กอ.รมน.จับมือ"มรภ.สวนสุนันทา -มจพ." สร้างองค์ความรู้ เสริมแกร่งความมั่นคงไทย
ที่ กอ.รมน. สวนรื่นฤดี พล.อ. ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. พร้อมด้วย รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนสุนันทา ศ.ดร.ธานินทร์ ศิลป์จารุ อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ร่วมลงนาม บันทึกความเข้าใจความร่วมมือความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างกอ.รมน. กับ มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนสุนันทา และ กอ.รมน.กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ เพื่อ ยกระดับการศึกษาและการวิจัย พัฒนาบุคลากรด้านความมั่นคง รวมถึงส่งเสริมและพัฒนาวิชาการในการรักษาความมั่นคงภายใน โดยจะมีการจัดทำวารสาร และบทความทางวิชาการเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างเครือข่ายทางยุทธการในการเผยแพร่ความรู้ให้กับประชาชนเพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านความมั่นคงและร่วมกันจัดทำหลักสูตรด้านความมั่นคงเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรของ กอ.รมน.ให้สูงขึ้นสอดคล้องกับภารกิจของกอ.รมน. นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้ด้าน ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมร่วมกันในการสนับสนุนการปฎิบัติภารกิจของกอ.รมน.และยังเปิดโอกาสให้บุคลากร กอ.รมน.เข้าศึกษาต่อไนสาขาที่มหาวิทยาลัยกำหนดตามระเบียบและเงื่อนไข รวมถึงภารกิจงานด้านวิชาการอื่นๆที่หน่วยงานเห็นชอบในอนาคต พล.อ. ธงชัย กล่าวว่า การลงนามข้อตกลงในวันนี้ เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อที่จะมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรขอภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่เกิดขึ้นในขณะนี้ซึ่งสภาความมั่นคงแห่งชาติกำหนดไว้ 17 ประเด็นครอบคลุมทั้งเรื่อง พลังงาน อาหาร เศรษฐกิจ สังคม ภัยพิบัติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องมีงานวิชาการที่จะต้องศึกษาร่วมกันเนื่องจากมหาวิทยาลัยเป็นผู้ให้บริการทางด้านวิชาการ ต้องใช้ความรู้เหล่านี้เพื่อมาสู้กับภัยต่างๆ ขณะที่กำลังพลของกอ.รมน.จำเป็นจะต้องมีการพัฒนาให้มีความรู้มากขึ้น โดยต้องพึ่งพามหาวิทยาลัยในเรื่องของงานวิจัย การพัฒนานวัตกรรม เพื่อที่จะนำมาใช้ในการทำงานในอนาคตซึ่งรูปแบบอาจจะเป็นในเรื่องของงานวิจัยและการเปิดหลักสูตรอบรมโดยเฉพาะของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือที่ถนัดในด้านเทคโนโลยีวิศวกรรม ขณะที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีความรู้ด้านเศรษฐกิจ สังคมซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับความมั่นคงภายในทั้งหมดดังนั้นจำเป็นจะต้องมีการพัฒนาในอนาคต วันนี้ถือเป็นวันเริ่มต้นและเป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งทั้งสองมหาลัยก็แสดงความพร้อมที่ร่วมมือกับ กอ.รมน. เปรียบเหมือนช่วยกันดูแลบ้านเมือง นั่นคือจุดมุ่งหมายที่มองไว้ในอนาคต อย่างไรก็ตามการส่งบุคลากรไปพัฒนานั้นจะเป็นในรูปแบบเปิดกว้างแต่จะดูความเร่งด่วนและประเมินแนวโน้มในสถานการณ์ภัยคุกคามด้านความมั่นคงว่าในแต่ละห้วงจะเกิดเรื่องใดบ้างและควรที่จะส่งบุคลากรไปศึกษาในด้านใดหรือทำวิจัยในเรื่องใด จึงอยากจะบอกว่าสังคมที่ยังไม่เข้าใจในบทบาทของ กอ.รมน. มหาวิทยาลัยก็จำเป็นจะช่วยในการส่งเสริมบทบาทด้านนี้ ให้เข้าใจ กอ.รมน.มากขึ้นหลายคนเข้าใจว่า กอ.รมน.ยุ่งกับการเมืองเป็นหลักแต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ ตนเองย้ำในหลายเวทีว่าภารกิจของ กอ.รมน.คือทำติดตามตรวจสอบประเมิน แนวโน้ม ภัยคุกคามและความมั่นคง โดยทำหน้าที่ประสานงานวางแผนบูรณาการ อำนวยการ และเสริมการปฎิบัติ โดยรับนโยบายมาจากนายกรัฐมนตรี สภาความมั่นคงแห่งชาติ จากนั้นนำมาปฏิบัติซึ่งจะรู้ว่าสิ่งไหนจำเป็นที่จะต้องป้องกันก่อน สิ่งไหนที่จะต้องถึงเวลาเข้าไปแก้ไขซึ่งไม่ได้ประเมินเอง ทุกหน่วยงานด้านความมั่นคงได้ร่วมมือกันประเมินถูกต้องตามหลักความมั่นคงซึ่งเป็นสากลทั่วโลกที่ทำกัน และประเทศไทยก็ทำเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันงานด้านนี้ในย่านอาเซียนประเทศไทยถือว่ามีความก้าวหน้าหลายชาติในอาเซียนมาดูรูปแบบจากไทยเพื่อนำไปดำเนินการต่อ ดังนั้นการทำงานร่วมกับมหาลัยจึงเดินทางจึงเดินมาถูกทางแล้ว