CHOW ผลิตเหล็กเต็มกำลัง ลุ้นคว้าโซลาร์เซลล์ 450 เมก
#CHOW #ทันหุ้น – CHOW เผยแนวโน้ม Q3/2568 ฟื้นตัว ธุรกิจเหล็กกลับมาเดินเครื่องผลิตเต็มกำลัง จ่อบุ๊กรายได้ Q4/2568 ส่วนพลังงานทดแทนทยอยทำสัญญา PPA ผ่านการลงทุนกองทุน BlackRockแย้มอยู่ระหว่างมีลุ้นเซ็นสัญญาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 450 เมกะวัตต์
นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ทิศทางธุรกิจในไตรมาส 3/2568 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา และคาดว่าภาพรวมทั้งปีจะกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติ หลังธุรกิจเหล็กสามารถกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตเต็มรูปแบบ และธุรกิจพลังงานทดแทนยังคงเดินหน้าโครงการอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างรายได้สม่ำเสมอ
ในไตรมาส 2/2568 กลุ่มธุรกิจเหล็กหยุดการผลิตชั่วคราวเพื่อปรับปรุงกระบวนการให้เป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และแก้ไขข้อเสนอแนะจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด พร้อมเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจสอบคุณภาพ คาดว่าจะเริ่มกลับมาเริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป
** ฉุดยอดขายลดลง
ทั้งนี้ การหยุดปรับปรุงโรงงานส่งผลให้ช่วงเดือนพฤษภาคม–มิถุนายน มียอดขายลดลง และมีผลต่อรายได้รวมในไตรมาสที่ผ่านมา แต่ฝ่ายบริหารมั่นใจว่าการกลับมาผลิตเต็มกำลังจะทำให้ยอดขายและรายได้จากธุรกิจเหล็กฟื้นตัวแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีหลัง
ธุรกิจพลังงานทางเลือกยังคงเป็นกลไกสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ปัจจุบัน CHOW กลุ่มธุรกิจพลังงานทางเลือกนั้นยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และทยอยเข้าทำสัญญา Power Purchase Agreement : PPA อย่างสม่ำเสมอ ผ่านการลงทุนในกลุ่มบริษัทที่ร่วมลงทุนกับกองทุน BlackRock
โดย ณ ไตรมาสที่ 2 นั้นกลุ่มบริษัท โครงการโรงไฟฟ้า (Secure Project) และโครงการที่อยู่ระหว่างการเข้าสัญญาแล้วรวม ทั้งสิ้น 450 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอย COD และเข้าทำสัญญาในลำดับต่อไป และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเพิ่มเติม Port Folio ให้เติบโตผ่านการพัฒนาโครงการแบบ Inorganic Growth
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทมีผลกำไรจากกลุ่มธุรกิจพลังงานทางเลือกในไตรมาสปัจจุบัน 5.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศและธุรกิจ Trading รวม 4.1 ล้านบาท และมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ภายใต้บริษัทร่วมทุน 1.7 ล้านบาท
** ชูแนวคิด ESG
CHOW ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยบูรณาการแนวคิด ESG (Environmental, Social, and Governance) เข้ากับกระบวนการบริหารและตรวจสอบภายในอย่างโปร่งใส สำหรับธุรกิจเหล็ก บริษัทมุ่งเน้นการรีไซเคิลเศษเหล็กและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ในธุรกิจพลังงาน บริษัทได้นำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมและสังคม (ESMS) ตามมาตรฐานของ IFC มาใช้ และได้รับการรับรอง ISO 14001 ตั้งแต่ปี 2567 เพื่อยกระดับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในระยะยาว ผู้บริหารย้ำว่า แผน ESG จะช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขัน สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ลงทุน และตอบโจทย์เป้าหมายการเติบโตยั่งยืนของบริษัท
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้รวม 125.29 ล้านบาท แม้ลดลง 87.9% YoY จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่กำลังเดินหน้าจากการกลับมารับรู้รายได้ในธุรกิจเหล็กและการส่งมอบโครงการพลังงาน กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 8.50 ล้านบาท ลดลง71.1% QoQ ส่งผลให้บริษัทขาดทุนสุทธิในไตรมาสนี้10.43 ล้านบาท