สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้ “ปาราชิก” ใน 10 วัน หากสงฆ์กระทำผิด
ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ไฟเขียวแก้กฎนิคหกรรม และ สละสมณเพศ หากมีพระสงฆ์กระทำผิดร้ายแรงต้อง "ปาราชิก" ภายใน 10 วันทันที
เพจสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โพสต์เอกสารสำคัญ สมเด็จพระสังฆราช ลงนามแก้ไข กฎมหาเถรสมาคม 2 ฉบับ คือ 1. กฎปี 2521 ว่าด้วย "การลงนิคหกรรม" ใช้ลงโทษพระที่ทำผิด เพื่อให้กลับตัวดีขึ้น 2. กฎปี 2538 ว่าด้วย "การลาสิกขา" กำหนดขั้นตอนเวลาพระจะลาสิกขา (สึก) ซึ่งทั้งสองฉบับนี้มีการปรับให้ชัดเจนและเหมาะกับยุคปัจจุบันมากขึ้น
โดยสรุปได้ดังนี้
1.กฎทั้งสองฉบับบัญญัติขึ้นนานปีมากแล้ว (ตั้งแต่ปี 2521 และ 2538) การตัดสินพระที่ทำผิดสมัยก่อนอาศัยพยานบุคคลและเอกสารเป็นหลัก ทำให้กระบวนการล่าช้า บางคดีต้องใช้เวลาหลายปี
2.ในปัจจุบัน เทคโนโลยีก้าวหน้า เช่น คลิปเสียง คลิปวิดีโอ หรือข้อมูลดิจิทัล สามารถใช้เป็นพยานหลักฐานได้ หากพิสูจน์แล้วว่าไม่ถูกตัดต่อหรือกลั่นแกล้ง สามารถใช้ตัดสินได้เร็วขึ้น
3.สมเด็จพระสังฆราช ทรงให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างมาก ทรงแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อร่างกฎแก้ไข และมีพระวินิจฉัยเห็นชอบในร่างที่เสนอมานี้
4.กฎใหม่ยังคงยึดหลักของพระธรรมวินัย และ พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ คือให้คณะสงฆ์เป็นผู้พิจารณา ไม่ใช่ข้าราชการ แต่ภาครัฐสามารถสนับสนุนเรื่องพยานหลักฐานได้
5.หากมีหลักฐานชัดเจน เช่น จากตำรวจ หรือแหล่งอื่น ว่าพระรูปใดทำผิดร้ายแรง เช่น ผิดถึงขั้น “ปาราชิก” หรือแม้จะไม่ถึงขั้นนั้นแต่สร้างความเสียหายรุนแรง ก็ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอเรื่องพร้อมหลักฐานเข้าสู่การพิจารณา
6.ในกรณีพระภิกษุทั่วไปกระทำผิด เป็นหน้าที่และอำนาจของเจ้าคณะภาคเป็นผู้ตัดสิน อาทิ พระทั่วไป เจ้าคณะภาคพิจารณา , พระมีตำแหน่ง เจ้าคณะใหญ่พิจารณา , พระระดับสูง (เช่น เจ้าคณะจังหวัด พระราชาคณะ) มหาเถรสมาคมเป็นผู้พิจารณา
7.หากพิจารณาแล้วเป็นคดีร้ายแรง เช่น ปาราชิก และมีหลักฐานชัดเจน ผู้มีหน้าที่และอำนาจต้องดำเนินการและพิจารณาต้องเสร็จใน 10 วัน
8.ถ้ามีคำสั่งให้พระรูปนั้น สละสมณเพศ แล้วไม่ทำตาม สำนักงานพระพุทธฯ สามารถขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่รัฐให้ดำเนินการตามคำสั่งได้
9. เมื่อผ่านมติแล้ว จะนำกฎทั้งสองฉบับขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระสังฆราชลงพระนาม และประกาศใช้ใน "แถลงการณ์คณะสงฆ์" โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันถัดไป
10. การแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคมทั้งสองฉบับนี้ จะเป็นผลให้การพิจารณาอธิกรณ์ และลงนิคหกรรมในอาบัติร้ายแรงปรากฏผลโดยเร็ว หรือก็คือ กฎใหม่จะทำให้การพิจารณาโทษพระ
ในคดีร้ายแรง เร็วขึ้น ชัดเจนขึ้น และเหมาะสมกับยุคปัจจุบันมากขึ้น
ซึ่งจากโพสต์ข้างต้น ให้มีชาวเน็ตไทยหลายท่านออกมาแสดงความเห็น อาทิเช่น "ถ้าผิดพระธรรมวินัยก็เอาผิดตามพระธรรมวินัย ถ้าผิดตามกฎหมายบ้านเมืองก็เอากฎหมายบ้านเมือง" "10 วัน นานไปมั้ง ผิดซึ่ง ๆ หน้าจับสึกทันที แค่เสี้ยววินาที ก็เสื่อมเสียแล้ว"
"หลักฐานชัดเจนว่าผิด..10วันต้องการให้โอกาสเพื่ออะไรอีก..ถ้าหาตัวไม่เจอ ก็ไล่ออกจากการเป็นพระไปเลยซิคะ..ถือว่าทำผิดกฎ..จะรอเพื่อ" เป็นต้น
ซึ่งจากความเห็นของหลาย ๆ คน จะเห็นได้ว่า มุ่งตั้งคำถาม ไปที่ข้อ4ที่ ว่า ทำไมจะต้องรอนานถึง10วัน เพราะการกระทำนั้นมันก็บ่งชี้อยู่แล้ว ไม่ควรมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็นแถลงจากทางพุทธศาสนาแห่งชาติ คุณผู้ชมคิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้สามมารถคอมเม้นพูดคุยกันได้ และหากมีประเด็นไหนที่น่าสนใจเราจะมาติดตามกันใหม่อีกครั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews