ตร.ไซเบอร์ ชง อสส. คลิปเสียง “ฮุน เซน” สั่งเก็บนักเคลื่อนไหวกัมพูชา
ตำรวจไซเบอร์ 1 ส่งสำนวนคลิปเสียง "ฮุน เซน" สั่งเก็บนักเคลื่อนไหวกัมพูชาให้อัยการสูงสุดพิจารณาเป็นคดีนอกราชอาณาจักร คาดสำนวนคลิปเสียงนายกฯจะแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. นี้
วันนี้(8 ส.ค. 68) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำสำนวนการสอบสวนคดีคลิปเสียง สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา สั่งการให้นายฮวด คนสนิท ไล่ล่าสั่งเก็บนักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชา ที่หนีมากบดานในประเทศไทย ส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า คดีนี้มาจากที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ ให้ตรวจสอบคลิปเสียงที่สำนักข่าวอัลจาซีรา เผยแพร่อ้างว่าเป็นคลิปเสียงของสมเด็จฯ ฮุน เซน สั่งการนายฮวด คนสนิท ให้ไล่ล่านักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชาในประเทศไทย พร้อมขอให้ตำรวจไซเบอร์ดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
จากการพิจารณาของคณะพนักงานสอบสวนเห็นว่าคดีนี้น่าจะเข้าข่ายคดีนอกราชอาณาจักร ซึ่งจะต้องให้อัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ จึงได้นำสำนวนมาส่งมอบให้อัยการสูงสุดพิจารณาในวันนี้โดยเนื้อหาหลักๆที่ตำรวจไซเบอร์รวบรวมจะเป็นการพิสูจน์ว่าคลิปเสียงที่เผยแพร่ออกมา ตรงกับคดีที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย ที่นายพร พันนา นักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชา ได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ก่อนจะถูกคนร้าย 3 คนทำร้ายร่างกาย ในพื้นที่ สภ.บ้านฉาง จังหวัดระยอง
เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2566 จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ก่อนที่นายพร พันนา จะลี้ภัยไปประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนายพร พันนา เป็นบุคคลที่ตรงกับคำสั่งการของบุคคลในคลิปเสียง จึงน่าเชื่อว่าเป็นคลิปเสียงจริง และมีผู้ที่เกี่ยวข้อง 2 คน คือ สมเด็จฯ ฮุน เซน และนาย ฮวด เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 116 ทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวิธีอื่นใด ทำให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี
นอกจากนี้คลิปเสียงดังกล่าวก็อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารนายลิม กิมยา นักการเมืองพรรคฝ่ายค้านชาวกัมพูชาที่ถูกยิงเสียชีวิตใจกลางกรุงเทพฯ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาด้วย เพราะพฤติการณ์คล้ายๆ กัน
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วคดีนี้จะมีคำสั่งดำเนินคดีกับบุคคลใด ในข้อหาใดนั้น อัยการสูงสุดจะเป็นผู้พิจารณาตามพยานหลักฐาน จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการออกหมายจับในไทย ซึ่งหากตัวผู้ต้องหาอยู่ต่างประเทศ ก็จะต้องประสานตำรวจสากลในการออกหมายแดงต่อไป
ส่วนสำนวนคดีที่สมเด็จฯ ฮุน เซน เผยแพร่คลิปเสียงสนทนากับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งตำรวจไซเบอร์ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดไปก่อนหน้านี้นั้น เบื้องต้นมีการกำหนดรูปคดีและพยานในการสอบสวนแล้ว มีการสอบสวนพยานบุคคลไปบางส่วนแล้ว สำนวนแรกจึงคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews