Intel เตือน! รบ.ทรัมป์เข้าถือหุ้น 10% เสี่ยงกระทบยอดขายต่างประเทศ หุ้นถูกลดมูลค่า
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า “อินเทล” (Intel) บริษัทผลิตชิปชั้นนำของสหรัฐ ออกโรงเตือนว่า การที่รัฐบาลสหรัฐ “เข้าถือหุ้น 9.9%” ใน Intel อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจ ตั้งแต่การกระทบยอดขายในต่างประเทศ ไปจนถึงการจำกัดความสามารถในการเข้าถึงเงินอุดหนุนจากรัฐบาลประเทศอื่นในอนาคต
บริษัทได้ระบุปัจจัยเสี่ยงใหม่ไว้ในเอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ ภายหลังจากที่รัฐบาลตัดสินใจแปลงเงินอุดหนุนจำนวน 11,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.5 แสนล้านบาท ให้กลายเป็นการถือหุ้นในอินเทลแทน ซึ่งนับเป็น “การแทรกแซงกิจการเอกชนครั้งใหญ่” ล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นอกจากนี้ลิป-บู ตัน ซีอีโอของอินเทล กล่าวในวิดีโอที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ว่า บริษัทไม่ได้จำเป็นต้องใช้เงินสนับสนุนจากรัฐบาล
“ผมไม่ต้องการเงินอุดหนุน” ตันกล่าว “แต่ผมตั้งตารออย่างมากที่จะให้รัฐบาลสหรัฐเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของเรา”
อย่างไรก็ตาม เอกสารที่อินเทลยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแล ได้สร้างข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนของรัฐบาลสหรัฐ โดยอินเทลชี้ว่า ยังไม่แน่ชัดว่าข้อตกลงนี้อาจทำให้หน่วยงานรัฐบาลอื่น ๆ พยายามเปลี่ยน “เงินอุดหนุน” ที่มีอยู่แล้วให้กลายเป็น “การถือหุ้น” ด้วยหรือไม่ หรืออาจทำให้พวกเขาไม่เต็มใจที่จะสนับสนุนเงินอุดหนุนใหม่ในอนาคต
สำหรับหุ้นอินเทลที่จะถูกซื้อครั้งนี้ ใช้จากเงินอุดหนุนที่ยังไม่ได้จ่าย 5,700 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.8 แสนล้านบาท ภายใต้กฎหมาย CHIPS and Science Act ปี 2022 และอีก 3,200 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1 แสนล้านบาทที่เคยอนุมัติให้อินเทลสำหรับโครงการ Secure Enclave เมื่อปีที่แล้วในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ตามเอกสารที่อินเทลยื่น ระบุว่า “ภายใต้ขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องอนุญาต” ภาระผูกพันของอินเทลภายใต้กฎหมาย CHIPS Act จะถือว่า ได้รับการปลดเปลื้องแล้ว ยกเว้นโครงการ Secure Enclave
เอกสารยังระบุด้วยว่า ธุรกิจของ Intel นอกสหรัฐ อาจได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลสหรัฐเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เนื่องจากอาจทำให้บริษัทต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบหรือข้อจำกัดเพิ่มเติม เช่น กฎหมายอุดหนุนต่างชาติของประเทศอื่น ๆ
ทั้งนี้ ยอดขายนอกสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน “76% ของรายได้ทั้งหมด” ในปีที่แล้ว โดยเฉพาะรายได้จากจีนที่มีสัดส่วนถึง 29% ของรายได้รวม
ข้อตกลงระหว่างทรัมป์กับอินเทลเกิดขึ้นภายหลังที่ตันได้เข้าพบประธานาธิบดี ซึ่งก่อนหน้านั้นทรัมป์เคยเรียกร้องให้ตันลาออก เนื่องจากความสัมพันธ์ของเขากับบริษัทยักษ์ใหญ่จากจีน
บริษัทระบุเพิ่มเติมว่า หุ้นที่จะออกให้แก่รัฐบาลสหรัฐในราคาที่ “ต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน” จะส่งผลให้มูลค่าหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมถูกลดลง
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐกำลังเข้าซื้อหุ้นอินเทลในราคาที่ต่ำกว่าราคาปิดเมื่อวันศุกร์ 4 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ 24.80 ดอลลาร์ต่อหุ้น ขณะที่ราคาหุ้นอินเทลปรับตัวขึ้น 2% ในการซื้อขายช่วงเช้าวันจันทร์ แตะระดับ 25.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น
เอกสารที่ยื่นระบุว่า อำนาจเพิ่มเติมอย่างมากของรัฐบาลในการออกกฎหมายและกฎระเบียบที่ส่งผลกระทบต่ออินเทล อาจจำกัดความสามารถของบริษัทในการดำเนินธุรกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น
อ้างอิง: reuters