Apple Watch รุ่นใหม่วัดค่า Blood Oxygen ออกซิเจนในเลือดได้แม่นยำกว่าเดิม
แอปเปิล (Apple) ประกาศนำฟีเจอร์การวัดค่าออกซิเจนในเลือดกลับมาอีกครั้งบน Apple Watch Series 8 Apple Watch Series 10 และ Apple Watch Ultra บางรุ่น หลังจากต้องถอดฟีเจอร์ดังกล่าวออกไปชั่วคราวจากข้อพิพาททางกฎหมาย เรื่อง สิทธิบัตรเทคโนโลยีการวัดค่าออกซิเจนในเลือด (Pulse Oximetry) ระหว่างบริษัท แอปเปิล (Apple) กับบริษัทมาซิโม (Masimo) บริษัทเทคโนโลยีทางการแพทย์สัญชาติสหรัฐ
ฟีเจอร์การวัดค่าออกซิเจนในเลือด คือ
ฟีเจอร์การวัดค่าออกซิเจนในเลือด (Blood Oxygen Monitoring) เป็นความสามารถของอุปกรณ์สวมใส่ เช่น Apple Watch ที่ใช้ เซ็นเซอร์แสงแบบ Pulse Oximeter หรือ การยิงลำแสงสีเขียว แดง และอินฟราเรดผ่านผิวหนังลงไปยังหลอดเลือดฝอยบริเวณข้อมือ หลังจากนั้นจึงวัดปริมาณแสงที่สะท้อนกลับเพื่อคำนวณระดับออกซิเจนในเลือด ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญด้านสุขภาพ
ความสามารถนี้ช่วยให้ผู้ใช้ติดตามการหายใจ คุณภาพการนอน หรือภาวะขาดออกซิเจนได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องเจาะเลือด ฟีเจอร์นี้มักใช้เพื่อการติดตามสุขภาพทั่วไป ไม่ได้ใช้แทนการวินิจฉัยทางการแพทย์ แต่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการเฝ้าระวังปัญหา เช่น โรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ หรือผลกระทบจากการอยู่ในพื้นที่สูง
การปรับปรุงฟีเจอร์ใหม่เพื่อสู้คดีสิทธิบัตร
การกลับมาครั้งนี้เป็นการปรับปรุงฟีเจอร์ใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงคำสั่งห้ามนำเข้าของ คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ (ITC) โดยข้อมูลจะถูกวัดและคำนวณบน iPhone ที่จับคู่กับ Apple Watch ของผู้ใช้ และแสดงผลในแอปพลิเคชัน Health ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถดูข้อมูลได้โดยตรงบนหน้าจอ Apple Watch เหมือนเมื่อก่อน
Apple ระบุว่าการอัปเดตครั้งนี้เป็นผลมาจากคำตัดสินล่าสุดของศุลกากรสหรัฐ ซึ่งอนุญาตให้นำเข้า Apple Watch ที่มีฟีเจอร์ที่ออกแบบใหม่นี้ได้ โดยมีผลกับเครื่องที่จำหน่ายหลังคำสั่งห้ามของ ITC มีผลบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2024 เท่านั้น ส่วนเครื่องที่ซื้อไปก่อนหน้านี้หรือที่ซื้อนอกสหรัฐฯ จะไม่ได้รับผลกระทบ
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยืดเยื้อระหว่าง Apple และบริษัท Masimo ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดย Masimo ได้กล่าวหาว่า Apple ละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีการวัดค่าออกซิเจนในเลือดของตน และได้รับชัยชนะที่ ITC ในปี 2023 ส่งผลให้ Apple ต้องระงับการนำเข้าและถอดฟีเจอร์ดังกล่าวออกไปในที่สุด
ปัจจุบันทาง Apple ได้ยื่นฟ้อง Masimo กลับเช่นกัน โดยอ้างว่าบริษัทลอกเลียนแบบฟีเจอร์ของ Apple Watch เพื่อนำไปใช้ในสมาร์ทวอทช์ของตัวเอง นอกจากนี้ Apple ยังอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์คำสั่งห้ามของ ITC อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผู้ใช้ iPhone/iPad รีบอัปเดต iOS 18.6 ด่วน ! หลังพบช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว
- Apple ทดสอบ Siri เวอร์ชันใหม่ เปลี่ยนวิธีการใช้ iPhone ใหม่ด้วยเสียง AI
- ข่าวลือ ! iPhone 17 Pro มาพร้อมหน้าจอป้องกันแสงสะท้อนและกล้องซูม 8x ครั้งแรกของ Apple
- "Apple" ปิดสาขาใน "จีน" สะท้อนยอดขายชะลอ เดินหน้าปรับกลยุทธ์ค้าปลีกทั่วโลก
- "Apple Watch" กับ "AirPods Pro 2" รองรับเตือนหยุดหายใจขณะหลับ/ฟีเจอร์ช่วยการได้ยินในไทยแล้ว !