โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

แฟชั่น บิวตี้

Masculine Energy ใช่เราไหม ? เอเนอร์จี้สาวแกร่งพลังชาย อ่อนไหวไม่เป็น

SistaCafe

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • SistaCafe

สวัสดีค่าชาวซิสและนักอ่านทุกคนเลยนะคะ ว่าด้วยเรื่องของกระแสโซเชียลที่ถูกพูดถึงมาตั้งแต่ช่วงประมาณปลายปีที่แล้วมาจนถึงตอนนี้เลย นั่นก็คือเรื่องของ Masculine Energy หรือ พลังงานความเป็นผู้ชาย นั่นเองค่ะ ซึ่งที่ถูกหยิบมาพูดถึงก็เพราะว่าผู้หญิงบางคนมีพลังงานความเป็นผู้ชายที่อยู่ในตัว เอ๊ะ !? ฟังดูงง ๆ ใช่ไหมคะว่าพลังงานความเป็นผู้ชายจะมาอยู่ในตัวผู้หญิงได้ยังไง แล้วมันเป็นพลังงานความเป็นผู้ชายแบบไหน วัดจากอะไร เรามีพลังงานนี้ในตัวไหม มาหาคำตอบและทำความเข้าใจเรื่องนี้ไปพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ :-D

♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡

Masculine Energy ในผู้หญิงคืออะไร ?

ก่อนอื่นเราต้องเริ่มพูดก่อนว่า Masculine Energy ในผู้หญิงคืออะไร มันก็คือ พลังงานความเป็นผู้ชายที่อยู่ในตัวของผู้หญิง ทำให้ผู้หญิงบางคนดูมีความแกร่ง ความเป็นผู้นำ เป็นที่พึ่งต่าง ๆ สูงมาก หรือที่หลายคนเรียกอีกชื่อว่า " เดอะแบก " นั่นเองค่ะ อย่างที่กำลังเป็นที่พูดถึงในโซเชียล ยกตัวอย่างที่เห็นภาพชัด ๆ อย่างคุณทราย เจริญปุระเนี่ยก็เป็นคนนึงที่เป็นเดอะแบกของบ้านเลย ทำให้คุณทรายเป็นที่พึ่งหลัก ๆ ของที่บ้าน ต้องมีความเป็นผู้นำ ต้องคอยช่วยเหลือ คอยแก้ปัญหาให้ทุกคนอยู่เสมอ ๆ จนทำให้หลาย ๆ ครั้งก็เกิดความรู้สึกเครียดเพราะเก็บเอาทุกอย่างมาคิดอยู่ตลอด แล้วก็รู้สึกว่ามันคือหน้าที่ของเรา เราต้องทำ ใครอยากฟังสัมภาษณ์เต็ม ๆ ก็สามารถกดฟังจากลิงก์ข้างล่างได้เลยนะคะ มีข้อคิดดี ๆ จากเรื่องเดอะแบกของบ้านที่น่าสนใจเยอะมาก ๆ เลย

♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡

ทำไมบางคนถึงมีความเป็น ผู้ชาย มากกว่า ผู้หญิง ล่ะ ?

หลัก ๆ แล้วมักจะเกิดจากการถูกเลี้ยงดูและสังคมที่เติบโตมาค่ะ ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่มี Masculine Energy สูง ๆ เลยก็จะมาจากการเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก ๆ บางคนอาจจะเติบโตมาในบ้านที่มีแต่ผู้ชายเป็นหลัก ทำให้ติดนิสัยหลาย ๆ อย่างที่มีความเป็นผู้ชายมาเยอะ หรือบางคนก็เติบโตมาในบ้านที่แม่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องแกร่ง มีความเป็นผู้นำ พึ่งพาได้ เมื่อเราเห็นจนชินตาว่าแม่ทำแบบนี้มาตลอด ก็มีส่วนทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องทำแบบนั้นด้วยและมันเป็นสิ่งที่ควรทำได้นั่นเอง

♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡

แล้ว Masculine Energy วัดจากอะไร ?

พูดง่าย ๆ ก็คือเราจะรู้ได้ยังไงว่า " นี่คือความเป็น Masculine " โดยถ้านับจากกระแสของประเด็น Masculine Energy ที่เห็นส่วนใหญ่เลยก็คือเกิดจากการยึดโยงลักษณะนิสัยบางอย่างกับเพศ ๆ นึง หรือที่เราเรียกกันว่า " บทบาททางเพศ (Gender Role) " นั่นเองค่ะ มันคือการยึดโยงและเหมารวมว่านิสัยแบบนี้คือเพศนี้นะ แล้วบทบาททางเพศที่ว่าก็แบ่งจากสังคมและวัฒนธรรมที่มีมานานมาก ๆ แล้ว ซึ่งถ้าพูดถึงในปัจจุบันแล้วเนี่ย สังคมเริ่มที่จะพยายามไม่ยึดโยงและไม่เหมารวมแล้วว่านิสัยแบบนี้ พฤติกรรมแบบนี้คือการกระทำของเพศใดเพศหนึ่ง เพราะจริง ๆ แล้วมันคือนิสัยและพฤติกรรมส่วนบุคคลที่สามารถเกิดขึ้นกับใคร เพศอะไร อายุเท่าไหร่ก็ได้ทั้งหมดค่ะ ยกตัวอย่างเช่น บทบททางเพศของผู้ชายคือผู้ชายต้องเข้มแข็ง ไม่อ่อนแอ ห้ามร้องไห้ให้ใครเห็น ทั้งที่ความเป็นจริงผู้ชายก็สามารถร้องไห้ให้คนอื่นเห็นได้ มีความอ่อนแอได้ ไม่เกี่ยวว่าผู้ชายคนนั้นเป็น LGBTQ+ หรือไม่เลย เป็นต้น

♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡

รู้มั้ยว่า masculine energy มีถึง 4 type ด้วยกัน

Masculine Energy ที่นิยมพูดถึงในเชิงจิตวิทยาและพัฒนาตนเอง มักแบ่งออกเป็น 4 Archetypes หรือที่รู้จักกันว่า "The 4 Masculine Archetypes" เป็น คุณลักษณะสำคัญของพลังงานชายในแง่มุมต่าง ๆ ซึ่งปรากฏในบุคลิก การแสดงออก และจิตใจของมนุษย์ ซึ่งมาจากหนังสือชื่อดัง King, Warrior, Magician, Lover โดย Robert Moore และ Douglas Gillette นั่นเองค่ะ แม้จะมีรากฐานมาจาก Archetype ของเพศชายในเชิงวัฒนธรรมและจิตวิทยาเชิงสัญลักษณ์ แต่ ผู้หญิงก็สามารถมีและพัฒนา 4 Archetypes นี้ได้เหมือนกันนะคะ

King (ราชา)

  • ตัวแทนของ : ความเป็นผู้นำ, ความมั่นคง, การดูแลผู้อื่น, ความเมตตา
  • ลักษณะเด่น : เป็นศูนย์กลางที่มั่นคงของจักรวาล, รู้จักใช้พลังเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
  • ด้านบวก : มีวิสัยทัศน์, รู้จักควบคุมอารมณ์, สร้างสมดุล
  • ด้านลบ : เผด็จการ, ไม่มั่นคง, ต้องการการยอมรับเกินพอดี

Warrior (นักรบ)

  • ตัวแทนของ : พลัง, ความมุ่งมั่น, การลงมือทำ, ความกล้าหาญ
  • ลักษณะเด่น : สู้เพื่อความถูกต้อง, มีเป้าหมายชัดเจน
  • ด้านบวก : มีวินัย, ปกป้องคนอ่อนแอ, ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก
  • ด้านลบ : ก้าวร้าว, ขาดความเห็นอกเห็นใจ, แข่งขันเกินไป

Magician (นักเวท/ผู้รู้)

  • ตัวแทนของ : ภูมิปัญญา, ความเข้าใจโลกเบื้องหลัง, การเรียนรู้
  • ลักษณะเด่น : วิเคราะห์ลึก, เป็นครูหรือที่ปรึกษา, รู้ความลับของโลกและจิตใจ
  • ด้านบวก : สติปัญญาสูง, เชื่อมโยงความลับของชีวิต
  • ด้านลบ : เจ้าเล่ห์, ใช้ความรู้เพื่อควบคุมคนอื่น, ขาดความเมตตา

Lover (คนรัก)

  • ตัวแทนของ : ความรู้สึก, ความโรแมนติก, ความสร้างสรรค์, ความหลงใหล
  • ลักษณะเด่น : เชื่อมโยงกับความงาม, ธรรมชาติ, ศิลปะ และความรัก
  • ด้านบวก : รู้จักสนุกกับชีวิต, มีอารมณ์ละเอียดอ่อน, มีความรักบริสุทธิ์
  • ด้านลบ : เสพติด, ขาดการควบคุมอารมณ์, จมกับความสุขเกินไป

♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡

เช็กลิสต์ ! เราเป็น Masculine Women ไหม ตรงกับเรากี่ข้อ ?

แต่ถ้าหากจะต้องเช็กลิสต์ความเป็นผู้ชายหรือความเป็น Masculine Energy ก็สามารถเช็กคร่าว ๆ ประมาณนี้ได้เลยค่ะ

  • มีความเป็นผู้นำ : หรือก็คืออยากเป็นคนที่กำหนดและพาทีม/กลุ่ม ๆ นึงไปในทิศทางที่ต้องการ ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้างานหรือผู้จัดการเท่านั้น อย่างผู้นำในครอบครัว คอยดูแลทุกคนในบ้าน หารายได้เข้าบ้านก็ถือว่ามีความเป็นผู้นำได้เหมือนกัน
  • เป็นที่พึ่งให้คนอื่นได้ : ต่อเนื่องจากการเป็นผู้นำก็คือการเป็นที่พึ่งให้คนอื่นได้ เวลามีปัญหาอะไร มีเรื่องราวจะดีหรือร้ายก็มักจะมาคนมาพึ่งพา คอยมาคุยมาปรึกษาสอบถามเราอยู่เสมอ ๆ
  • มีความเข้มแข็ง ไม่อ่อนแอ : ไม่แสดงด้านอ่อนไหวให้ใครเห็น ทำตัวเข้มแข็งทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เช่น ถือของหนักเองได้ ไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นง่าย ๆ เป็นต้น
  • มีความคล่องแคล่วว่องไว : ทำอะไรจะไม่อืดอาดยืดยาด ทำเร็ว ๆ รีบ ๆ เพื่อให้มันมีความกระชับกระฉับกระเฉง
  • เป็นคนทะเยอทะยาน : อยากที่จะดันตัวเองไปให้ไกล อยากจะก้าวหน้า มีความตั้งใจที่จะพุ่งทะยานไปในด้านใดด้านนึงแบบสุด ๆ ตัว เช่น อยากเลื่อนตำแหน่งก็ตั้งใจทำงาน หาโอกาสต่าง ๆ เพื่อให้ตัวเองเติบโตและก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ
  • กล้าได้กล้าเสีย : กล้าที่จะลองทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่รู้สึกหวั่นกลัว รู้สึกว่าต้องลองทำจะได้รู้กันไป ถ้ามันจะผิดพลาด จะล้มลุกคลุกคลานก็ไม่เป็นไรเพราะเรากล้าที่จะเผชิญหน้า ไม่กลัวไม่หวั่น
  • มีความกล้าหาญ : คล้าย ๆ กับการกล้าได้กล้าเสียเลยค่ะ คือกล้าที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ รวมไปถึงกล้าที่จะเผชิญกับความกลัวด้วย รู้สึกว่าตัวเองจะต้องก้าวข้ามมันไปให้ได้ สลัดความกลัวไว้ข้างหลังได้
  • ตัดสินใจรวดเร็ว : ไม่ใช้เวลาในการคิดไตร่ตรองนาน รู้สึกว่าต้องคิดเร็ว ทำเร็วเพื่อจะได้ไม่ยืดเยื้อและเสียเวลา
  • กล้าเปิดเผยทั้งความคิด อารมณ์และความรู้สึก : รู้สึกนึกคิดแบบไหนก็แสดงออกอย่างชัดเจน ทั้งสีหน้า อารมณ์และท่าทาง เช่น โกรธก็เริ่มคิ้วขมวด มีน้ำเสียงในการพูดที่เปลี่ยนไปหรือมีความสุขก็ยิ้มและหัวเราะออกมาชัดเจน
  • มีอารมณ์ที่หนักแน่นและมั่นคง : คิดอะไรแล้วก็มั่นคงไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ ไม่เปลี่ยนแปลงและไม่อ่อนไหวต่อความคิดที่เข้ามาทำให้ไขว้เขว เช่น ตั้งใจที่จะงดดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ใครชวนก็จะไม่กิน ไม่แตะ ไม่ชิมอะไรทั้งนั้น

♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡

Masculine VS Feminine ต่างกันยังไง ใช้เอเนอร์จี้ไหนดี ?

สำหรับคำถามที่ว่า Masculine และ Feminine แตกต่างกันยังไง ก็ต้องอธิบายก่อนว่า Masculine = ความเป็นผู้ชาย และ Feminine = ความเป็นผู้หญิง ซึ่งถ้าแบ่งแยกตามบทบททางเพศ หรือ Gender Role แบบง่าย ๆ เลยก็คือ

  • Masculine จะมีความเป็นผู้นำ พึ่งพาได้ เข้มแข็ง ไม่อ่อนแอ มีความทะเยอทะยาน กล้าทำ กล้าเปิดเผย
  • Feminine จะมีความอ่อนหวาน นุ่มนวล เรียบร้อย ขี้อาย มีความใส่ใจ ละเอียดอ่อน เมตตา

สรุปง่าย ๆ ก็คือมีความขั้วตรงข้ามกันมาก ๆ สิ่งนึงจะมีความแข็งกระด้างกว่า อีกสิ่งนึงก็จะมีความนุ่มนวลมากกว่านั่นเองค่ะ แล้วถ้าถามว่าควรใช้เอเนอร์จี้ไหนมากกว่ากัน ตอบตรงนี้เลยว่าเราควรเฉลี่ยทั้ง 2 เอเนอร์จี้นี้ให้ไปด้วยกันได้ค่ะ เราควรรู้ว่าสถานการณ์ไหนที่ควรจะใช้เอเนอร์จี้ความเป็นผู้หญิง หรือสถานการณ์ไหนควรใช้เอนเนอร์จีความเป็นผู้ชาย มีความยืดหยุ่นในการปรับตัว จะทำให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้นและมีความสุขมากขึ้นค่ะ อันนี้พูดรวมถึงทุกเพศเลยนะคะ ยกตัวอย่าง การเลือกใช้เอเนอร์จี้ในความสัมพันธ์ต่าง ๆ ในเวลาที่เราต้องตัดสินใจร่วมกัน ก็ควรมี Masculine Energy เพื่อเพิ่มความหนักแน่นในความคิดเห็นของตัวเอง และเป็นการวางแผนร่วมกันที่มีเหตุผล แต่ในบางเวลาเราก็สามารถขอความช่วยเหลือได้ รู้จักใช้ Feminine Energy บ้าง ไม่จำเป็นต้องทำเองไปซะทุกอย่าง เพราะอีกฝ่ายเองเค้าก็อยากดูแลเราบ้างไม่แพ้กันนะคะซิส

♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡

ทริคปรับพลังงาน ลด Masculine Energy ยังไงได้บ้าง ?

อย่างที่บอกไปนะคะว่า Masculine Energy มันยึดโยงกับบทบาททางเพศที่สังคมตีกรอบว่าผู้หญิงจะมีลักษณะแบบนี้ ผู้ชายจะมีลักษณะแบบนั้น ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ได้สามารถบอกได้ชัดเจนขนาดนั้นว่าสิ่งนี้คือเอเนอร์จี้ของเพศอะไร เพราะลักษณะพวกนี้มันขึ้นอยู่กับบุคคลซะมากกว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ เราเลยอยากให้ทุกคนโฟกัสในจุดที่ว่า "เราควรปรับลดเอนเนอร์จีที่สุดโต่ง" ของตัวเองยังไงมากกว่าการโฟกัสว่าเราควรปรับลดเอเนอร์จี้ของเพศไหนในตัวลง ซึ่งก็มีทริคแนะนำดังนี้เลยค่ะ

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

สุดท้ายนี้อยากฝากนักอ่านทุกคนไว้ว่าไม่อยากให้ยึดเรื่อง Masculine Energy หรือ Feminine Energy มากจนเกินไปนะคะ เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดมันไม่ใช่พลังที่ถูกยึดโยงกับเพศว่าทำตัวแบบนี้คือมีความเป็นผู้ชายหรือทำตัวแบบนี้มีความเป็นผู้หญิง แต่อยากให้ทุกคนเฉลี่ยจุดที่ตึงเกินไปของตัวเองให้มันคลายลง เช่น เรารู้สึกว่าเราไม่อยากพึ่งพาใครเลย อยากทำทุกอย่างด้วยตัวของตัวเองคนเดียว คนอื่นไม่ต้องมาช่วย ในกรณีแบบนี้อยากให้ทุกคนลองลดความตึงตรงนี้แล้วเปิดใจให้คนอื่นช่วยเหลือบ้าง เราจะได้รู้ว่าการพึ่งพาคนอื่นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีหรือผิดนั่นเองนะคะ

ขอบคุณภาพปกและภาพประกอบบทความจากเว็บไซต์ soompi.com, blog.naver.com รวมถึงข้อมูลจากเว็บไซต์ psy.chula.ac.th

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แนะนำบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ !

อ่านบทความต้นฉบับได้ที่: SistaCafe.com ครบเครื่องเรื่องบิวตี้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก SistaCafe

ซิสเปิดดวง 6 ราศีที่สัตว์เลี้ยงให้โชค เลี้ยงแล้วดี เป็นศรีแก่ตัวเอง

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิธีกินลดสิว ปรับฮอร์โมนสยบปัญหา PMS

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความแฟชั่น บิวตี้อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...