ศบ.ทก.จี้เขมร เก็บศพทหาร ย้ำไทยยึดหลักสากล
ศบ.ทก.เรียกร้องกัมพูชา จัดการศพทหารชายแดนให้ถูกต้อง ขณะที่เชลยศึก 18 คน ยืนยันปฎิบัติตามหลักสากล พร้อมให้องค์กรระหว่างประเทศตรวจสอบ และสำหรับการประชุม GBC วันที่ 7ส.ค.นี้ ต้องดำเนินอย่างรอบคอบ และไทยพร้อมกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพื่อสันติ
โดยพลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) บอกว่า สถานการณ์ภาพรวมบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา เวลานี้ทั้งสองฝ่ายยังวางกำลังในที่ตั้ง ไม่มีการเคลื่อนไหว
แต่มีรายงานว่ากัมพูชา ได้ดัดแปลงที่มั่น และเพิ่มเติมกำลังในพื้นที่หลัก ประกอบด้วย ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องโดยเอาว์ ช่องอานม้า ช่องตาเฒ่า สัตตะโสม และภูผี โดยมีการเพิ่มกำลังทดแทนกำลัง ที่สูญเสียในแต่ละพื้นที่ ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ได้ว่าฝ่ายกัมพูชาได้รับการสูญเสียจำนวนมาก
ส่วนการปฏิบัติต่อเชลยศึกที่เป็นข่าว ซึ่งปัจจุบันมีการควบคุมตัวเชลยศึกจำนวน 20 นาย โดยส่งกลับไปแล้ว 2 นาย เนื่องจากป่วยและได้รับบาดเจ็บ คงเหลือ 18 นาย ที่อยู่ในการควบคุมตัวของฝ่ายไทย
ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของกัมพูชา ได้ส่งคำร้องไปที่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวหาฝ่ายไทย ว่าควบคุมตัวทหารกัมพูชา ซึ่งผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ถือเป็นความพยายาม บิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง ฝ่ายไทยขอประณามการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องนี้
ทั้งนี้ ทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมดถือเป็นเชลยศึก ซึ่งอนุสัญญาเจนีวาบ่งชัดเรื่องการปฏิบัติต่อเชลยศึก และเมื่อสภาวะการรบสิ้นสุดลงประเทศที่ควบคุมตัวมีหน้าที่ปล่อยตัวกลับประเทศ ซึ่งปัจจุบันถือว่าสถานะนั้น ยังไม่สิ้นสุดลง เพราะการหยุดยิงยังไม่ถือว่าสิ้นสุดการรบ
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศก็มีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งประชาชาติ ประท้วงต่อข้อกล่าวหาของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของกัมพูชา ที่กล่าวหาไทยว่าระเมิดการปฏิบัติ ต่อผู้ถูกควบคุมตัว หรือเชลยศึกเหล่านี้แล้ว
และเพื่อความโปร่งใสและเผยแพร่ข้อเท็จจริงให้ประชาคมโลกทราบ สัปดาห์นี้ฝ่ายไทยได้เชิญผู้แทนจากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ รวมถึงสำนักงานข้าหลวงใหญ่ สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวด้วย
และสำหรับศพทหารกัมพูชา จะเห็นว่ากองทัพกัมพูชา เพิกเฉยในการปฏิบัติต่อศพทหารทุกนายของกัมพูชา ซึ่งไทยยึดหลักมนุษยธรรมเสมอมา แม้ว่าเป็นฝ่ายถูกกระทำก็ยังเคารพ ต่อศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นคนชาติใด
โดยการปฏิบัติของกัมพูชาที่ผ่านมา เห็นว่าการปฏิบัติต่อศพ ของฝ่ายกัมพูชา มีการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากลขั้นพื้นฐาน คือ การทอดทิ้งร่างผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะทหารของตนเอง ไม่ใช่แค่การขัดต่อหลักศีลธรรม แต่ยังเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
อีกทั้งเป็นการละเมิดต่อเกียรติยศของกองทัพกัมพูชาเอง สะท้อนถึงการละเลยศักดิ์ศรีของทหารกัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของทหารกัมพูชาที่ยังมีชีวิตอยู่ รวมถึงครอบครัวผู้เสียชีวิต ขัดต่อหลักศาสนาและขนบธรรมเนียมประเพณี และสุขอนามัยข้ามพรมแดนด้วย
นอกจากนี้ ยังต้องขอความร่วมมือให้งดเผยแพร่ข่าวปลอม ซึ่งส่งผลกระทบให้เกิดความวิตกกังวลของประชาชนในพื้นที่ โดยที่ผ่านมามีข่าวการเคลื่อนย้ายกำลังของทหารในพื้นที่ ทำให้เกิดความกังวลและตื่นตระหนกต่อประชาชน
และสำหรับกำหนดการประชุม GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม ผู้สังเกตการณ์ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน จะเข้าสังเหตุการณ์ในวันสุดท้าย 7 สิงหาคมเท่านั้น ส่วนการประชุม ของฝ่ายเลขานุการ จะมีเฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและกัมพูชาเข้าร่วมประชุมเท่านั้น โดยการประชุมจะดำเนินการอย่างรอบคอบ ยึดอธิปไตยของชาติเป็นหลัก และไทยพร้อมกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews