“สว.วิวรรธน์” จวกยับ “พิชัย” อืดอาดล่าช้า เจรจา “ภาษีทรัมป์”
“สว.วิวรรธน์” จวกยับ “พิชัย” อืดอาดล่าช้า เจรจา “ภาษีทรัมป์” พลาดท่า แนะอย่ายอมสยบเหมือน "เวียดนาม" ต้องรอบคอบ แยกประเภทสินค้าส่งออกยูเอส ให้ชัดเจน หวั่นคนไทยตกงานเพิ่มอื้อซ่า ย้ำ ตั้งญัตติแก้ ศก.ยั่งยืน หลังนโยบาย “รัฐบาลอิ๊งค์” ฟุบ-สะดุด-ร่วง ไม่เหมือนที่คุยโวหาเสียง ซ้ำเผชิญปัจจัยภายนอกรุมเร้า แก้หนี้เสียล้มเหลว ทำหนี้ภาคครัวเรือนไทยพุ่งสูงสุดในชาติอาเซียน
วันที่12 ก.ค. 2568 นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอญัตติตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมวุฒิสภาฯ วันที่ 15 ก.คน.นี้ว่า เพราะนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าทีมเจรจาต่อรองการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าของประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกาดำเนินการช้าไป จนทำให้เราต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ และไม่ใช่ว่าเราจะไปยอมทุกอย่าง และส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยกับการเสนอให้เราเหมือนกับเวียดนาม เพราะการที่เวียดนามเสนอให้สหรัฐฯนำเข้าสินค้าเข้าเวียดนามที่ 0% เป็นเพราะอัตราการส่งออกเกิน 50% เขาจึงยอมทุกอย่างเพราะส่งออกเกินแสนกว่าล้านเหรียญ มากกว่าเรา 3 เท่าเขาพึ่งพาสหรัฐฯเป็นหลัก แต่ของไทยเรา ส่งออกอยู่ที่ 18% ส่วนที่เหลือเราส่งออกไปประเทศอื่นๆ จึงอยากให้รัฐบาลไทย ทำด้วยความรอบคอบ รัฐบาลต้องช่วยแยกสินค้าเป็นหมวดการผลิต สินค้าเกษตร และสินค้าสวมสิทธิ์ให้ชัดเจน ซึ่งตนมองว่า หากไทยเรายอมมากไป คนไทยจะตกงานจำนวนเพิ่มมากขึ้น ตนมองว่าประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาตั้งทีมมา เพื่อบีบประเทศในโซนอาเซียนให้มีอำนาจต่อรองน้อยลง เขาทำให้รู้ว่า เราต้องพึ่งพาเขา
“สำหรับสาระสำคัญของญัตติที่เสนอนั้นระบุว่า ตามที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้กำหนด "10 นโยบายเร่งด่วน" เร่งสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ รวมทั้งได้มีแผนระยะยาวในการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ แต่โดยที่ปัจจุบันแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้เผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะจากมาตรการภาษีนำเข้าตามนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา ภาวะสงครามในหลายพื้นที่ ราคาน้ำมันโลกและพลังงานที่ผันผวน รวมถึงมาตรการทางเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่สัมฤทธิ์ผลเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ขณะนี้ได้ชะลอโครงการเฟส 3 ออกไป หนี้ภาคครัวเรือนไทยที่พุ่งไประดับสูงสุดในชาติอาเซียน ภาระดอกเบี้ยสูงและเสี่ยงต่อการเกิดหนี้เสีย ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของประชากรไทยที่ขยายกว้างขึ้น ขณะที่การสร้างแหล่งท่องเที่ยว ที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยการการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ก็ยังพบว่า มีเสียงคัดค้านจากหลายภาคส่วนในสังคม ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เราจึงขอเสนอญัตตินี้โดยมีกำหนดระยะเวลาปฏิบัติงานภายใน 90วัน” นายวิวรรธน์ กล่าว