WICE รายได้ครึ่งปีแรกโต 12% ดีมานด์ขนส่งข้ามแดน-ซัพพลายเชนเด่น
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 14 สิงหาคม 2568 เวลา 19.19 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ส่วนงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มบริษัท บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรก 2568 บริษัทสามารถรักษาอัตราการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการบริการ 2,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการบริการ 2,037 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.4% และมีกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 113 ล้านบาท
ขณะที่ผลประกอบการช่วงไตรมาส 2/2568 มีรายได้จากการบริการ 1,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการบริการ 1,075 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.3% และ มีกำไรสุทธิ 23 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 75 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นของรายได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากปริมาณการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขนส่งข้ามพรมแดน (Cross Border Services) ที่เชื่อมโยงเครือข่ายครอบคลุมทั้งจีนถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ การบริการซัพพลายเชน โซลูชั่นส์ อีกทั้งการให้บริการขนส่งในรูปแบบที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า อาทิ การขนส่งแบบไม่เต็มตู้ (Less Truck Load) และ บริการขนส่งสินค้าแบบตู้ควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container) รวมถึงการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นของบริการ On-Site Warehouse Management ส่งผลให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นในสัญญาระยะยาว
ด้านทิศทางครึ่งปีหลัง 2568 บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น สะท้อนได้จากปริมาณความต้องการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาระบบการให้บริการ และ วางแผนขยายเส้นทางการขนส่งที่มีศักยภาพในประเทศที่ต้องการย้ายฐานการผลิต และ กลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียที่มีความต้องการขนส่งมากขึ้นจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ พร้อมเชื่อมต่อทุกเส้นทางขนส่งระหว่างสาขาให้มีความครอบคลุมยิ่งขึ้น
“บริษัทยังคงเฝ้าระวังปัจจัยที่ยังคงมีแนวโน้มผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจระดับโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างใกล้ชิด อาทิ การปรับภาษีนำเข้า-ส่งออก ของสหรัฐอเมริกา และ ในภูมิภาคเอเชียที่มีความชัดเจนขึ้น, ค่าเงิน, น้ำมัน และ ค่าระวางเรือ พร้อมวางแผนปรับกลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และมุ่งเน้นบริหารต้นทุนการดำเนินงานเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรที่ดี และ สร้างรายได้ให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตทั้งปีไม่ต่ำกว่า15%” นายชูเดช กล่าว