‘Middle Income Trap: “กับดักรายได้ปานกลาง” ช่องว่างที่เหนี่ยวรั้งเศรษฐกิจไทย’
GM Live
อัพเดต 12 สิงหาคม 2568 เวลา 2.41 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เว็บไซต์ว่าด้วยเรื่องราวของผู้ชาย เทรนด์ บทสัมภาษณ์ บทวิเคราะห์ธุรกิจ รถยนต์ Gadget สุขภาพ อัพเดทก่อนใครท่ามกลางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ความถดถอยและความฝืดเคืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เกิดได้จากปัจจัยหลากหลายสาเหตุ และ 'กับดักรายได้ปานกลาง' ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่นนั้นแล้ว กับดักรายได้ปานกลางคืออะไร จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร และมีความสำคัญกับการเดินหน้าเศรษฐกิจของไทยมากน้อยเพียงใด เรามาหาคำตอบร่วมกัน
กับดักรายได้ปานกลาง คือจุดที่ประเทศพัฒนาเศรษฐกิจจากรายได้น้อย มาสู่ระดับที่มีรายได้มากขึ้น แต่ว่ายังไม่สามารถยกระดับเศรษฐกิจเข้าสู่ประเทศที่มีรายได้สูงได้ ซึ่งประเทศไทยเราเข้าสู่การเป็นประเทศรายได้ปานกลางมาค่อนข้างนานแล้ว ประมาณ 20 ปี แต่ยังไม่สามารถก้าวไปเป็นประเทศรายได้สูงเหมือนเพื่อนบ้านในภูมิภาค เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ หรือว่าไต้หวัน ที่นำหน้าเรามานานแล้ว ตอนนี้ไทยเราคือประเทศกำลังพัฒนา มี GNI Per Capita อยู่ที่ 5,960 USD นับเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง (High middle-income countries) ซึ่งโดยปกติแล้วประเทศกำลังพัฒนาจะมี GNI Per Capita ระหว่าง 766 – 9,375 USD
เมื่อเริ่มพัฒนาเศรษฐกิจ โดยทั่วไปประเทศรายได้น้อยจะเปลี่ยนจากสังคมเกษตรมาสู่อุตสาหกรรมด้วยการเริ่มสร้างอุตสาหกรรมเบา (Light Industrial) ขึ้นมาก่อน เช่น การทอผ้า ฟอกหนัง เครื่องประดับ เป็นต้น แล้วค่อยพัฒนาอุตสาหกรรมขั้นต่อไปขึ้นมา
แม้ว่าตอนนี้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยจะพัฒนามาสู่อุตสาหกรรมหนักแล้ว แต่ส่วนมากยังเป็นการรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับแบรนด์ต่างประเทศมากว่า มีส่วนน้อยที่สร้างแบรนด์สินค้าของตัวเอง สินค้าส่วนมากยังไม่มีนวัตกรรมมากนัก ทำให้ขายสินค้าได้ราคาไม่สูงนัก อำนาจการต่อรองขึ้นกับคู่ค้ารายใหญ่มากกว่าประกอบกับค่าแรงขั้นต่ำของไทยซึ่งปรับตัวสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ทำให้ความสามารถในการแข่งขันต่ำลงเพราะว่าต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
ลองนึกภาพเราเป็นโรงงานรับจ้างทำสินค้าให้บริษัทใหญ่ที่มีแบรนด์ของตัวเอง บริษัทที่มาจ้างเราอาจจะสามารถไปจ้างที่อื่นผลิตก็ได้ และเจ้าของสินค้าก็ต้องการอัตรากำไรในระดับที่น่าพอใจ ดังนั้นโรงงานที่รับจ้างผลิตอย่างเราอาจจะได้ค่าจ้างแค่พอคุ้มทุนเท่านั้น ต่างกับการที่เราผลิตสินค้าขายเอง ถ้าสินค้าเป็นที่นิยมเราก็สามารถตั้งราคาขายได้สูง ได้กำไรมากขึ้น
การไม่มีแบรนด์สินค้า กับนวัตกรรมที่มากพอ ทำให้เราขายสินค้าแข่งกับประเทศที่เป็นประเทศพัฒนาแล้วได้ยากเพราะผู้บริโภคนิยมใช้สินค้าของประเทศเหล่านี้มากกว่า จากชื่อเสียงของแบรนด์ คุณภาพและนวัตกรรม ยังไม่นับรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ที่ใช้เงินลงทุนน้อย และแทบไม่ต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินอะไรเลย แต่สร้างมูลค่าเพิ่มได้มหาศาลอย่างในรูปแบบแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook, LINE, Alibaba, Amazon, TenCent , Grap , Uber, Airbnb เป็นต้น ซึ่งเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันของหลายๆ คนไปแล้ว เปลี่ยนโครงสร้างของอุตสาหกรรมต่างๆ ระดับโลกไปอย่างมาก
เท่าที่ผ่านมารัฐบาลก็อาจจะมองเห็นปัญหาเหล่านี้ รัฐบาลได้รวบรวมผู้มีความรู้จากหลากหลายอาชีพมาช่วยกันวางนโยบายและทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต แม้ว่าในส่วนนี้จะมีเสียงวิจารณ์อยู่บ้าง แต่มันก็แสดงให้เห็นว่ามีการดำเนินการบางอย่างแล้ว ตัวอย่างเช่น
การลงทุนครั้งใหญ่เพื่อพัฒนาระบบราง ซึ่งช่วยลดต้นทุนด้านขนส่งลง
การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างการเดินทางทางอากาศและการขนส่งสินค้าทางเรือเข้ากับระบบราง โดยส่วนนี้ทำเพื่อให้ประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่จุดศูนย์กลางของประเทศ CLMV เป็นจุดเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียนเข้ากับประเทศจีน จุดนี้จะทำให้เราได้ประโยชน์จากการดึงดูดการเข้ามาลงทุนของต่างประเทศ
การสร้างโครงการ Eastern Economic Corridor หรือ ECC เพื่อสร้างอุตสาหกรรมใหม่ 5 ประเภท และส่งเสริมอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ 5 ประเภท ซึ่งคัดเลือกมาจากอุตสาหกรรมที่เป็นจุดแข็งของประเทศและมีการพัฒนามามากแล้ว เพื่อเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ยังเติบโตได้ในอัตราที่น่าพอใจต่อไป
การแก้กฏระเบียบและกฏหมายบางอย่างเพื่อให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น
การให้สิทธิพิเศษทางภาษีผ่าน Board of Investment (BOI) เช่น การยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลาหลายปีในอุตสาหกรรมที่รัฐบาลส่งเสริม
การให้สิทธิประโยชน์บางอย่างกับคนที่มีความรู้หรือทักษะเฉพาะด้าน เพื่อดึงดูดบริษัทและผู้มีความรู้จากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนและทำงานในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและความรู้ให้กับคนในประเทศต่อไป
นอกเหนือจากนั้น การสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาในด้านองค์ความรู้ การเรียนรู้ตลอดชีวิต เร่งการวิจัยและพัฒนาแบรนด์สินค้าที่เป็นของคนไทยที่เติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนรายย่อยให้มีความแข็งแรง ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ประเทศไทยหลุดพ้นจาก 'กับดักรายได้ปานกลาง' ด้วยอีกเช่นกัน
ที่มา: https://www.finnomena.com/investment-reader/middle-income-trap/