รัสเซียยิงมิสไซล์ถล่มรอบ ‘สถานทูตอาเซอร์ไบจาน’ ในยูเครน เพียงไม่กี่วันหลังปธน. ‘อาลีเยฟ’ หนุน ‘เซเลนสกี’ อย่ายอมแพ้
(22 ก.ค. 68) รัสเซียเปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่หลายพื้นที่ในยูเครน รวมถึงกรุงเคียฟ โดยอาคารหลายแห่งในเขตเชฟเชนคิฟสกี, โซโลเมียนสกี, โฮโลซีฟสกี และดาร์นีตสกี ได้รับความเสียหายอย่างหนัก หนึ่งในจุดสำคัญที่ถูกจรวดโจมตีคือบริเวณรอบสถานเอกอัครราชทูตอาเซอร์ไบจานในเคียฟ เบื้องต้นมีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
สำหรับการโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากประธานาธิบดีอิลฮาม อาลีเยฟ (Ilham Aliyev) แห่งอาเซอร์ไบจาน กล่าวสนับสนุนยูเครนต่อสาธารณะในเวทีระดับนานาชาติ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยแนะนำชาวยูเครนว่า “อย่ายอมแพ้” ต่อการรุกราน พร้อมระบุว่า “ไม่ควรยอมรับการยึดครอง นี่คือแนวทางที่ชาวอาเซอร์ไบจานใช้ในการกู้คืนดินแดนของตน”
คำกล่าวดังกล่าวมีขึ้นหลังผู้สื่อข่าวยูเครนยกให้อาเซอร์ไบจานเป็นตัวอย่างของประเทศที่สามารถทวงคืนอธิปไตยสำเร็จจากสงครามคาราบัค โดยชื่นชมการนำของอาลีเยฟที่กล้าแสดงจุดยืนสนับสนุนอธิปไตยและสนับสนุนยูเครนอย่างชัดเจน
แม้ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าการโจมตีในเคียฟมีเป้าหมายตอบโต้ท่าทีของอาเซอร์ไบจานโดยตรง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใกล้สถานทูตดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณจากรัสเซียที่ไม่พอใจกับท่าทีของอาลีเยฟ ซึ่งยิ่งเน้นย้ำภาพลักษณ์ของสงครามยูเครนที่ลุกลามไปไกลกว่าแค่ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ