รัฐบาล ชื่นชม ปภ.ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุปะทะ ทุกพื้นที่ทันเหตุการณ์ หลังจัดศูนย์พักพิง 759 แห่ง รองรับผู้ได้รับผลกระทบกว่า 8 แสนคน
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา และยังคงส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด รัฐบาลโดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ได้จัดการประชุมติดตามสถานการณ์ภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยมีการเน้นย้ำให้ 7 จังหวัดชายแดน ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด เร่งบูรณาการความช่วยเหลือในทุกด้านอย่างทั่วถึงและทันท่วงที
จากการติดตามสถานการณ์จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 พบว่าพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 45 อำเภอ 336 ตำบล 4,085 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 839,000 คน เสียชีวิต 17 ราย และบาดเจ็บ 38 ราย โดยได้มีการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้วจำนวน 759 แห่ง ใน 5 จังหวัด เพื่อรองรับผู้อพยพรวมกว่า 174,000 คน พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก รวมถึงกิจกรรมบำบัดเพื่อลดความเครียด
ทั้งนี้ ยังได้เร่งสำรวจความเสียหายเชิงพื้นที่อย่างละเอียด พร้อมเดินหน้าจ่ายเงินช่วยเหลือตามระเบียบโดยไม่ต้องรอผลสรุปความเสียหายครบทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกำชับให้มีการประชุมในทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทันที
ในส่วนของการสนับสนุน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดส่งความช่วยเหลือแล้วกว่า 1 ล้านหน่วย อาทิ อาหารกล่องกว่า 4 แสนกล่อง น้ำดื่มเกือบ 6 แสนขวด ถุงยังชีพและเครื่องใช้จำเป็น พร้อมสนับสนุนรถเครื่องจักรกลสาธารณภัยจาก 6 ศูนย์เขต รวม 108 คัน ลงพื้นที่ทันทีเพื่อเร่งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
“รัฐบาล ขอขอบคุณ ปภ.ที่ดูแล ประชาชนพร้อมเดินหน้าให้ความช่วยเหลือทุกครัวเรือนอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ประชาชนทุกคนผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัย” นางสาวศศิกานต์กล่าว