ดอลลาร์-พันธบัตรมะกันร่วง หลังทรัมป์บีบ 1 ในบอร์ดเฟดลาออก เจ้าตัวยันไม่ทิ้งเก้าอี้
ดอลลาร์-พันธบัตรมะกันร่วง หลังทรัมป์บีบ 1 ในบอร์ดเฟดลาออก เจ้าตัวยันไม่ทิ้งเก้าอี้
เงินดอลลาร์สหรัฐและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลงหลังเปิดการซื้อขายในเอเชียช่วงเช้าของวันที่ 26 สิงหาคม หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะหาทางปลดลิซ่า คุก 1 ใน 7 คณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกจากตำแหน่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ของสหรัฐ แสดงให้เห็นถึงความพยายามมของทรัมป์การแทรกแซงความเป็นอิสระของเฟด
เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.4% เมื่อเทียบกับเงินเยนมาอยู่ที่ 147.24 เยนต่อดอลลาร์ และเงินยูโรต่อดอลลาร์สหรัฐก็แข็งค่าขึ้น 0.3% มาอยู่ที่ 1.165 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากที่ทรัมป์ประกาศบนโซเชียลมีเดียว่าเขาจะปลดคุก ออกจากตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารของเฟด
เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ที่สะท้อนถึงการสั่นคลอนเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นแตะระดับ 4.2887% เมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดที่ 4.275% ในวันจันทร์
ทรัมป์โพสต์บนโซเชียลมีเดียของเขาว่า เขาจะปลดคุก ซึ่งเป็นสตรีผิวสีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว หากเธอไม่ยอมลาออก โดยอ้างว่ามีหลักฐานเพียงพอที่บ่งชี้ว่าคุกมีปัญหาในเรื่องการเปิดเผยข้อมูลคำขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยของเธอในรัฐมิชิแกนและรัฐจอร์เจีย โดยทรัมป์ประกาศเรื่องนี้ในจดหมายที่ส่งถึงคุก ซึ่งเขาโพสต์ลงบนโซเชียลของตนเอง
ด้านคุกกล่าวว่า เธอไม่มีความตั้งใจที่จะยอมให้ตนเองถูกกดดันจนต้องลาออกจากตำแหน่ง โดยยืนยันว่าเธอให้ความสำคัญกับคำถามใด ๆ เกี่ยวกับประวัติการเงินของเธออย่างจริงจังในฐานะคณะกรรมการของเฟด และกำลังรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อชี้แจงข้อสงสัยที่สมเหตุสมผล
คุกเป็นหนึ่งในคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด 3 คนที่ถูกแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งที่ยาวนานกว่าการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ ซึ่งทำให้ความพยายามของทรัมป์ที่จะเข้ามามีอำนาจควบคุมเฟดเป็นเรื่องซับซ้อนมากขึ้น คณะกรรมการเฟดมี 7 คน ปัจจุบัน 2 คนมาจากการแต่งตั้งของทรัมป์
นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งในวาระที่ 2 ทรัมป์ยังวิพากษ์วิจารณ์นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดมาอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่พอใจที่พาวเวลล์ไม่ยอมลดดอกเบี้ยตามที่เขาต้องการ ขณะที่ล่าสุดก็ได้แสดงความไม่พอใจกับค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ของเฟดที่บานปลาย
ข้อกล่าวหาต่อคุกถูกจุดประเด็นขึ้นโดย วิลเลียม พัลท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งสหรัฐ ซึ่งระบุว่า คุกได้แจ้งว่าคอนโดมิเนียมในแอตแลนตาเป็นที่อยู่อาศัยหลักของเธอ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเธอเพิ่งกู้เงินซื้อบ้านในมิชิแกน โดยก็กำหนดเป็นที่อยู่อาศัยหลักเช่นกัน ทำให้มีการตรวจสอบทรัพย์สินอื่นๆ ของคุกในรัฐแมสซาชูเซตส์ด้วย
ทั้งนี้ สินเชื่อบ้านสำหรับ “ที่อยู่อาศัยหลัก” มักมีเงื่อนไขดอกเบี้ยและการกู้ยืมที่ดีกว่าสำหรับบ้านหลังที่สองหรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน
พัลท์กล่าวว่าสินเชื่อเหล่านี้เกิดขึ้นช่วงกลางปี 2021 ก่อนที่คุกจะได้รับการแต่งตั้งจากไบเดนและผ่านการรับรองจากวุฒิสภาในปีถัดมา ตอนนั้นเธอเป็นอาจารย์เศรษฐศาสตร์อยู่ที่มหาวิทยาลัยรัฐมิชิแกน แต่มีบ้านเกิดในรัฐจอร์เจีย
พัลท์ยังขอให้ แพม บอนดี รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐสอบสวนเรื่องดังกล่าว ซึ่งทรัมป์ก็รีบนำประเด็นนี้ไปขยายต่อทันที โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมระบุว่า ทางหน่วยงานกำลังให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง
แม็กซีน วอเทอร์ส สมาชิกสภาคองเกรสจากพรรคเดโมแครต และประธานคณะกรรมาธิการบริการการเงินของสภาผู้แทนราษฎร ออกแถลงการณ์โจมตีการกระทำของทรัมป์เมื่อวันศุกร์ โดยระบุว่า เป็นความพยายามอย่างต่อเนื่องในการบ่อนทำลายความเป็นอิสระของเฟด และเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากนโยบายของเขา
“เป้าหมายล่าสุดของพวกเขาคือ ดร.คุก นักเศรษฐศาสตร์หญิงผู้มีคุณวุฒิสูง ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกและเป็นสตรีผิวสีคนแรกที่ได้ทำหน้าที่ในคณะกรรมการเฟด นับตั้งแต่สภาคองเกรสก่อตั้งเฟดขึ้นเมื่อปี 1913 ข้อกล่าวหาต่อคุกถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเป็นข้ออ้าง เพียงเพื่อจะหาคนที่ซื่อสัตย์ภักดีต่อทรัมป์มากกว่าต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายของสหรัฐมาแทนที่” วอเทอร์สกล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ดอลลาร์-พันธบัตรมะกันร่วง หลังทรัมป์บีบ 1 ในบอร์ดเฟดลาออก เจ้าตัวยันไม่ทิ้งเก้าอี้
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th