บุรีรัมย์ แถลงข้อพิพาทเขากระโดง ยันใช้สนามช้างอินเตอร์-สนามช้างอารีน่า
"บุรีรัมย์" แจงกรณี เขากระโดง ยืนยันเป็นตามกฎหมาย ปราสาทสายฟ้า ไม่ย้ายรังเหย้าแข่งตามปกติทั้งฤดูกาล พร้อม สนามช้าง อินเตอร์ เนชั่นแนล เซอร์กิต
สนามช้าง อินเตอร์ เนชั่นแนล เซอร์กิต ผู้แทนประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ประกอบการธุรกิจ และนิติบุคคลที่มีเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ แถลงข่าว เพื่อตอบโต้และชี้แจงกรณีการแถลงข่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรื่องการเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินกว่า 5,083 ไร่ ซึ่งมีผู้ถือครองมากถึง 995 ราย
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า "สนามช้างฯ ไม่ใช่แค่สนามแข่งรถ แต่คือหัวใจของอุตสาหกรรมมอเตอร์สปอร์ตไทย ทั้งยังเกี่ยวโยงกับธุรกิจท่องเที่ยว การบริการ การจ้างงานหลายหมื่นอัตรา ซึ่งที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ กว่าปีละ 5,000 ล้านบาท หากไม่สามารถดำเนินงานได้ ย่อมกระทบลึกไปถึงเศรษฐกิจและทำให้ประเทศเสียเครดิตในเวทีโลก"
โดยเน้นย้ำว่า รายการแข่งขันระดับโลก เช่น MotoGP , Asia Road Racing , GT World Asia , Asian Leman ฯลฯ และอีกหลายรายการที่จ่อคิวจัดในไทย อาจต้องย้ายประเทศทันที หากความไม่แน่นอนนี้ยังคงดำเนินต่อไป รวมไปถึงรัฐบาลจะต้องจ่ายค่าปรับจำนวนเงินมหาศาลให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์หากต้องยกเลิกการจัดการแข่งขัน ในขณะที่รายการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย อย่าง BRIC Superbike ซึ่งเป็นเวทีให้เยาวชนไทยได้รับโอกาสสู่การเป็นนักแข่งระดับโลกมากมายหลายคน อาจต้องจบเส้นทางลงหากโดนแทรกแซงทางการเมืองเช่นนี้
ข้อเท็จจริงประการสำคัญที่สาธารณะชนควรทราบ คือที่ดินที่เป็นพื้นที่ของสนามแข่งรถในปัจจุบัน ถูกซื้อตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งขณะนั้นกรมที่ดินได้อนุญาตให้ทำการซื้อขายและออกเอกสารสิทธิ์ให้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่วันนี้ที่ดินที่ซื้อมาอย่างถูกต้องกลับถูกคำสั่งเพิกถอนจากข้อพิพาทระหว่างกรมที่ดินกับการรถไฟ ชาวบ้านและเอกชนจึงกลายเป็นเหยื่อผู้ได้รับผลกระทบอย่างไม่เป็นธรรม
"นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของสนามแข่ง แต่คือพายุลูกใหญ่ที่ถาโถมเข้าสู่วงการกีฬาไทย หากปล่อยให้การเมืองกลบทุกเสียงของความเป็นธรรม วงการมอเตอร์สปอร์ตทั้งระบบอาจล่มสลาย" นายตนัยศิริ กล่าวทิ้งท้าย