การเมืองไทย เดือนส.ค.แรง! คดี ทักษิณ-อิ๊งค์ เขย่า SET INDEX โบรกฯ แนะเก็บหุ้นปันผล-กำไรโต
การเมืองไทยมีผลต่อตลาดหุ้นอย่างชัดเจน! ล่าสุดเดือนส.ค.68 จะมี 3 คดีทางการเมืองใหญ่ ที่อาจชี้ตะตา SET INDEX แต่ถ้ากระบวนการของสภายังคงอยู่ และไม่มีการยุบสภาในช่วงเดือน ส.ค.68 น่าจะทำให้การเบิกจ่ายงบประจำปี 69 ยังคงกรอบเวลาเดิม
ความเห็น นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า เดือน ส.ค.68 จับตา 3 คดีทางการเมืองที่อาจชี้ชะตาทิศทาง SET INDEX โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. “คดีชั้น 14” ทักษิณ ประเด็น: ไม่ได้ติดคุกจริง แต่ใช้เวลา 181 วันที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ สถานะ ไต่สวนพยานนัดสุดท้าย 30 ก.ค. คาดหมายคำวินิจฉัยเดือน ส.ค.
2. “คดี ม.112” ทักษิณ ประเด็น สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ พาดพิงสถาบันฯในอดีต นัดฟังคำพิพากษา 22 ส.ค. 68 และ 3. “คลิปเสียงฮุน เซน” แพทองธาร ข้อกล่าวหา เข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง ทำความเสื่อมเสียต่อชาติ โดยเส้นตาย สิ้นเดือน ก.ค. 68 ครบกำหนดยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ คาดหมาย ศาลอาจมีคำวินิจฉัยพ้น-ไม่พ้นตำแหน่ง ในเดือน ส.ค.68
สำหรับปัจจัยความไม่แน่นอนทั้ง 3 คดีน่าจะกดดันให้ SET INDEX ผันผวนช่วงก่อนคำตัดสิน อย่างไรก็ตามหากกระบวนการของสภายังคงอยู่ และไม่มีการยุบสภาในช่วงเดือน ส.ค.68 น่าจะทำให้การเบิกจ่ายงบประจำปี 69 ยังคงกรอบเวลาเดิม และมีมาตรการกระตุ้นออกมาในช่วงครึ่งหลังปี 68
อีกทั้งทิศทางดอกเบี้ยไทยครึ่งหลังปี 68 มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 1-2 ครั้ง ราว 0.25-0.50% สะท้อนผ่านตราสารหนี้ไทยอายุน้อยกว่า 7 ปีที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.75% จึงคาดหมายว่าเศรษฐกิจไทยไม่น่าจะเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวมากนัก และมีโอกาสเกิด TECHNICAL RECEESION น้อย
ดังนั้นจังหวะดังกล่าวถือเป็นโอกาสสะสมหุ้นใหญ่ที่มี HIGH DIVIDEND YIELD หรือ PROFIT GROWTH 68 เติบโต อย่าง PTT, SCC, CPALL, BDMS, TRUE, PLANB