เศรษฐกิจปี’68 ซึมๆ! ศูนย์วิจัยกรุงไทย-กรุงศรี คาดจีดีพีโต 2-2.1%
ตามที่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 1.6% ถึง 2.3% (ค่ากลาง 2.0%) ภายใต้ปัจจัยเสี่ยง 1.ผลกระทบจากการดำเนินมาตรการภาษีศุลกากรนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อสินค้าไทย 2.ความผันผวนของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกจากผลของภาษีสหรัฐฯ และ 3.การชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยว
โดย สศช. ปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือ 33 ล้านคน จาก 37 ล้านคน ในการประเมินในเดือน พ.ค. อย่างไรก็ดี สศช. มองว่าเศรษฐกิจในปีนี้มีปัจจัยสนับสนุนจาก 1.แรงสนับสนุนจากรายจ่ายภาครัฐโดยเฉพาะรายจ่ายลงทุน 2. การปรับตัวดีขึ้นของการลงทุนภาคเอกชนในกลุ่มเครื่องจักรเครื่องมือ
ขณะเดียวกัน สำนักเศรษฐกิจได้คาดการณ์ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) วิจัยกรุงศรี โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) ประเมินช่วงครึ่งหลังของปี 2568 คาดว่าเศรษฐกิจอาจชะลอลงเหลือเพียง 1.3% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากขยายตัว 3.0% ในช่วงครึ่งปีแรก ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยทั้งปียังมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 2.1%
แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ยังเผชิญแรงกดดันจากหลายด้านด้วยกัน ได้แก่ 1.การส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอตัวหลังจากการเร่งส่งออกล่วงหน้าในช่วงก่อน ประกอบกับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแรงลง
2.การลงทุนภาคเอกชนอาจได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ และความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา 3.ภาคการท่องเที่ยวที่ยังได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ต่ำกว่าคาด และการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศคู่แข่ง
และ 4.การบริโภคภาคเอกชน ซึ่งคาดว่าจะทรงตัว แม้มีมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ แต่อาจถูกกดดันจากผลกระทบของการขึ้นภาษีนำเข้าต่อการจ้างงานและรายได้ ระดับหนี้ครัวเรือนที่สูง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอ และราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ
ขณะที่ Krungthai COMPASS โดย ธนาคารกรุงไทย มองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวได้ที่ 2.0% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยครึ่งหลังของปีคาดว่าจะขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ 1.0% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากครึ่งปีแรกที่ขยายตัวได้ 3.0% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ประเมินว่าแม้เศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 ปี 2568 จะขยายตัวดีที่ 2.8% แต่ระยะข้างหน้าแรงส่งหลักของเศรษฐกิจมีทิศทางชะลอลง หลังการประกาศอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่แม้จะลดความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า แต่คาดว่าหลายประเทศจะเร่งระบายสินค้ามายังตลาดที่ 3ื ส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น
รวมถึงภาคการท่องเที่ยวมีความเสี่ยงชะลอลง แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่ม long haul ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายต่อคนสูงจะสามารถขยายตัวได้กว่า 17.4% และทดแทนนักท่องเที่ยวในกลุ่ม short haul ได้บางส่วน อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวในกลุ่ม short haul ยังคงมีสัดส่วนสำคัญคิดเป็น 73% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งต้องเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่น