คืนความรักในกำแพงสูง "วันแม่แห่งชาติ" ผู้ต้องขังเรือนจำปัตตานีพบครอบครัวอบอุ่นหัวใจ
วันที่ 12 ส.ค.68 ที่เรือนจำกลางปัตตานี บรรยากาศเต็มไปด้วยความรักและความหวังใน วันแม่แห่งชาติ แม้ที่นี่จะมีกฎระเบียบเคร่งครัด แต่วันนี้กลับอบอวลไปด้วยรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง
เรือนจำกลางปัตตานีได้จัดกิจกรรม “ครอบครัวสัมพันธ์ เยี่ยมญาติใกล้ชิด” เพื่อเปิดโอกาสให้ลูก ๆ แสดงความรักและความกตัญญูต่อแม่ แม้แม่จะอยู่ในสถานะผู้ต้องขัง พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้ นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีฯ เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วยคณะผู้บริหาร ศอ.บต. ได้แก่ นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ และนายอิบรอเหม เบ็ญนา โดยมี นายศรชัย ตลาสุข ผู้บัญชาการเรือนจำกลางยะลา รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
ภายในงาน ผู้ต้องขังและครอบครัวได้ใช้เวลาสั้น ๆ แต่มีค่าร่วมกันอีกครั้ง กอดกันด้วยความคิดถึง เติมเต็มกำลังใจและพลังชีวิต เพื่อให้ผู้ต้องขังมีกำลังใจปรับปรุงตัวและกลับคืนสู่สังคมในอนาคต
กิจกรรมในวันนี้จึงไม่ใช่เพียงการเยี่ยมญาติธรรมดา แต่เป็นก้าวสำคัญของการฟื้นฟู โดยใช้ความรักจากครอบครัวเป็นแรงผลักดัน เปรียบเสมือนคำยืนยันว่า แม้ร่างกายจะถูกจองจำ แต่ความรักและความหวังไม่เคยถูกปิดกั้น
นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกิจกรรม "ครอบครัวสัมพันธ์" ที่จัดขึ้นในโอกาสวันแม่แห่งชาติ เรือนจำกลางปัตตานีว่า กิจกรรมในวันนี้แสดงถึงความรักและความจริงใจจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรมดี ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องราชทัณฑ์และครอบครัวได้พบปะใกล้ชิดกัน
นายกูเฮง กล่าวเสริมว่า ทางเรือนจำได้อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่เพื่อให้ผู้ต้องขังและครอบครัวได้ใช้เวลาอันมีค่าร่วมกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความดีใจที่ทุกคนได้พบปะพูดคุยกัน ซึ่งกิจกรรมลักษณะนี้สามารถช่วย "ละลายพฤติกรรม" ของผู้ต้องขังได้เป็นอย่างดี เพราะการได้พูดคุยกับคนที่รักในห้วงเวลาสั้น ๆ ทำให้พวกเขากล้าที่จะเปิดใจและแสดงความรู้สึกที่มีอยู่ในใจออกมามากขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความรักความเข้าใจในครอบครัวให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
นายศรชัย ตลาสุข ผู้บัญชาการ เรือนจำกลางยะลา รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี กล่าวถึงกิจกรรมเยี่ยมญาติใกล้ชิดเนื่องในวันแม่แห่งชาติว่า ทางเรือนจำให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวอย่างยิ่ง เพราะเป็นองค์กรที่เล็กที่สุดและสำคัญที่สุด การจัดกิจกรรมนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้กำแพงเรือนจำมาปิดกั้นความรักและความอบอุ่นที่ครอบครัวมีให้แก่ผู้ต้องขัง
นายศรชัย กล่าวว่า การที่ผู้ต้องขังได้มีโอกาสพบปะ โอบกอด และรับรู้ถึงความรักจากครอบครัว จะส่งผลดีต่อการควบคุมดูแลและการแก้ไขพฤตินิสัย เพราะเมื่อพวกเขามีจิตใจที่ผ่อนคลายและได้รับกำลังใจจากคนในครอบครัว การกลับตัวกลับใจก็จะเป็นไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรักษาการอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องการ "สานใจรักแด่ครอบครัว"
บรรยากาศในวันนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความดีใจจากหลายครอบครัวที่ได้กลับมาพบปะพูดคุยกันอีกครั้ง ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ที่ทุ่มเทจัดกิจกรรมนี้รู้สึกหายเหนื่อย นายศรชัยย้ำว่า แม้ผู้ต้องขังจะอยู่ในเรือนจำ แต่สิทธิความเป็นมนุษย์ของพวกเขาย่อมได้รับการปฏิบัติอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ภายใต้หลักการของกรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า กิจกรรม ผู้ต้องขังพบปะครอบครัว ถือเป็นโครงการที่สร้างความอบอุ่นและกำลังใจอย่างมาก โดยในครั้งนี้มีครอบครัวหนึ่งซึ่งแม่เป็นชาวปัตตานี ต้องโทษจำคุก 25 ปี ในคดียาเสพติด ได้มีโอกาสพบหน้าลูก ๆ ทั้ง 3 คนเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี
ที่ผ่านมา แม่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ทำให้ลูก ๆ ไม่สามารถเดินทางไปเยี่ยมได้เนื่องจากขาดทุนทรัพย์ กระทั่งถูกย้ายมาคุมขังที่เรือนจำกลางปัตตานี จึงทำให้วันแม่ปีนี้ ลูก ๆ ได้กลับมาโอบกอดแม่อีกครั้ง ท่ามกลางน้ำตาแห่งความคิดถึงและความรักที่อบอุ่นหัวใจ