จีนทุ่มงบแก้ปัญหาประชากรลด-"สังคมสูงวัย"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภายใต้นโยบายใหม่นี้ ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมกว่า 20 ล้านครอบครัวทั่วประเทศ เงินอุดหนุนดังกล่าวจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และจะไม่ถูกนับรวมเป็นรายได้เมื่อพิจารณาการให้ความช่วยเหลือสวัสดิการอื่น ๆ เช่น เบี้ยยังชีพ
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายทางประชากรศาสตร์ของจีน โดยอัตราการเกิดลดลงต่อเนื่อง 7 ปี ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อยในปี 2567 ขณะที่จำนวนประชากรวัย 60 ปีขึ้นไปพุ่งสูงถึง 310 ล้านคน ณ สิ้นปีที่แล้ว มาตรการนี้จึงเป็นความพยายามล่าสุดต่อจากการผ่อนคลายนโยบายวางแผนครอบครัวอย่างต่อเนื่องตลอดทศวรรษที่ผ่านมา รวมถึงการยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวในปี 2559 และการสนับสนุนให้มีบุตรคนที่สามในปี 2564
จาง เปิ่นป๋อ นักวิจัยจากสถาบันคลังสมองภายใต้คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ระบุว่า "เป็นที่ยอมรับในระดับสากลว่า เงินอุดหนุนในรูปแบบตัวเงินเป็นมาตรการที่ขาดไม่ได้ในการส่งเสริมการมีบุตร" ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของศาสตราจารย์ซ่ง เจี้ยน จากมหาวิทยาลัยเหรินหมิน ที่ชี้ว่าประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ต่างใช้มาตรการลักษณะเดียวกันเพื่อแก้ปัญหาอัตราการเกิดต่ำ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งได้ริเริ่มโครงการนำร่องและเห็นผลลัพธ์ในเชิงบวก เช่น เมืองพานจือฮัว ในมณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นเมืองแรกในประเทศที่ให้เงินอุดหนุน มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 4 ปี ส่วนเมืองเทียนเหมิน ในมณฑลหูเป่ย พบว่าจำนวนเด็กเกิดใหม่ในปี 2567 เพิ่มขึ้นถึง 17% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนยังได้เดินหน้ามาตรการสนับสนุนอื่น ๆ ควบคู่กันไป โดยล่าสุดได้มีคำสั่งให้รัฐบาลท้องถิ่นเร่งจัดทำแผนการศึกษาปฐมวัยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และขยายบริการสถานรับเลี้ยงเด็กสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี เพื่อลดภาระของผู้ปกครองและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง