึกษา-อุทกภัย สุดท้ายเข้ากระเป๋าตัวเอง

18.00 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) จับกุม นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”สถานที่จับกุม บริเวณหน้าอาคาร ถ.ข้าวหลาม แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ ในเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาจัดงานเปิดตัวสถาบันแห่งหนึ่งอย่างเป็นทางการ โดยงานนี้ถูกออกแบบมาอย่างหรูหรา มีการเชิญบุคคลมีชื่อเสียงในสังคมมาเป็นวิทยากร เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้สถาบันดูน่าเชื่อถือ ผู้จัดงานประกาศต่อสาธารณชนว่าองค์กรนี้มีเป้าหมายสูงส่ง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการศึกษา ด้วยการนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในการเรียนการสอน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ทัดเทียมสากลไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการเล่าถึง “ภารกิจช่วยเหลือสังคม” โดยอ้างว่าจะช่วยผู้ประสบอุทกภัยในหลายจังหวัด นำเงินบริจาคไปบูรณะบ้านเรือนและจัดหาสิ่งของจำเป็นให้ผู้เดือดร้อน การรับบริจาคดำเนินผ่านบัญชีธนาคารในนาม “มูลนิธิแห่งหนึ่ง” โดยมีนายเอ ผู้ต้องหา ดำรงตำแหน่งเลขานุการสถาบันฯ แต่เบื้องหลังภาพสวยงามกลับไม่เป็นอย่างที่สังคมเชื่อ

จากการสืบสวนของตำรวจสอบสวนกลาง พบว่าเงินบริจาคจากประชาชนรวมกว่า 1 ล้านบาท ไม่ได้ถูกนำไปใช้เพื่อการศึกษา หรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามที่ประกาศไว้ เงินส่วนใหญ่ถูกถอนออกในลักษณะปกปิดข้อเท็จจริง และมีการโอนย้ายไปยังบุคคลอื่นโดยปราศจากเอกสารหรือหลักฐานยืนยันการใช้จ่ายเพื่อสาธารณประโยชน์หลักฐานยืนยันชัดเจนว่า สถาบันแห่งนี้ไม่เคยมีการดำเนินกิจกรรมด้านการศึกษา หรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยจริง หากแต่ถูกใช้เป็น “ฉากบังหน้า” เพื่อระดมทุนหลอกลวงผู้บริจาค โดยอาศัยชื่อเสียงของบุคคลที่มาร่วมงานเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเบี่ยงเบนความสงสัยเมื่อพยานหลักฐานเพียงพอ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมข้อมูลขอหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และสามารถจับกุมนายเอ (นามสมมุติ) ได้สำเร็จ

ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

>> พบร่างหญิงชาวต่างชาตินิรนาม ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นที่หาดกมลา ตร.เร่งหาสืบหาข้อมูล จ.ภูเก็ต

18.30 น. เจ้าหน้าทึ่ตำรวจ สภ.กมลา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุ พบนักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิต ริมหาดกมลา ในพื้นที่ ม.3 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบว่า ผู้เสียชีวิต เป็นผู้หญิงต่างชาติ ไม่ทราบชื่อ จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด ทราบว่า ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. มีพลเมืองดีพบหญิงชาวต่างชาติมาเล่นน้ำ ใกล้ๆ บริเวณที่พบศพ และนำเสื้อผ้าบางส่วนวางไว้บริเวณบนชายหาด ต่อมาพบว่า มีคนลอยน้ำ จึงมาแจ้งไลฟ์การ์ด เข้าช่วยเหลือ เมื่อไลฟ์การ์ดมาถึงพบว่าร่างถูกคลื่นซัดมาบริเวณริมหาด ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่พลเมืองดีพบเห็นครั้งแรก ก่อนที่จะจมน้ำ

จากการตรวจสอบ ตามร่างกาย ไม่พบร่องรอยการทำร้าย และได้ประสาน กู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต สาขาป่าตองรับศพส่ง โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์นิติเวชตรวจสอบ สาเหตุการตายอย่าง ละเอียดอีกครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.กมลา ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก่อนขณะผู้ตายเดินทางมา เล่นน้ำและหลังเกิดเหตุ รวมถึงผู้เห็นเหตุการณ์ ก่อนตรวจสอบ อัตลักษณ์ตัวบุคคล เพื่อจะได้รายงานสถานทูต ตม. ก่อนประสานญาติผู้เสียชีวิตต่อไป

>> แผ่นดินไหว ที่เมืองแม่ฮ่องสอน

18.39 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.1 ความลึก 2 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ในพื้นที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน

>> รวบหญิงชาวมาเลเซีย ขโมยกระเป๋าเงินแม่ค้า มีเงินสด 3 หมื่นกว่าบาท ตำรวจ สภ.เบตง ตามจับได้ควัน พร้อมของกลาง

19.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน สภ.เบตง ได้รับแจ้ง มีคนร้ายลักทรัพย์ที่ร้านขายกระเป๋า บริเวณอุโมงค์ปิยะมิตร ม.2 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา

โดยผู้เสียหาย นางยอ (นามสมมุติ) อายุ 74 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า ประมาณเที่ยง ขณะที่ตนนั่งขายกระเป๋าอยู่ในร้าน ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และมีนักท่องเที่ยวต้องการซื้อทุเรียน ตนจึงเดินไปขายทุเรียน โดยแขวนกระเป๋าที่ใส่เงินไว้ในร้าน ซึ่งภายในกระเป๋ามีเงินอยู่ประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท พอเดินกลับมาก็เห็นกระเป๋าหายไป จึงไปดูกล้องวงจรปิด ก็พบว่ามีหญิงชาวต่างชาติ สวมเสื้อสีดำ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบ ได้เดินมาด้านข้างร้าน ก่อนที่จะเดินเข้ามาและหยิบกระเป๋าที่ใส่เงินออกไป โดยได้นำกระเป๋าไปทิ้งไว้ที่ใต้ต้นทุเรียน ห่างจากร้านประมาณ 50 เมตร จึงได้โทรศัพท์ให้ลูกสาวไปแจ้งความที่โรงพัก

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ติดตามตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี และสั่งให้ตำรวจชุดปราบปราม ตั้งจุดตรวจจุดสกัด พร้อมทั้งประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเบตง ป้องกันคนร้ายลักลอบหนีกลับประเทศ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. เจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวน ก็สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ที่ ขณะที่กำลังไปใช้บริการ ร้านนวดแผนโบราณแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมืองเบตง โดยเป็นผู้หญิง อายุ 55 ปี สัญชาติชาวมาเลเซีย พร้อมของกลางเงินสด ซึ่งมีทั้งเงินไทยและเงินประเทศมาเลเซีย ประมาณ 38,000 บาท

จากการสอบสวนรับสารภาพ เดินทางเข้ามาอำเภอเบตงตั้งแต่เมื่อวานนี้กับเพื่อนๆ วันนี้ได้เหมารถตุ๊กๆ ไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยว เดินทางไปถึงอุโมงค์ปิยะมิตร ก็ได้แยกย้ายกับเพื่อนๆ เดินเที่ยว ตนเห็นที่ร้านขายกระเป๋ามีผู้สูงอายุอยู่คนเดียว สบโอกาส จึงได้เข้าไปขโมยกระเป๋าที่ใส่เงิน เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดเชียงใหม่

21.18 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 1.5 ความลึก 3 กม. บริเวณพื้นที่ของ ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน

>> แผ่นดินไหว จังหวัดเชียงใหม่

23.17 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.4 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ยังไม่มีรายงานการรับรู้ถีงแรงสั่นสะเทือน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สวพ.FM91

รถตู้ตกสะพานกลับรถบ้านระกาศ ถนนเทพรัตน กม.32

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

LIVE FM91 ข่าวเช้าจราจร : 5 สิงหาคม 2568

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

THE KEY MRT เพชรเกษม 48 โอกาสลงทุน…ในคุณภาพชีวิต อยู่เองก็ใช่ ปล่อยเช่าก็ง่าย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อุบัติเหตุ ถนนเพชรเกษม ขาออก บริเวณใต้บีทีเอส บางหว้า

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

กะเทยแสบ เสนอค้ากาม คลอเคลีย หนุ่มอินเดียเจ้าของร้านจิวเวลรี่ ก่อนปลดสร้อย

77kaoded

TDRI ประเมินเศรษฐกิจไทยโต 1.7–2% ภาษีทรัมป์กดดัน แนะเร่งดึง FDI

ฐานเศรษฐกิจ

สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหมซัดแรง ไม่กี่ 10 ปี เขมรลืมทุกอย่าง ไทยเคยโอบรับเป็นที่พึ่งพิงสุดท้าย หลังอพยพหนีจาก เขมรแดง ก่อนต่อมากลับหันอาวุธเข้าหา

สยามนิวส์

THE KEY MRT เพชรเกษม 48 โอกาสลงทุน…ในคุณภาพชีวิต อยู่เองก็ใช่ ปล่อยเช่าก็ง่าย

สวพ.FM91

พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2568 กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่

สวพ.FM91

จับตา "วาระลับ" กลาโหมชง 2 โครงการใหญ่ เข้าครม. ไฟเขียววันนี้

ฐานเศรษฐกิจ

เช็กเงินเยียวยา ชายแดนไทย - กัมพูชา ครม.อนุมัติเพิ่ม 8-10 ล้าน

ฐานเศรษฐกิจ

จับตาโยกย้าย 'คลัง' ก็อก 2 'พชร อนันตศิลป์' ข้ามห้วยนั่งปลัดกระทรวงดีอี

ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...