ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ เผย สีกากอล์ฟ เคยโผล่วัดประยุรฯ ตั้งโรงทานเมื่อปี 66
จากกรณี เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่วัดประยุรวงศาวาส ขอหลักฐานเส้นทางการเงินหลังพบว่าอดีตฯ เจ้าอาวาสโอนเงินให้สีกากอล์ฟกว่า 12 ล้านบาทนั้น
ดร.พระครูวินัยธรวิเชียร วชิรธมฺโม (พูลมนัส) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า คณะสงฆ์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริง ต้องเรียกพระที่เกิดอธิกรณ์ทั้งหลายมาให้ข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนนี้อยู่
เมื่ออดีตฯ เจ้าอาวาส ให้การอย่างไร คณะกรรมการต้องมีข้อมูลที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์พิจารณาควบคู่ไปด้วย เพื่อพิจารณาโทษทางวินัย
ดร.พระครูวินัยธรวิเชียร กล่าวว่า โทษของพระมี 2 ประเภท โทษทางพระวินัย เป็นข้อบัญญัติที่พระพุทธเจ้ากำหนด ถ้าผิดคือต้องอาบัติ และโทษทางโลก อาจเป็นคดีอาญาทางบ้านเมือง หรือเรื่องราวที่ชาวบ้านไม่เห็นด้วย ชาวบ้านติเตียน
ดร.พระครูวินัยธรวิเชียร อธิบายว่า โทษทางวินัยมี 3 ระดับด้วยกัน ระดับสูงคือต้องอาบัติปาราชิก ประกอบด้วย เสพเมถุน ลักขโมย ฆ่ามนุษย์ แม้ไม่ได้ลงมือ พูดให้ฆ่าตัวตาย ให้ยาทำแท้ง และพูดอวดคุณพิเศษที่ไม่มีในตนจริง ซึ่งถ้าภิกษุรูปใดละเมิดพระวินัยนี้ ให้สึกอย่างเดียว
แต่ถ้าพระภิกษุใดมีความสัมพันธ์กับสุภาพสตรี จับต้องกายด้วยความกำหนัด พูดเกี้ยว เซ็กซ์โฟน ชักสื่อให้เขาเป็นผัวเมียกัน หรือแม้กระทั่งคุยกับสตรีและปรากฏหลักฐานว่ามีการช่วยตัวเองจนสำเร็จ ถือเป็นอาบัติเบา
ดร.พระครูวินัยธรวิเชียร กล่าวต่อว่า โทษในแง่ของพระนั้นเรียกว่า จริยาพระสังฆาธิการ กำหนดเฉพาะพระภิกษุที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสขึ้นไป แม้บางทีโทษทางวินัยเล็กน้อย ก็มีการลงโทษเหมือนจริยธรรมนักการเมือง เจ้าคณะปกครองก็จะมีอำนาจตรงนี้
แม้โทษเพียงเล็กน้อยก็มีการตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร ภาคทัณฑ์เป็นลายลักษณ์อักษร และให้ออกจากตำแหน่ง แต่ถ้าจะให้ลาสิกขาก็ต้องนำพระวินัยมาเป็นตัวกำหนด ซึ่งตามที่มหาเถรสมาคมกำหนด ได้มอบหมายให้เจ้าคณะปกครองขึ้นตรงกับมหาเถรสมาคม
เมื่อตั้งคณะกรรมการสอบ ก็อยู่ที่มหาเถรฯ จะกำหนดว่า เจ้าคณะปกครอง ต้องทำหน้าที่ในการตั้งคณะกรรมการ เมื่อตั้งกรรมการเสร็จแล้ว จะมีกฎหมายไปยังภิกษุผู้เป็นข่าว ให้มาให้รายละเอียดพร้อมหลักฐานข้อมูล
ส่วนท่านลาสิกขาหรือยังนั้น ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล แต่การจะลาสิกขาจะต้องดูเงื่อนไขประกอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และมองว่าเงื่อนไขในแง่นิติวิทยาศาสตร์ ยังคงไม่ถึงต้องกับลาสิกขา และตอนที่ท่านออกไปจากวัด ส่วนตัวก็ไม่ทราบว่ามีการแจ้งกับท่านเจ้าอาวาสไว้หรือไม่
ส่วนจะเรียกเข้ามาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการเมื่อไรนั้น เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจะเกิน 7 วัน ก็จะทราบผล เพราะขณะนี้เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารได้ติดต่อไปยังเจ้าคุณประสิทธิ์ เพื่อให้มาให้ปากคำกับคณะกรรมการที่ตั้งมาไว้เพื่อตรวจสอบแล้ว และส่วนตัวมั่นใจว่าเจ้าคุณประสิทธิ์ จะมาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการอย่างแน่นอน แต่คงไม่มาพบเจอกับสื่อมวลชน
พระครูวินัยธรวิเชียร ยังกล่าวอีกว่า ด้วยลักษณะนิสัยของท่าน เป็นพระที่เรียบร้อย เอาจริงเอาจัง ยึดมั่นในกฎระเบียบ ไงต้องเอาอย่างนั้น เป็นพระที่กล้าชน และเป็นคนนิ่ง ตั้งแต่ที่เคยเห็นมาตลอด 40 ปี ท่านเป็นพระที่เป็นนักทำงาน
ส่วนการดูแลบัญชีวัดและการเบิกจ่ายจะมีการกลั่นกรอง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าคุณประสิทธิ์ เพราะว่าท่านไม่ได้มีอำนาจในการเบิกจ่ายเงินวัด ซึ่งที่ท่านใช้ท่านหามาเอง ไม่ได้ใช้เงินวัดแม้กระทั่งเงินซ่อมแซมกุฏิ
ส่วนกรณีสีกากอล์ฟเคยมาที่วัดนี้หรือไม่นั้น พระครูวินัยธรวิเชียร บอกว่า จำได้ว่าเคยเห็น แต่หายไป 2 ปีแล้ว ตอนนั้นมีการตั้งโรงทานเลี้ยงน้ำปานะ ทั้งพระและโยม โดยโยมผู้นี้เป็นโยมอุปถัมภ์ เป็นนักบุญ แต่งตัวดีโปรไฟล์ดี รถที่ใช้ก็ดี ซึ่งผู้ที่มาตั้งโรงทาน คืออดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย นำพามา แต่ก็ไปหลายวัดไม่ใช่แค่ที่นี่ จึงเป็นที่คุ้นเคยของพระผู้ใหญ่หลายวัด เขาก็อาศัยคราบนักบุญ ขุดบ่อล่อปลาเพื่อจับพระตัวใหญ่ จึงเป็นที่มาของการรู้จักพระหลายวัด
ส่วนจะมีสีกามาคลุกคลีกันหรือไม่นั้นไม่ทราบ และเท่าที่เห็นของท่านเจ้าคุณประสิทธิ์นั้น ไม่เห็นมีสีกามาคลุกคลี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
CIB เปิดศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เปิดให้ประชาชนแจ้งเบาะแสพระทำผิด
สีกากอล์ฟ รับยืมเงิน 12.8 ล้าน อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ จริง ไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว
สึกแล้ว! เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม ยอมรับอ่อนต่อโลก
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ เผย สีกากอล์ฟ เคยโผล่วัดประยุรฯ ตั้งโรงทานเมื่อปี 66
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com