ถึงเวลาคืนชีพข้อสอบอัตนัย “ธนุ” ย้ำ! วัดและประเมินผลเด็กต้องได้มากกว่าคะแนน
เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง และภูมิศาสตร์อย่างเข้มข้นนั้น ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พร้อมสนองนโยบายเพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ เกิดความรักชาติ หวงแหนในแผ่นดิน ซึ่งนับแต่นี้ไป สพฐ.จะเพิ่มความเข้มข้นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เชิงรุกแบบสร้างสรรค์ เน้นกระบวนการคิด วิเคราะห์ หรือการเรียนรู้แบบ Active learning ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับรูปแบบการเรียนการสอน การชำระประวัติศาสตร์ในบางเรื่อง ทบทวนเนื้อหาให้ถูกต้องเหมาะสม รวมไปถึงสื่อการสอน ตำราเรียน หรือสื่ออื่นๆ ที่น่าสนใจ เมื่อเรียนไปแล้วต้องมีการสอบวัดผลประเมินผล เพราะถ้าไม่มีการวัดผลประเมินผลเด็กก็จะขาดความสนใจ โดยวิชาประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง และภูมิศาสตร์เดิมจะมีเนื้อหาอยู่ในกลุ่มวิชาสังคมศึกษา ต่อไปจะต้องเพิ่มเนื้อหาให้เด็กได้เรียนรู้มากขึ้น และนำเนื้อหามาใช้ในการสอบเข้าเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 รวมถึงจะประสานกับทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อนำความรู้ไปใช้ประกอบการพิจารณาเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยด้วย
“สพฐ.กำลังพิจารณาการนำข้อสอบแบบอัตนัยมาใช้ในการวัดผลประเมินผลนักเรียน เพราะการวัดผลแบบอัตนัยจะช่วยในเรื่องของการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ เด็กจะได้เขียนบรรยาย ทำให้เห็นว่ามีความเข้าใจในเนื้อหานั้น ๆ มากน้อยขนาดไหน แตกต่างจากข้อสอบแบบปรนัยที่มีช้อยให้เด็กได้เลือกคำตอบเพียงแค่ถูกผิด เด็กไม่ได้คิดวิเคราะห์อะไร ดังนั้นอนาคต สพฐ.กำลังพิจารณาว่าจะรื้อฟื้นนำข้อสอบแบบอัตนัยกลับมาใช้อีกครั้ง โดยมีการแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจนระหว่างข้อสอบอัตนัย และปรนัยกี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะใช้ดำเนินการทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมไปถึงการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง และภูมิศาสตร์แบบเข้มข้นนี้ด้วย ทั้งนี้คาดว่าคงใช้เวลาในการจัดทำแนวทางการสอน การปรับปรุงเนื้อหาการสอน รูปแบบการสอน การวัดผลประเมินผลที่เหมาะสมอีกไม่นาน โดยในภาคเรียนที่ 2/2568 น่าจะประกาศให้สถานศึกษานำไปใช้ได้” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว