รักชนก ช็อก! กระทรวงแรงงาน คะแนน ITA โปร่งใสอันดับ 1 ฟาดแรง ปลัดบุญสงค์
รักชนก ซัดข้อมูล กระทรวงแรงงาน โปร่งใสอันดับ 1 ITA พุ่ง 96.62 คะแนน ฟาด ปลัดบุญสงค์ จัดงบ-เซ็นแต่งตั้งโยกย้ายอื้อ แม้ถูกสั่งเด้ง
วันนี้ (20 ส.ค.) ไอซ์ รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กกรณีเกาะติดประเด็นหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับรางวัล ITA AWARDS 2025 จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยครั้งนี้เป็นคิว “กระทรวงแรงงาน” ที่คว้ารางวัลกระทรวงที่มีหน่วยงานภาครัฐในกระทรวงจำนวนไม่เกิน 15 หน่วยงาน ที่มีการขับเคลื่อน ITA บรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติยอดเยี่ยม
ด้วยคะแนน 96.62 คะแนน ผ่าน 100% พร้อมตั้งคำถามถึงการทำงานของ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ที่ยังคงทำงานและมีอำนาจการตัดสินใจอยู่ แม้ว่าจะมีมติ ครม.ให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้วก็ตาม
“มีคนล้อเล่นว่าถ้า สตง.ได้คะแนนความโปร่งใสอันดับหนึ่ง กระทรวงแรงงานที่ดูแลประกันสังคมก็คงจะได้อันดับสอง ปรากฏว่าทุกคนเดาผิดนะคร้าบ เพราะว่ากระทรวงแรงงานได้คะแนน ITA เป็นอันดับหนึ่ง พุ่งแรงแซงทุกกระทรวง แถมคว้ารางวัลกระทรวงที่มีการขับเคลื่อน ITA บรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ ยอดเยี่ยม ด้วยคะแนน 96.62 คะแนน ผ่าน 100%!!”
“ถ้าถามว่าอะไรค้านสายตากว่ากัน ระหว่าง สตง.ได้อันดับหนึ่งในบรรดาองค์กรอิสระ กับกระทรวงแรงงานได้อันดับหนึ่งในบรรดากระทรวง คงตอบยาก เพราะสูสีกันมากทีเดียว”
นอกจากกรณีประกันสังคมลงทุน 7000 ล้านบาท ซื้อตึก SKYY9 ประกันสังคมผลาญงบไอทีปีละพันล้านไปกับของที่ใช้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แถมเลขายังเคยไปโกหกกับวุฒิสภาเรื่องการเปิดเผยข้อมูล ทั้งในกระทรวงแรงงานก็ขึ้นชื่อลือชาเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์จากแรงงานต่างด้าวและนายจ้างมีให้เห็นอยู่ตลอด เจ้าหน้าที่รัฐเอาคิวออนไลน์ทำบัตรชมพูมาขายหาประโยชน์เอาตัวเอง ความล้มเหลวในการจัดการแรงงานต่างด้าวเข้าระบบ และอีกมากมาย เอาอะไรมาอันดับหนึ่ง แต่ก็อาจจะไม่แปลก เพราะอาจจะแปลได้อีกอย่างว่า กระทรวงอื่นหนักกว่านี้อีก ซึ่งก็จริงทุกอย่างในประเทศเรามันดูย้อนแย้งไปหมด ตัวเลขคะแนนความโปร่งใสที่พุ่งสูงไม่ได้สะท้อนให้ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในกระทรวงเลย มันต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหนแน่ๆ
การได้เห็นท่านปลัดกระทรวงแรงงานออกมารับรางวัลประเมิน ITA ยอดเยี่ยม มันทำให้อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ปลัดบุญสงค์ยังปฏิบัติงานตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือ? ในเมื่อมีมติ ครม.สั่งย้ายแล้ว การทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่ากังวลมาก
“ดิฉันเข้าใจกฎหมายดี แม้ว่าจะมีมติ ครม.ออกมาแล้ว แต่ยังต้องรอการโปรดเกล้าฯ ถ้ายังไม่โปรดเกล้าฯลงมาปลัดบุญสงค์ก็ยังคงเป็นปลัดของกระทรวงแรงงานต่อไปและมีอำนาจเต็มจะได้นั่งพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ในสำนักงานประกันสังคมต่อไปได้”
คำถามคือ คนที่ถูกสั่งให้ย้ายเพราะต้องสงสัยคดีที่ส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบ แม้ยังไม่ได้มีการโปรดเกล้าฯลงมา โดยนิตินัยยังมีอำนาจก็จริง แต่โดยพฤตินัย ตามปกติของธรรมเนียมที่ทุกกระทรวงปฏิบัติกันมา ควรจะต้องหลีกเลี่ยงการตัดสินใจวาระที่สำคัญ เช่น วาระที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณและการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการหรือไม่? แต่ปลัดบุญสงค์ยังใช้อำนาจเต็มพิกัดอยู่เลย
ในระหว่างนี้ปลัดนั่งหัวโต๊ะ เคาะกรอบงบบริหารสำนักงานประกันสังคมปี’69 กว่า 5,180 ล้านบาท และยังเซ็นคำสั่งโยกย้ายข้าราชการในวันเดียวกันกับที่ตัวเองโดนเด้งอีกด้วย
ถ้าพฤติกรรมของปลัดยังปฏิบัติตัวอยู่เช่นนี้อยู่ อาจจะทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เพราะปลัดยังใช้อำนาจเต็ม หากการตัดสินใจเรื่องใดในระหว่างนี้แล้วส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบ ประชาชนจะคงอดตั้งคำถามเรื่องกระบวนการทางกฎหมายและการโปรดเกล้าฯที่ล่าช้าไม่ได้ ซึ่งแบบนั้นคงไม่ดีแน่
และถ้าปลัดยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วคำสั่งรัฐมนตรี หรือมติ ครม.ที่สั่งย้ายเข้ากรุนั้นไม่มีความศักดิ์สิทธิ์เลยหรือ? ปลัดควรจะรู้ตัวว่าตามธรรมเนียมแล้วไม่มีใครเค้าทำแบบนี้กัน คนที่โดยสั่งย้ายไม่ควรตัดสินใจเรื่องสำคัญอีกต่อไปแล้วแล้วไม่อย่างนั้น ก็ไม่รู้จะสั่งย้ายทำไม? และถ้าปลัดยังใช้อำนาจไม่หยุดการโปรดเกล้าฯที่ล่าช้าอาจถูกตั้งคำถาม
แต่แน่นอนเรื่องนี้ ปลัดก็คงอ้างข้อกฎหมายได้ร้อยแปดและชี้ระเบียบอีกแปดพันประการ ว่าเพราะเหตุใดตนถึงยังคงมีอำนาจเต็มในการจัดการเรื่องต่างๆ ในกระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคมอยู่ ซึ่งถ้าจะหาคนผิดสักคนในเรื่องนี้สักคน ก็คงเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ เพราะมีมติ ครม.เด้งปลัดแล้ว ควรจะเอาปลัดออกจากการตัดสินใจ ควรต้องแต่งตั้งรักษาการมอบหมายถ่ายโอนงานอะไรให้เสร็จสับ ไม่งั้นแปลว่าปลัดที่ถูกสั่งเด้งไปแล้วทั้งยังกำลังถูกตั้งคณะกรรมการสอบอาจจะไปยุ่มย่ามบหลักฐาน หรือตัดสินใจให้คุณให้โทษที่เกี่ยวกับเรื่องของตัวเองได้.
อ่านข่าวเพิ่มเติม