แจ้งเกิดเวทีใหญ่! "เสือคิม" เปิดใจเจ็บก็ยอม ไฟต์พลิกชนะ "ซาเฟอร์" ในศึก ONE Fight Night 34
“เสือคิม สจ.โต้งปราจีน” เสือร้ายเมืองจันท์ เปิดใจเล่าถึงความดุเดือดเกินคำบรรยาย ในไฟต์ที่พลิกสถานการณ์จากตกเป็นรองในยกแรก กลับมาเปิดหน้าแลกเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ซาเฟอร์ ซายิก” คู่ชกจอมแกร่งจากตุรกี ไปได้แบบสุดระทึกในศึก ONE Fight Night 34 เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา
ไฟต์นี้ถือเป็นการเปิดตัวบนเวที ONE (ใหญ่) ครั้งแรกของ “เสือคิม” นับตั้งแต่คว้าสัญญา ONE ฉบับที่ 26 มาครองในศึก ONE ลุมพินี 100 เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา โดยถูกประกบให้มาดวลกับ “ซาเฟอร์” นักสู้มากดีกรีแชมป์ ที่หวังบุกมาถล่มนักชกไทยถึงถิ่น เพื่อปลดล็อกเก็บแต้มชัยแรกในรายการนี้
เกมการชกไฟต์นี้เปิดฉากอย่างดุเดือด เมื่อ “ซาเฟอร์” อาศัยความได้เปรียบทั้งด้านรูปร่างและความแม่นยำในการออกหมัด ไล่บุกเล่นงาน “เสือคิม” อย่างหนักจนเกิดแผลแตกบริเวณใต้ตาซ้าย และทำให้ภาพรวมในยกแรกของ “เสือคิม” ดูตกเป็นรองอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ใน 2 ยกที่เหลือ “เสือคิม” ซึ่งไม่มีอะไรจะเสีย ได้ตัดสินใจปรับแผนออกมาสู้ โดยหันมาเปิดหน้าบู๊แบบลืมตาย เพื่อแลกกับการเข้าไปคลุกวงในตีเข่าและฟันศอกตามสไตล์ถนัด ทำเอา “ซาเฟอร์” ถึงกับกางตำรารับมือไม่ทัน และออกอาการท้อให้เห็นในยกสุดท้าย จนสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาแซงชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์แบบได้ใจแฟนมวยทั่วประเทศ
หลังจบเกม “เสือคิม” ที่สามารถเก็บชัยชนะติดต่อกันเป็นไฟต์ที่ 5 ได้เปิดใจเล่าถึงเกมการชกเดือดระอุบนเวที ซึ่งแม้จะเจ็บปวดแทบขาดใจ แต่สุดท้ายก็แลกมาด้วยชัยชนะอันคุ้มค่าและสามารถสร้างความประทับใจให้กับแฟนมวยทั่วโลกได้อย่างที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ก่อนหน้านี้
“ไฟต์นี้ผมวางแผนจะเดินลุยใส่ตั้งแต่ยกแรกเลยครับ แต่พอขึ้นเวทีจริง ซาเฟอร์เขาตัวใหญ่ แขนขายาวมาก ผมเข้าไม่ถึงตัวเลย แถมโดนหมัดสวนกลับมาหลายดอกเต็ม ๆ หลังจบยกแรก ผมรู้ทันทีว่าถ้ายังสู้แบบเดิมต่อไป มีแต่แพ้แน่นอน เลยตัดสินใจปรับแผนใหม่ หันมาเดินบุกเร็วขึ้น ต้องยอมเจ็บเพื่อเข้าไปลุยให้ถึงตัว”
“ตอนนั้นผมเลือกเปิดหน้าแลกหมัด เพราะมองว่าเขาเริ่มหมดแรงแล้ว ผมเลยปล่อยให้เขาออกอาวุธใส่มาเยอะ ๆ เพื่อให้เขาเหนื่อย ถึงผมจะเจ็บ แต่ก็พยายามกัดฟันทน เพราะคิดไว้แล้วว่า ถ้าทำให้เขาอ่อนแรงลงได้เมื่อไหร่ ผมจะมีโอกาสบุกเข้าไปเล่นงานเขาคืน ต้องยอมเสี่ยงวัดใจกันไป และสุดท้ายผมก็พลิกสถานการณ์กลับมาคว้าชัยได้สำเร็จครับ”
เสือคิม เชื่อแกร่งพอพร้อมลุยต่อในรุ่นแบนตัมเวต
“ผมรู้สึกภูมิใจมากกับชัยชนะในครั้งนี้ เพราะไม่เพียงแต่เป็นชัยชนะครั้งแรกของผมบนเวทีระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นชัยชนะที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ ได้ด้วย ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ผมตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนที่ผมเพิ่งกลับมาชกใหม่ ๆ หากเจออาวุธหนักขนาดนี้ ผมอาจจะโดนน็อกไปแล้ว แต่ไฟต์นี้ผมได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ผมสามารถยืนระยะและรับมือกับอาวุธของคู่ต่อสู้ได้อย่างแข็งแกร่งครับ”
หลังจากได้ลิ้มลองการรับอาวุธของคู่ชกในรุ่นแบนตัมเวตมาอย่างเต็มอิ่ม ทำให้ “เสือคิม” ยอมรับว่ามองเห็นจุดบกพร่องที่ต้องกลับไปแก้ไขอย่างชัดเจน โดยยืนยันที่จะยังคงปักหลักชกในรุ่นนี้ต่อไป พร้อมให้คำมั่นว่าไฟต์หน้า แฟนมวยทั่วประเทศจะไม่ต้องลุ้นกันแบบหืดขึ้นคออีกแน่นอน
ก่อนหน้านี้ผมชกอยู่ในพิกัด 140 ป. ซึ่งส่วนใหญ่มักเจอกับคู่ชกที่รูปร่างเล็กกว่า แต่ไฟต์ล่าสุดที่ผมขยับขึ้นมาสู้ในรุ่นแบนตัมเวต ถือเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับคู่ชกที่ตัวใหญ่กว่า ส่งผลให้มีบางช่วงที่ผมเสียจังหวะและโดนอาวุธเยอะบ้าง แต่หลังจากที่ได้ย้อนดูคลิปการแข่งขัน ผมเริ่มจับทางได้แล้วว่าจะรับมือยังไง และผมขอสัญญาว่าในไฟต์หน้าจะกลับมาโชว์ฟอร์มให้ดีกว่าเดิมแน่นอน ผมเชื่อว่ายังสามารถพัฒนาได้อีกเยอะครับ”
“ตอนนี้เป้าหมายของผมคือพยายามทำผลงานให้ดีและน่าจดจำทุกครั้งที่ได้ขึ้นเวที เพื่อจะได้โอกาสลงแข่งขันให้บ่อยที่สุด และเก็บเงินสร้างอนาคต ส่วนเรื่องแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ตอนนี้ผมยังไม่ได้โฟกัสตรงนั้น เพราะผมเชื่อว่า ถ้าทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง โอกาสเหล่านั้นจะเข้ามาเองในเวลาที่เหมาะสมครับ”