แพร่มูฟ ยื่นข้อเสนอผู้นำฝ่ายค้าน แก้กฎหมายพัฒนากระบวนการผลิตไม้เมืองแพร่สู่อุตสาหกรรมสีเขียว

ผู้ประกอบการสวนป่าไม้สัก ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ และฝ่ายจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากไม้สักเมืองแพร่ที่ต้องเผชิญกับปัญหาด้านกฎหมายมานานกว่า 50 ปีแล้ว ได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสู่การปรับแก้กฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่วงจรการผลิตเฟอร์นิเจอร์มีการปลูกสวนป่าที่เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำที่เหมาะสมแต่ยังติดที่กฎหมายทำให้การผลิตเฟอร์นิเจอร์สินค้าสำคัญของเมืองแพร่ต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนจนเป็นอุปสรรคการประกอบอาชีพเนื่องจากกฎหมายที่เข้มงวด
วันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้านสภาผู้แทนราษฎร เดินทางมาที่จังหวัดแพร่เข้ารับฟังปัญหาและข้อเสนอเชิงประเด็น เรื่องการปลูก การแปรรูปไม้สัก และการทำผลิตภัณฑ์จากไม้สักในจังหวัดแพร่ ที่บริเวณจุดประสานงานผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์จังหวัดแพร่ ตั้งอยู่เลขที่ 99 หมู่4 ตำบลดอนมูล อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ โดยมีนายเอกพงษ์ เสียงเพราะ ประธานกลุ่มวิสาหกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้สักดอนมูล นายสามชาย พนมขวัญ ประธานเครือข่ายป่าไม้ยั่งยืนจังหวัดแพร่ พร้อมทั้งองค์กรภาคประชาสังคมจำนวน20 คน ร่วมให้ข้อมูล
นายเอกพงษ์ เสียงเพราะ ประธานวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้สักดอนมูลกล่าวว่า แพร่เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ในครัวเรือนมีคนทำงานในวงจรการผลิตเป็นจำนวนมาก แต่อุตสาหกรรมไม้ที่มีชื่อของจังหวัดแพร่กำลังไปไม่รอดสาเหตุเพราะต้องผ่านกระบวนการขออนุญาตที่ยุ่งยากทำให้เกิดต้นทุนสูงและปัญหาอุปสรรคในการจำหน่ายที่ยุ่งยากมากเนื่องจากปัญหาของกฎหมาย การแปรรูปไม้สัก 1 ท่อนต้องผ่านกระบวนการขออนุญาตไม่ต่ำกว่า 7 ใบอนุญาตตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกการขอตัดขอแปรรูปมาจนถึงการจำหน่ายก่อให้เกิดต้นทุนและอุปสรรคอย่างมาก

นายสามชาย ขนมขวัญ ผู้นำองค์กรองค์กรแพร่มูฟ และประธานเครือข่ายป่าไม้ยั่งยืนจังหวัดแพร่กล่าวว่า เครือข่ายประชาสังคมแพร่มุฟ ที่มีการพัฒนากลไกการทำงานภาคประชาชนและสถาปนาขึ้นเป็นองค์กรใช้ชื่อว่า”เครือข่ายป่าไม้ยั่งยืนจังหวัดแพร่” ทำหน้าที่ยื่นหนังสือต่อผู้นำพักฝ่ายค้าน แสดงถึงข้อจำกัดความเดือดร้อนของผู้ประกอบการและข้อเสนอการแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมป่าไม้ครบวงจรตั้งแต่การปลูกการแปรรูปจนถึงการตลาด ที่มีข้อจำกัดมากมายเป็นกฎหมายที่ล้าสมัย ฝ่ายรัฐสภาควรแก้กฎหมายนำไม้สักออกจากการเป็นไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2565 ออกตามความแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ 2484 รวมไปถึงการควบคุมการแปรรูปไม้สักอย่างเข้มงวดเกินขอบเขต และควรพัฒนากฎหมายส่งเสริมเศรษฐกิจจากไม้สักครบวงจร ลดขั้นตอนการขออนุญาตอย่างเหมาะสมและทันสมัย ส่งเสริมให้เมืองแพร่เป็นเมืองเศรษฐกิจพิเศษในเรื่องอุตสาหกรรมไม้สัก และประกาศให้แพร่เป็นเมืองสร้างสรรค์เศรษฐกิจสังคมสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านฯ หลังจากรับหนังสือผลักดันแก้ปัญหาเฟอร์นิเจอร์เมืองแพร่และข้อเสนอการพัฒนากระบวนการผลิตอุตสาหกรรมไม้ให้เป็นอุตสาหกรรมอย่างสมดุลและยั่งยืนว่า เมืองแพร่เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องอุตสาหกรรมแปรรูปไม้สักในครัวเรือน ผู้ประกอบการได้สะท้อนภาพให้ฟัง รู้สึกน่าเป็นห่วงในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ไปทุกวัน ความจริงแล้วโลกกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมสีเขียวผมคิดว่า แพร่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมป่าไม้ให้กับประเทศ รัฐบาลควรส่งเสริมตลอดจนห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่การปลูก การตัด แปรรูป การตลาดและการนำไปใช้อย่างยั่งยืน ซึ่งสามารถพัฒนาต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมในอนาคต เมืองแพร่ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจการพัฒนาป่าไม้การปลูกป่าเชิงเศรษฐกิจและการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานต่อเนื่องขออุตสาหกรรมแปรรูปไม้ เมืองแพร่จะเป็นฐานสำคัญส่งให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแต่ลูกไม้ครบวงจรเ ป็นอุตสาหกรรมสีเขียวในภูมิภาคนี้ เรื่องนี้ทางพรรคประชาชนในฐานะพรรคฝ่ายค้านได้เข้าเก็บรวบรวมปัญหาของพี่น้องประชาชนในจังหวัดแพร่เพื่อนำไปสู่การแก้ไขให้เหมาะสมต่อไป/