เปิดภาพ EOD เคลียร์กระสุนจรวด BM-21 หมู่บ้านกระสุนตก
เปิดภาพ เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเคลียร์ทำลายกระสุนจรวด BM-21 ของกัมพูชายิงตกฝั่งไทย ลงไร่นา-สวน และบ้านเรือน ใน จ.อุบลราชธานี
จากกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ผู้นำชุมชนในจังหวัดอุบลราชธานี ออกสำรวจหมู่บ้านกระสุนตกทั้ง 2 วัน จากการตรวจสอบพบว่ามีรวมกว่า 10 หมู่บ้าน พบหัวจรวดจากเครื่องยิงจรวด BM- 21 จากฝั่งกัมพูชาตกตกลงที่ฝั่งไทย 57 หัว และมี 5 หัวที่ยังทำงานไม่สมบูรณ์ไม่ระเบิดออก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำลาย เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน หากมีประกาศให้กลับเข้าที่พักอาศัยได้หลังจากอพยพออกไปตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่เกิดเหตุปะทะกันบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา
โดยหน่วยงานความมั่นคงและฝ่ายปกครองได้ประสานให้กับผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้ประกาศแจ้งกับชาวบ้านว่าจะมีการทำลายหัวจรวดจากเครื่องยิงระเบิดในวันนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความแตกปืนและให้เตรียมพร้อมอยู่ในที่ปลอดภัย
พร้อมได้มีการจัดทำเอกสารเซ็นรับทราบทั้งของหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองให้ทุกหน่วยรับทราบรับรู้ร่วมกันถึงขั้นตอนการทำลายหัวจรวดครั้งนี้
โดย ตำรวจ สภ.น้ำยืน ได้ให้ชุดล่วงหน้านำโพลิสไลน์ มากำหนดแนวเพื่อไม่ให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและรถยนต์ของชาวบ้านผ่านเข้า-ออก ตอนช่วงที่ทำลายระเบิด ก่อนที่เจ้าหน้าที่ EOD จะเดินสายวงจรและนำระเบิดที่เตรียมไว้ ไปฝังที่บริเวณปากหลุมของจรวดที่ฝังอยู่ใต้ดิน จากนั้นได้ตะโกนให้ทุกคนปิดสัญญาณโทรศัพท์ ก่อนนับถอยหลังเตรียมจุดระเบิด ซึ่งทุกคนต้องออกไปอยู่นอกแนวรัศมีการทำลายล้างห่างออกไปประมาณ 150 เมตร
โดยจุดแรกเริ่มต้นที่บริเวณริมถนนเยื้องกับวัดป่าหนองขอนเจริญ หลังจากตรวจพบว่ามีหัวจรวดยิงมาจากฝั่งกัมพูชาตกลงบริเวณริมถนนจุดนี้ ทันทีที่นับถอยหลัง 3-2-1 ตำรวจอีโอดีได้กดชนวนให้ระเบิดที่ฝังไว้ทำงาน เพื่อทำลายหัวจรวดที่ฝังอยู่ใต้ดิน เสียงของระเบิดดังสนั่นกึกก้องไปทั่วบริเวณและมีเศษดินพุ่งขึ้นสูงประมาณ 5 เมตร
อีกจุดอยู่บริเวณริมถนนซึ่งเป็นลักษณะทางหลวงชนบท หัวจรวดจากเครื่องยิงจรวด BM-21 ตกลงบริเวณริมทุ่งนา หัวจรวดระเบิดได้ไม่สมบูรณ์มีระเบิดไปแล้วบางส่วน ทำให้เกิดรอยแยกบริเวณถนน ทันทีที่นับถอยหลังเจ้าหน้าที่ EOD กดระเบิดผ่านชนวนไฟฟ้า ไปที่ระเบิด C4 (ซีโฟร์) และเกิดเสียงดังสนั่นดินที่อยู่บริเวณนั้นพุ่งขึ้นสูงกว่า 10 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมดและสื่อมวลชนอยู่แนวปลอดภัยห่างไป 150 เมตร
ซึ่งหัวจรวดที่ตก บริเวณจุดนี้ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองรวมถึงตำรวจ มีความเป็นห่วงและกังวลว่าแรงระเบิดจะกระทบกับโครงสร้างบ้านของชาวบ้านเพราะตกอยู่บริเวณที่ดินหลังบ้านพอดี และหัวจรวดจุดนี้ยังอยู่ในสภาพเต็ม ขนาดความยาวทั้งบอดี้อยู่ที่ 2 เมตร แต่ยังทำงานไม่สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ต้องใช้ยางรถบรรทุก ถึง 4 เส้น มาวางเป็นการกั้นแนว เพื่อลดการกระจายของดินและเพื่อให้ดินพุ่งขึ้นในแนวดิ่ง เวลาจุดระเบิด
จุดที่ 3 อยู่หลังบ้านเรือนประชาน ห่างจากจุดที่ 2 ประมาณ 5 กิโลเมตร กระสุนได้ตกลงมาเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งผู้ใหญ่บ้าน ได้มีการเจรจาทำความเข้าใจกับเจ้าของบ้าน ว่าเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องทำลายลูกระสุนปืนดังกล่าว ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังบ้าน การทำลายกระสุน BM-21นั้น อาจจะทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหา แต่ทางภาครัฐก็จะมีการเยียวยาในโอกาสต่อไป
ซึ่งเจ้าของบ้านรับทราบและยินยอมให้เจ้าหน้าที่ทำลายกระสุนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการเตรียมอุปกรณ์ และลงมือทำลายหัวกระสุนดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์ ตัวบ้านและทรัพย์สิน ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
นางอร ภรรยาเจ้าของบ้าน เล่าว่า วันที่กระสุนตกสามีอยู่บ้านเพียงลำพัง ตนเองและลูกได้อพยพไปศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะเกิดเหตุสามียืนอยู่หน้าบ้าน กระสุนได้พุ่งตกลงมาด้านหลังบ้าน แต่ไม่ระเบิด จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบ วันนี้เจ้าหน้าที่มทำลายแล้ว ตนเองก็รู้สึกโล่งใจมาในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังกังวลเรื่องบ้านจะได้ความเสียหายไหม หลังจากนี้ตนเองอยากให้ทางรัฐเยียวยาเรื่องรายได้ เพราะผักที่ปลูกขายตอนนี้ก็ขายไม่ได้ ไม่มีเงินทุนมาหมุนเวียน