รีวิว Toyota Yaris Ativ HEV GR Sport อีโคไฮบริดช่วงล่างหนึบ
ในแง่ผู้บริโภคกับรถยนต์ไฮบริด ก็จะได้รถสมรรถนะดี ประหยัดน้ำมันแบบสุดๆ (ประหยัดกว่าอีโคคาร์) ส่วนโตโยต้า ยังได้เรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามแพกเกจส่งเสริมการลงทุนกับ BOI
ปัจจุบัน Yaris Ativ อีโคคาร์ ICE ใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 73% และรุ่นไฮบริดใช้ 65% ซึ่งเป็นข้อมูลที่โตโยต้า พยายามสื่อสารเพื่อสะท้อนให้เห็นว่า บริษัทได้พัฒนาซัพพลายเชน เป็นความมั่นคงของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ไปจนถึงความเชื่อถือได้ของแบรนด์ที่หยั่งลึกกับประเทศมากกว่าพวกแบรนด์จีน
Toyota Yaris Ativ HEV ปัจจุบันเสียภาษีสรรพสามิต 4% ส่วน Yaris อีโคคาร์โดน 12% แต่ปีหน้าจะถูกขยับขึ้นเป็น 6% และ 13% ตามลำดับ (โครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ สำหรับรถปล่อยไอเสียไม่เกิน 100 กรัม/กม.)
ที่ผ่านมาตลาดอีโคคาร์ Yaris Ativ ขายดีเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว ด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 40% ซึ่งรุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ยังเป็นตัวขายหลักต่อไป และตัวไฮบริดน่าจะมีสัดส่วนขายระดับ 20-30% เท่านั้น(จากยอดขาย Yaris Ativ ทั้งหมด)
ล่าสุด ผมได้ลองขับ ทำรีวิว Toyota Yaris Ativ HEV รุ่น GR-Sport ราคา 7.69 แสนบาท ถือเป็นรถ GR-Sport ที่ราคาถูกที่สุดของโตโยต้า
ด้วยราคาที่สูงกว่ารุ่น Premium 5 หมื่นบาท คุณจะได้หลังคาดำ และชุดแต่งรอบคัน ทั้ง สเกิร์ตด้านหน้า-ข้าง-กันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ประกบยาง Dunlop Enasave 205/50 R17 พร้อมช่วงล่างที่แข็งกว่ารุ่น HEV Premium และตัว ICE
ระบบฟูลไฮบริดยกชุดมาจาก บี-เอสยูวี Yaris Cross HEV ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า แต่ปรับจูนใหม่ให้สอดคล้องกับการเป็นรถซีดาน ที่ลักษณะตัวถัง จุดศูนย์ถ่วง และน้ำหนักต่างกัน เช่นเดียวกับอัตราทดเฟืองท้ายที่ Yaris Ativ HEV จะไม่จัดเท่า Yaris Cross HEV (3.218 กับ 4.222)
Toyota Yaris Ativ ไฮบริดให้กำลังรวมสูงสุด 111 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 0.7 kWh วางอยู่ใต้เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง
อัตราเร่งดีกว่า Yaris Ativ ICE แน่นอน ทางไกลขับสบายไม่เครียด ระบบขับเคลื่อนตอบสนองทันใจทุกย่านความเร็ว แต่ถ้าเทียบกับ Honda City e:HEV แล้ว Ativ HEV ยังไม่จี๊ดจ๊าดเท่า
ตัวรถมีโหมดการขับขี่ให้เลือกคือ Power ที่ใช้งานผ่านปุ่ม Drive บนพวงมาลัย ส่วนโหมด Eco (กดปุ่ม Drive ค้างไว้) จะเข้าไปควบคุมการทำงานของแอร์ เพื่อลดการใช้พลังงาน ดังนั้นโหมด Power และ Eco จึงแสดงสถานะร่วมกันได้ เพราะเป้าหมายในการทำงานต่างกัน
รุ่น GR-Sport ยังได้ลำโพง pioneer 6 ตำแหน่ง เสียงใส มีลูกเล่นครบ (ปรับ EQ ได้ที่หน้าจอทัชสกรีน) ทว่าการเก็บเสียงรบกวนถือว่าอยู่ในระดับพอใช้ เหนืออื่นใด ช่วงขึ้นเนินหรือเร่งความเร็ว แล้วเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ติดการทำงานขึ้นมา เสียงการทำงานจะกรีดดังเข้ามาภายในห้องโดยสารชัดเจน
ขณะเดียวกันช่วงล่างของรุ่น GR-Sport จะกระด้างกว่ารุ่น HEV Premium และอีโคคาร์ ICE การนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลัง จะรับรู้อาการสะท้านที่สะท้อนมาจากพื้นถนนเต็มๆ
โครงสร้างช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง ทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ปรับจูนค่าสปริงและโช้คอัพให้หนืดแน่น จังหวะรีบาวด์ช้า ขับความเร็วสูงให้ความมั่นใจ กับพวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่เซ็ทการควบคุมมาให้สอดคล้องกัน
อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งนั่งคู่หน้าค่อนข้างสูง แม้ผมปรับเบาะให้ต่ำลงสุดๆแล้ว ยังรู้สึกว่าสูงเกินไปสำหรับผู้ชายที่มีความสูงเกือบ 180 ซม. โดยการปรับระดับเบาะเป็นแบบแมนวลใช้มือโยกทั้งหมด
ด้านอัตราบริโภคน้ำมัน ถ้าเป็นรุ่น GR-Sport ตามอีโคสติกเกอร์ (เฉลี่ย) ระบุไว้ 27.8 กม./ลิตร ส่วนการขับจริงของผม เส้นทางกรุงเทพ-จ.ระยอง วิ่งมอเตอร์เวย์ใช้ความเร็ว 100-120 กม./ชม. ไม่เกินนี้ สลับรถติดในเมือง สุดท้ายได้ตัวเลข 23-24 กม./ลิตร
รวบรัดตัดความ….ยุคสมัยใหม่ใครอยากลอง EV หรือ PHEV ก็เชิญ แต่สำหรับรถไฮบริดโตโยต้า ยังโดดเด่นเรื่องสมรรถนะที่สมดุล ประหยัดน้ำมัน ยิ่งเป็นเก๋งเล็ก Ativ อัตราบริโภคน้ำมันยิ่งต่ำ ค่าใช้จ่ายต่อหน่วยการวิ่งตกกิโลเมตรละบาทกว่าๆ ส่วนรุ่น GR-Sport เซ็ทช่วงล่างมาหนึบแข็งจริง ขับทางไกลใช้ความเร็วสูงให้ความมั่นใจ นั่งหลังสะท้านตับ ไต พอสมควร
รีวิว Toyota Yaris Ativ HEV GR Sport : กรกิต กสิคุณ