‘รัฐบาล’ ตั้ง หน่วยเฉพาะกิจ ปราบยาเสพติด ทั่วราชอาณาจักร
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (คณะกรรมการ ป.ป.ส.) ครั้งที่ 3/2568 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าเข้าร่วม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการประชุมโดยกล่าวถึงความคืบหน้าปฏิบัติการ Seal Stop Safe ที่ผ่านมาว่าหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตก พบว่า มีการทำงานที่เข้มแข็ง สามารถสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยได้เป็นจำนวนมาก ขอให้ดำรงความเข้มแข็งในการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จะให้ความสำคัญในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และให้กองทัพบก มานำเสนอผลการดำเนินงาน และเป้าหมายพื้นที่ ที่จะดำเนินการตามมาตรา 5 (10) ของประมวลกฎหมายยาเสพติด ให้คณะกรรมการ ป.ป.ส. พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. ในวันนี้ เป็นการประชุมครั้งที่ 3 ของปี พ.ศ. 2568 ซึ่งมีวาระสำคัญที่ขอให้กรรมการร่วมพิจารณาให้ความเห็นชอบ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ประกอบด้วย (1) (ร่าง) ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ผนึกกำลัง หมู่บ้าน/ชุมชนปลอดยาเสพติด (2) (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการระบุชื่อยาเสพติดให้โทษ จำนวน 2 ฉบับ
โดยที่ประชุมได้รับทราบและเห็นชอบในประเด็นสำคัญ ดังนี้
ที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลและสถิติคดีคนไทยที่ถูกดำเนินคดีหรือต้องโทษเกี่ยวกับยาเสพติดในต่างประเทศ และได้มีข้อสั่งการให้เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำยาเสพติดออกนอกประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงาน และรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการอำนวยการกองทุนแม่ของแผ่นดิน และได้มีข้อสั่งการให้มีการสร้างความเข้มแข็งให้แก่หมู่บ้าน/ชุมชนที่ยังเหลืออยู่ เพื่อยกระดับให้เป็นหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน
รวมทั้งอนุมัติ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการระบุชื่อยาเสพติดให้โทษ 2 ฉบับ คือ ยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 4 รายการ และยาเสพติดให้โทษในประเภท 4 จำนวน 1 รายการ และเห็นชอบหลักการ "โครงการยกระดับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติด 2568" โดยมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักในการประสานเพื่อให้การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด“No Drugs No Dealers” ผนึกกำลัง หมู่บ้าน/ชุมชน ปลอดยาเสพติด ระยะที่ 1 โดยมีเป้าหมายในการทำให้หมู่บ้าน/ชุมชนปลอดผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดภายใน 3 เดือน และมอบหมายให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนรองรับในระยะที่ 2 - 3 ต่อไป และเน้นย้ำว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องรับผิดชอบหากในพื้นที่ใดที่ยังมีสถานการณ์ยาเสพติดปรากฏชัดเจน เช่น มีแหล่งแพร่ระบาด หรือสถานการณ์ไม่ลดความรุนแรง
นายภูมิธรรม ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็งในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมุ่งเป้าให้หมู่บ้าน/ชุมชนปลอดจากยาเสพติดอย่างแท้จริง ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานและข้อมูลการรายงานผลร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการแก้ไขปัญหายาเสพติดของชาติอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
นอกจากนี้ รองนายกฯ กล่าวถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตาม ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร เป็นหน่วยเฉพาะกิจในการติดตามดำเนินการเป็นไปตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ และได้มีแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด แต่ปรากฏว่ายังพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ส่งผลให้มีการแพร่ระบาดในพื้นที่ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยขาดการควบคุม กำกับดูแลของผู้ปฏิบัติที่รับผิดชอบเพื่อให้การแก้ปัญหาบรรลุผลตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติด จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการติดตาม ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร