‘เอกนัฏ’ คุยพร้อมเป็นแนวหลังปกป้องเศรษฐกิจประเทศ เปิด 5 ข้อ แผนรับมือภาษีทรัมป์
รัฐบาลพร้อมสู้ศึกชายแดน-ศึกเศรษฐกิจ "เอกนัฎ" รมว.อุตสาหกรรม คุยลั่นพร้อมเป็นแนวหลังปกป้องเศรษฐกิจของประเทศ เปิดแผนปฏิรูป 5 ด้าน รับมือภาษีทรัมป์
31 กรกฎาคม 2568 - นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อรับมือความท้าทายด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นพร้อมกัน รัฐบาล โดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยันชัดเจนว่า การปกป้องชีวิตประชาชนและอธิปไตยของชาติคือสิ่งที่ไม่อาจต่อรอง กองทัพจะทำหน้าที่ “แนวหน้า” อย่างเต็มที่
ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมเป็น “แนวหลัง” ปกป้องเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยแผนรับมือภาษีสหรัฐฯ ที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 สิงหาคมนี้ ภายใต้แนวคิด “ศึกนอกต้องเจรจา ศึกในต้องจัดระเบียบ” กระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดแผนปฏิรูป 5 ด้าน ได้แก่ 1. จัดการอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญและโรงงานเถื่อน 2. ป้องกันการดัมพ์สินค้าต่ำคุณภาพ 3. รณรงค์ใช้สินค้าไทย 4. เสริมศักยภาพ SMEs และ 5. ยกระดับห่วงโซ่อุปทานไทยให้ทันสมัย โปร่งใส และลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น
ทั้งนี้ จากการประเมิน สินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 54,000 ล้านดอลลาร์ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ เหล็ก และฮาร์ดดิสก์, กลุ่มวัตถุดิบและชิ้นส่วนที่มีแนวโน้มได้สิทธิยกเว้นภาษี และกลุ่มสินค้าสำเร็จรูปบางประเภท เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารแปรรูป และผลิตภัณฑ์ยาง ที่อยู่ระหว่างการเจรจา
นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดตั้งศูนย์รวบรวมความช่วยเหลือจากภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ เพื่อส่งของจำเป็นให้กับศูนย์พักพิงและทหารในแนวหน้า สะท้อนความพร้อมของภาครัฐในการ “สู้ศึกสองแนวรบ” อย่างมีพลัง
“รัฐบาลขอยืนยันว่า ประเทศไทยจะไม่ลดระดับการปกป้องประชาชนในยามที่อธิปไตยถูกคุกคาม พร้อมเดินหน้าปกป้องเศรษฐกิจด้วยความรับผิดชอบและกลยุทธ์ที่ชัดเจน เพื่อให้ไทยมั่นคงทั้งแนวหน้าและแนวหลัง และเดินต่ออย่างสง่างามในเวทีโลก” นางสาวศศิกานต์ กล่าว