โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ไต่สวนนัด2 คดีทักษิณ ชั้น 14 ศาลเบิกตัว 5 พยานกลุ่มหมอ-พยาบาล รพ.ราชทัณฑ์ สอบปมส่งตัวรักษาฉุกเฉิน

THE STANDARD

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • thestandard.co
ไต่สวนนัด2 คดีทักษิณ ชั้น 14 ศาลเบิกตัว 5 พยานกลุ่มหมอ-พยาบาล รพ.ราชทัณฑ์ สอบปมส่งตัวรักษาฉุกเฉิน

วันนี้ (4 กรกฎาคม) เวลา 09.00 น. ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้นัดไต่สวน คดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 อัยการสูงสุดและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โจทก์ และ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

เป็นกรณีที่อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 ที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังเดินทางกลับประเทศไทยในรอบ 15 ปี และเข้ารับทราบ 3 หมายจับ

โดยทนายจำเลย มาศาล ส่วนจำเลยได้รับอนุญาตจากศาลไม่มาฟังการพิจารณา ศาลไต่สวนพยานได้ 5 ปาก

พยานคนที่ 1 : แพทย์หญิง ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นแพทย์ผู้ตรวจร่างกายและออกใบส่งตัวของจำเลยเพื่อให้เดินทางไปรักษาตัวนอกโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในวันและเวลาราชการ

ทั้งนี้แพทย์หญิงรายดังกล่าวได้รับมอบหมายให้ตรวจผู้ต้องขังรับใหม่ ในการซักประวัติอาการป่วย จำเลยแจ้งต่อแพทย์ว่ามีอาการเหนื่อยซึ่งคาดว่าเหนื่อยจากการเดินขึ้นบันได และอ่อนเพลีย แพทย์หญิงได้ทำการตรวจสุขภาพโดยพื้นฐานของร่างกาย

นอกจากนี้ยังรับเอกสารประวัติการรักษาจาก 2 ประเทศ ซึ่งรายงานว่าจำเลยมีอาการป่วย 10 โรค โดยแพทย์หญิงได้บันทึกประวัติการรักษาจากต่างประเทศร่วมกับการตรวจสุขภาพจัดทำเป็นประวัติเวชระเบียนเพื่อเป็นข้อมูลของจำเลย

ทั้งนี้การตรวจสุขภาพเกิดขึ้นหลังจากที่จำเลยเดินทางมาที่ศาลฎีกา ในภาพรวมนอกจากการเหนื่อยหอบ ไม่มีโรคประจำตัวกำเริบ

กรณีใบส่งตัวที่แพทย์หญิงได้จัดทำขึ้นหลังการตรวจสุขภาพและบันทึกเวชระเบียนของจำเลย เป็นการจัดทำตามปกติเนื่องจากจำเลยมีโรคประจำตัวและอยู่ในกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ) ซึ่งบางโรคจากข้อมูล การรักษาเกินกว่าศักยภาพที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์จะสามารถรักษาได้ จึงต้องมีการทำใบส่งตัวเพื่อให้จำเลยเข้าสู่กระบวนการขออนุญาตเรือนจำเดินทางไปรักษาตัวด้านนอกในวันและเวลาราชการ

ในส่วนนี้แพทย์หญิงได้มีการนำเสนอเอกสารหลักฐานในการทำใบส่งตัวล่วงหน้าที่เคยทำมาก่อนต่อศาลและศาลอนุญาตรับหลักฐานไว้

ส่วนกรณีคืนวันที่มีการส่งตัวจำเลยออกนอกเรือนจำฯ เป็นการที่พยาบาลเวรได้ติดต่อเพื่อขออนุญาตแพทย์หญิงใช้ใบส่งตัวที่ได้เตรียมไว้เพื่อส่งตัวจำเลยออกนอกเรือนจำเนื่องจากขณะนั้นพยาบาลรายงานว่าจำเลยมีอาการแน่นหน้าอก ความดันสูง และทางหมอเวรมีความเห็นว่าไม่ควรสังเกตอาการเนื่องจากมีภาวะเสี่ยงต่อหนึ่งในโรคประจำตัว

อาการดังกล่าวทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ แพทย์หญิงจึงอนุญาตให้ใช้ใบส่งตัวแต่ไม่ได้มีการแนะนำการรักษาตัวและไม่ได้ระบุโรงพยาบาลที่จะส่งตัว

ศาลใช้เวลาไต่สวนพยานประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที

พยานคนที่ 2 : แพทย์เวรเข้าเวรในช่วง 16.30 น. ถึง 08.30 น. ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ให้การสรุปว่าได้รับการติดต่อจากพยาบาลเวรในสถานพยาบาลเรือนจำ ว่าจำเลยมีอาการความดันสูง อ่อนเพลีย อ่อนแรง อีกทั้งพยาบาลได้รายงานประวัติการรักษาเก่า

จึงวินิจฉัยว่าจำเลยอาจเกิดภาวะฉุกเฉินจากโรคประจำตัว ซึ่งได้แนะนำว่าไม่ควรสังเกตอาการและให้ส่งตัว เนื่องจากเล็งเห็นว่าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีศักยภาพในการรักษาทั้งทางอุปกรณ์ และยา

พยานคนที่ 3 : พยาบาลชายในสถานพยาบาลของเรือนจำซึ่งปัจจุบันย้ายสถานที่ทำงานไปอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสุโขทัย วันดังกล่าวมีการทำงานแบบ 24 ชั่วโมง หลังจากจำเลยได้รับการตรวจสุขภาพโดยแพทย์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตนเองได้รับมอบหมาย ให้ดูแลจำเลยทุก 4 ชั่วโมงคือ 12.00 น., 16.00 น., 18.00 น. และ 22.00 น. ทั้งนี้จำเลยอาการป่วยกำเริบหลังจากช่วง 22.00 น.

ในส่วนของอาการที่ทำให้ตัดสินใจติดต่อแพทย์หญิงเพื่อทำการส่งตัวประกอบด้วย ความดันสูง และแน่นหน้าอกประกอบกับจำเลยมีโรคประจำตัวเก่าจึงพิจารณาว่าอาจจะเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินซึ่งขณะนั้นจำเลยไม่มียารักษาอาการป่วยติดตัวมา

พยาบาลระบุว่าได้มีการปรึกษาแพทย์เวรและแพทย์ผู้ตรวจสุขภาพและเริ่มประสานการส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจซึ่งขั้นตอนระหว่างการย้ายตัวจำเลยออกจากเรือนจำเพื่อไปโรงพยาบาลตำรวจใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงขณะนั้นการรักษา ที่ทำในสถานพยาบาลมีการให้ออกซิเจน

พยาบาลชายรายนี้เป็นผู้ที่ไปส่งตัวจำเลยที่โรงพยาบาลตำรวจจากนั้นเป็นผู้ติดตามอาการป่วยทุก 30 วัน 60 วัน 90 วัน และ 120 วันโดยเป็นการติดตามจากเอกสารของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจส่งผ่านผู้คุมของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ในการส่งตัวพยาบาลยืนยันว่าประเมินจากความเสี่ยงของโรคประจำตัวที่กำเริบและศักยภาพของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ที่ไม่มียาในการรักษารักษาส่วนอาการความดันสูง สถานพยาบาลมียาแต่ไม่สามารถจ่ายได้เนื่องจากต้องผ่านการอนุญาตจากแพทย์

ศาลใช้เวลาไต่สวนพยานประมาณ 1 ชั่วโมง

ทั้งนี้ในส่วนพยานรายที่ 4 และพยานรายที่ 5 เป็นพยาบาลวิชาชีพประจำสถานพยาบาลโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งในวันดังกล่าวพยาบาลทั้งสองรายมีหน้าที่ช่วยตรวจสุขภาพของจำเลยแต่ได้รับคำสั่งให้รอที่หน้าห้องตรวจและเข้าไปช่วยได้ต่อเมื่อแพทย์มีการร้องขอซึ่งในวันดังกล่าวแพทย์ไม่มีการร้องขอจึงไม่ได้ทราบรายละเอียดต่างๆ ของอาการป่วยจำเลย

โดยในครั้งนี้ศาลมีข้อกำหนดในการเผยแพร่ข้อมูลของสื่อมวลชน เนื่องจากนัดไต่สวนครั้งก่อนหน้านี้มีการนำข้อเท็จจริงจากคำเบิกความของพยานซึ่งศาลไต่สวนเผยแพร่ต่อสาธารณชนในลักษณะคำต่อคำผ่านสื่อช่องทางต่างๆ ซึ่งอาจทำให้พยานบุคคลที่จะมาเบิกความในลำดับถัดไปทราบข้อเท็จจริงที่พยานคนก่อนได้เบิกความไว้ และอาจทำให้ศาลไต่สวนแล้วได้ข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนไม่ครบถ้วนสมบูรณ์

รวมถึงอาจมีการนำคำเบิกความของพยานดังกล่าวไปวิเคราะห์หรือให้ความเห็นในทางคดีจนก่อให้เกิดความสับสนแก่สังคมได้ ประกอบกับข้อมูลด้านสุขภาพของจำเลยเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ศาลให้คู่ความและผู้เข้าฟังการพิจารณาคดีงดเว้นการเผยแพร่โฆษณาคำเบิกความพยานบุคคลและพยานเอกสารที่ศาลไต่สวน

ในตอนท้ายศาลได้ระบุว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆมีการนำส่งเอกสารพยานหลักฐานได้แก่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์,แพทยสภา, คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นต้น

สำหรับการนัดไต่สวนหลังจากนี้

  • 8 กรกฎาคม: กลุ่มเจ้าหน้าที่เรือนจำที่ไปควบคุมทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจ
  • 15 กรกฎาคม: กลุ่มผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ได้แก่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์, อดีตผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และอดีตผู้บัญชาการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
  • 18 กรกฎาคม: กลุ่มแพทย์และผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจ
  • 25 กรกฎาคม: แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคประจำตัวของจำเลย
ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE STANDARD

เฮนเดอร์สันร่วมไว้อาลัย โชตา ที่สนามแอนฟิลด์

29 นาทีที่แล้ว

F1 The Movie ขึ้น Top 3 หนัง Motorsport ทำเงินสูงสุดตลอดกาล

52 นาทีที่แล้ว

สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายงบประมาณ ‘Big, Beautiful Bill’ สำคัญอย่างไร ทำไมทรัมป์ยกเป็น ‘ชัยชนะระดับปรากฏการณ์’

57 นาทีที่แล้ว

มท.1 ไฟเขียวชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพนันกลางกรุง ห่างสถานีรถไฟฟ้า 300 เมตร พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

อัปเดต ประมาณการ GDP ไทยปี 2568

THE STANDARD

เปิดตัวผลงานวิจัย ‘สังข์วิชัย’ นวัตกรรมสมุนไพรไทยสกัดจากพืช 40 ชนิด

ไทยโพสต์
วิดีโอ

อดิศร เพียงเกษ แต่งกลอนให้กำลังใจนายกฯ แพทองธาร จงเข้มแข็ง คนหลายล้านเคียงข้างคุณ

BRIGHTTV.CO.TH

นักธุรกิจเขมร ล่าสุดแฉกันเอง!! ตีเนียนแบนของไทย แต่แอบจ้างผลิตในไทย

มุมข่าว

9 ทันโลก : มังงะพยากรณ์ แผ่นดินไหวใหญ่ 5 ก.ค.

สำนักข่าวไทย Online

ตร.เรียก สีกา ก. ให้ปากคำเชื่อมโยงสัมพันธ์ อดีตเจ้าคุณอาชว์ รับถูกกระแสตีกลับ

JS100

ประกาศฉบับที่ 2 พายุดีเปรสชันทะเลจีนใต้ ย้ำ ไม่กระทบ-ไม่เคลื่อนเข้าไทย

PPTV HD 36

เฮนเดอร์สันร่วมไว้อาลัย โชตา ที่สนามแอนฟิลด์

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

วรงค์เผยมีผู้หวังแทรกแซงกระบวนยุติธรรมคดีชั้น 14 ด้านชาญชัยเชื่อศาลขอข้อมูลการรักษาตัวเพิ่ม

THE STANDARD

ศาลฎีกานัดไต่สวนกลุ่มแพทย์และพยาบาล คดีทักษิณชั้น 14 ด้านทนายนำประวัติรักษาตัวต่างประเทศฉบับเต็มยืนยัน

THE STANDARD

ทนายวิญญัติ เตรียมพร้อมสู้คดีม. 112 ของทักษิณหลังพยานโจทก์ครบถ้วน ยืนยันลูกความป่วยจริง พร้อมเดินหน้าแถลงปิดคดี

THE STANDARD
ดูเพิ่ม
Loading...