'ทู แคปปิตอล' ขับเคลื่อนแลนด์บริดจ์ หนุนไทยสู่ฮับเศรษฐกิจโลก

บริษัท ทู แคปปิตอล จำกัด กลุ่มธุรกิจการเงินและการลงทุนของไทย ประกาศความพร้อมเข้าร่วมสนับสนุนและร่วมลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะโครงการยุทธศาสตร์ระดับชาติ โครงการแลนด์บริดจ์ “Landbridge ไทย–อันดามัน” (ชุมพร–ระนอง) ภายใต้การกำกับของกระทรวงคมนาคม

วันนี้ (14 กรกฎาคม 2568) เวลา 13.00 น. ตัวแทนของ นายวิกรานต์ ศุภมงคล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทู แคปปิตอล จำกัด ได้เข้าพบและประชุมหารือกับ ผู้บริหารสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ณ ห้องประชุม 201 ชั้น 2 อาคาร สนข. เพื่อขอคำแนะนำและคำชี้แนะเชิงนโยบายเกี่ยวกับแนวทางการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในโครงการแลนด์บริดจ์ Landbridge พร้อมทั้งนำเสนอศักยภาพของบริษัท ทู แคปปิตอล ในการร่วมสนับสนุนและผลักดันโครงการดังกล่าวในรูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

เช็กเลย! ทำไม? 'อ้วนง่าย ผอมยาก' คุมอาหารแล้วแต่น้ำหนักไม่ลง

AI พลิกไทย! 6 สถาบันชี้! ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ-สังคมอย่างยั่งยืน

รองรับการลงทุนเมกะโปรเจคทั้งภาครัฐและเอกชน

นายวิกรานต์ กล่าวว่าทู แคปปิตอล เป็นบริษัทที่มีจุดแข็งด้านวงเงินเครดิตหลักประกันระดับสูง มีศักยภาพสามารถออกหนังสือค้ำประกันโครงการในวงเงินระดับหลายแสนล้านบาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการลงทุนในโครงการ Mega Project ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงโครงการแลนด์บริดจ์ Landbridge ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อยุทธศาสตร์ของประเทศ

"นายวิกรานต์" มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปีในแวดวงการเงิน การลงทุน และการบริหารโครงการขนาดใหญ่ Mega Project โดยเฉพาะด้านการจัดหาแหล่งเงินทุน บริษัทฯมีวงเงินเครดิตหลักประกันเป็นหนังสือค้ำประกันระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพสูง และมีแผนกลยุทธ์ทางการเงินและการร่วมลงทุนกับหน่วยงานภาครัฐทุกรูปแบบ

ภายใต้การนำของ "นายวิกรานต์" บริษัท ทู แคปปิตอล ได้ยกระดับขีดความสามารถด้านการเงินไปสู่มาตรฐานสากล โดยมีพันธมิตรทางการเงินระดับโลก และมีศักยภาพในการใช้วงเงินเครดิตหลักประกันเพื่อสนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานของไทยอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจของประเทศ

การเข้าร่วมสนับสนุนของ ทู แคปปิตอล ในครั้งนี้ ยังสะท้อนบทบาทใหม่ของบริษัทภาคเอกชนไทยในเวทีโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ด้วยความพร้อมด้านการเงินการลงทุนและวงเงินเครดิตหลักประกันจากพันธมิตรการเงินระดับนานาชาติ การบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ รวมถึงการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอย่างมืออาชีพ

บริษัทฯมุ่งหวังให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางภูมิศาสตร์และโครงข่ายโลจิสติกส์ สู่การเป็น ศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Economic Hub) ในอนาคต