โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

‘พิชัย’ สั่งแบงก์รัฐผุดซอฟท์โลน2แสนล้าน อุ้มSMEอ่วมภาษีสหรัฐฯ ยื่นข้อเสนอเปิดตลาดเพิ่มเป็น69%

ไทยโพสต์

อัพเดต 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.58 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'พิชัย' สั่งแบงก์รัฐเตรียม 2 แสนล้านบาท ผุดซอฟท์โลนอุ้มกลุ่มเอสเอ็มอีอ่วมพิษภาษีสหรัฐฯ พร้อมยื่นข้อเสนอเปิดตลาดเพิ่มเป็น 69% จากปัจจุบัน 63-64% ชูสินค้านำเข้า 0% 'ปลานิล ลำไย รถยนต์พวงมาลัยซ้าย' หวังสร้างสมดุลการค้า ยันไม่ได้เปิดโต๊ะเจรจาช้าเกินไป มองยังต้องหารือต่อเนื่อง ไม่จบในทีเดียว

14 ก.ค. 2568 - นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ยืนยันว่าการเจรจาเรื่องภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ นั้น ประเทศไทยเจรจาอยู่บนหลักการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก เน้นการสร้างความสมดุลทางการค้า และสามารถปฏิบัติได้ในระยะยาว ส่วนผลลัพธ์ในการเจรจาครั้งนี้จะเป็นอย่างไร จะจบหรือภายในวันที่ 1 ส.ค. 2568 หรือไม่ หรืออาจจะต้องต่อเนื่องต่อไป ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม เพราะหลายประเทศที่มีการเจรจาแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะจบ หรือยังไม่รู้ว่าจะจบอย่างไรเหมือนกัน

ส่วนผลตอบรับจากการยื่นข้อเสนอในการเจรจากับสหรัฐฯ ล่าสุดเป็นอย่างไรนั้น นายพิชัย ระบุว่า ขอเก็บไว้ก่อน ขณะนี้ยังมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องเงื่อนไขต่าง ๆ ซึ่งคิดว่ายังต้องหารือกันต่อเนื่องต่อไป ยังไม่จบเลยในทีเดียว

ทั้งนี้ ยืนยันว่าไทยได้ได้มีการเจรจากับสหรัฐฯ ช้าเกินไป แต่มีปัจจัยหรือเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องทบทวนอย่างรอบคอบ เพื่อเก็บและส่งข้อมูลมาวิเคราะห์ และที่ผ่านมาไทยได้มีการหารือกับสหรัฐฯ ในหลายระดับอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเจรจาผ่านระบบออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งการเห็นผลการเจรจรของประเทศอื่นที่เข้าไปเจรจาก่อนไทย ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ไทยสามารถมองออกว่าสหรัฐฯ ต้องการอะไร ซึ่งหลัก ๆ คือ ต้องการให้เกิดความสมดุลทางการค้า ดังนั้นตรงนี้ทำให้ไทยยังมีเวลาคิิด และทบทวนเกี่ยวกับข้อเสนอที่ได้ส่งไป

สำหรับการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ภายใต้กรอบ Preferential Trade Agreement (PTA) ไทยได้ยื่นข้อเสนอเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการทบทวนหลายรอบ โดยไทยพร้อมขยายการเปิดตลาดให้สหรัฐฯ เพิ่มเป็น 69% จากปัจจุบันมูลค่าสินค้าที่สหรัฐฯ ส่งมายังไทย อยู่ที่ 63-64% โดยการเปิดตลาดครั้งนี้จะครอบคลุมรายการสินค้าในอัตรา 0% ที่ไทยไม่เคยเปิดให้สหรัฐฯ มาก่อน เช่น ปลานิล ลำไย และรถยนต์พวงมาลัยซ้าย ซึ่งแม้ว่าสหรัฐฯ อาจจะไม่มีศักยภาพในการส่งออกสินค้าดังกล่าว แต่ก็เปิดให้สหรัฐฯ นำเข้าได้ เพราะมองว่าไม่น่าจะกระทบกับผู้ผลิตในประเทศแต่อย่างใด ขณะเดียวกันสหรัฐฯ เองก็มีตลาดหลักอื่นอยู่แล้ว

นายพิชัย กล่าวอีกว่า ในเรื่องการสวมสิทธิ์ถิ่นกำเนิดสินค้า เป็นอีกนโยบายที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญ เพราะเป็นปัจจัยที่ทำให้ภาษีนำเข้าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งวันนี้มองว่ากติกาการค้าโลกอาจจะต้องเปลี่ยนไป สินค้าที่มี local content สูงอาจจะไม่ได้โดนภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ แค่ 40% อีกต่อไป แต่อาจจะกลายเป็น 60-80% ดังนั้นอาจจะต้องกลับมานิยามคำว่า local content กันใหม่ ซึ่งอาจจะหมายถึงต้นทุนการผลิตของไทย บวกกับต้นทุนของสหรัฐ และบวกกับต้นทุนของส่วนที่เป็นพันธมิตร

“วันนี้เราไม่สามารถอยู่นิ่งได้ ต้องปรับตัว โดยเฉพาะการเพิ่ม local content ในห่วงโซ่การผลิตให้สูงขึ้นถึง 60-70% ให้ได้ในอนาคต ซึ่งจะเป็นเกราะป้องกันภาษีได้อย่างยั่งยืน แต่ก็ต้องยอมรับว่าขณะนี้เรายังไม่รู้ว่าจะโดนภาษีจากสหรัฐฯ ในส่วนของ local content เท่าไหร่ แต่เดาไปก่อนว่าเขาคงขอเยอะ แต่การจะปรับ local content ทันที เป็นไปไม่ได้ ต้องใช้เวลา บางอุตสาหกรรมใช้เวลา 5-10 ปี กว่าจะปรับ local content จาก 5% มาเป็น 50%” นายพิชัย กล่าว

อย่างไรก็ดี มองว่า โจทย์สำคัญของไทยในขณะนี้ คือ ต้องดึงการลงทุนใหม่ให้เกิดขึ้น แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องสหรัฐฯ เข้ามา เพราะการลงทุนถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หากเครื่องชี้เศรษฐกิจระบุว่าการลงทุนต่ำ เศรษฐกิจของประเทศก็จะดึงไม่ขึ้น ดังนั้นวันนี้มีหลายเรื่องที่ต้องเร่งทำ โดยเฉพาะความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมาก สะท้อนจากการปรับงบประมาณ 1.15 แสนล้านบาท มาเน้นในโครงการโครงสร้างพื้นฐานระยะสั้น เพื่อเชื่อมโยงไปถึงโครงการในระยะกลางและยาว

นายพิชัย กล่าวอีกว่า ในระหว่างนี้จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งเตรียมมาตรการในการให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ว่าจะได้รับผลกระทบอย่างไร และต้องการความช่วยเหลืออย่างไร เพื่อที่รัฐบาลจะได้เตรียมมาตรการทางการเงินในการให้ความช่วยเหลืออย่างถูกต้องต่อไป

“ตอนนี้กลุ่มอุตสาหกรรมกำลังทยอยส่งการบ้านมาเรื่อย ๆ ก็เป็นเรื่องที่เราต้องนำมาพิจารณากันต่อว่าเขาต้องการความช่วยเหลือในด้านใดบ้าง ซึ่งตรงนี้จะทำให้เรารู้ว่าเขาต้องการอะไร หน้าที่ของเราก็มีเพียงแต่ว่าต้องมาดูว่าจะต้องแก้อะไรบ้าง นอกเหนือจากเรื่อง tariffs และมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ โดยอาจจะมีบางเงื่อนไข หรือบางเรื่องที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ เช่น อัตราภาษีบางเรื่อง มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ยาหวาน แต่เป็นยาขมที่ทุกประเทศต้องเจอทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องเร่งทำให้เกิดความเข้าใจและเดินไปในทิศทางเดียวกัน โดยการตัดสินใจด้วยการยึดประเทศเป็นหลัก และต้องเข้าใจว่าไม่มีอะไรได้มา 100% อาจจะต้องเสียไปบ้าง” นายพิชัย กล่าว

อย่างไรก็ดี เบื้องต้นได้สั่งการให้สถาบันการเงินของรัฐ โดยเฉพาะธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เตรียมวงเงินซอฟท์โลน 2 แสนล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ในอัตราดอกเบี้ย 0.01% เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายในเรื่องสภาพคล่อง การลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่าน หรือการบริหารจัดการสินค้าคงเหลือในช่วงสุญญากาศ ส่วนบริษัทขนาดใหญ่นั้น เบื้องต้นธนาคารพาณิชย์อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลว่าต้องการความช่วยเหลือขนาดไหน และด้านใดบ้าง ซึ่งหากเกินกว่าที่ธนาคารพาณิชย์จะสามารถรองรับได้ ก็ให้เสนอมาว่าภาครัฐจะสามารถเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องใดได้บ้าง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

ตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาฯ มอบดาบ ‘บิ๊กเต่า’ สางปัญหา

31 นาทีที่แล้ว

สะพัด ป.ป.ช. ตั้งองค์คณะไต่สวน ‘แพทองธาร’ ปมคลิปคุยฮุน เซน

38 นาทีที่แล้ว

‘สุชาติ’ สั่งสำนักพุทธฯ ทำงานเชิงรุก ไม่ใช่รอตำรวจทำคดี ขีดเส้น 1 ต.ค. ทุกวัดต้องชี้แจงบัญชี

43 นาทีที่แล้ว

‘โค้ชวัง’ตั้งเป้าพาแข้งU23 คว้าแชมป์อาเซียนที่อินโดฯ ก่อนศึกชิงแชมป์เอเชีย

58 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

กลุ่มดุสิตธานี แตกแบรนด์ใหม่ ‘ดุสิต โฮเทล’ รุกตลาด Upper Upscale ทั่วโลก

การเงินธนาคาร

BC มองธุรกิจโรงแรมครึ่งปีหลังสดใส รับไฮซีซัน-“เที่ยวคนละครึ่ง” เฟสใหม่หนุนทัวริสต์คึก

การเงินธนาคาร

เงินบาทปิดที่ 32.39 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าสวนทางภูมิภาคตามราคาทองคำ คาดกรอบวันพรุ่งนี้ 32.30-32.50

สยามรัฐ

รมว.คลัง ส่งสัญญาณเจรจาภาษีสหรัฐไม่จบง่าย! เตรียมพร้อมรับมือเร่งดึงลงทุน-ปรับโครงสร้างรับมือโลกใหม่

Manager Online

"อินเตอร์โกลด์" คาดราคาทอง "พักฐาน" รอบใหญ่ ครึ่งปีหลังเสี่ยงหลุด 50,000 แนะ DCA ระยะยาวเป็นขาขึ้น

TNN ช่อง16

นักเศรษฐศาสตร์เตือน! สงครามการค้า "ทรัมป์" ศึกหนักของไทย แนะเร่งปรับโครงสร้างประเทศ

Manager Online

จีน ส่งออก “แร่หายาก” พุ่งสูงสุดรอบ 15 ปี สะท้อนดีมานด์โลกแย่งชิงวัตถุดิบผลิตแม่เหล็ก

การเงินธนาคาร

‘อาหารอุ่นร้อน’ โอกาสทอง 8.2 หมื่นล้านในจีน รับเทรนด์คนโสด-ขี้เกียจ

SMART SME

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...