‘แพทองธาร’ ยัน วธ. เตรียมเสนอ ‘หนังใหญ่’ ขึ้นทะเบียนยูเนสโก
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ครั้งที่ 1/2568 โดยมีนายประสพ เรียงเงิน ปลัด วธ. นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมการประชุม ณ ศูนย์ประชุม วธ. ชั้น 8 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ วธ. โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบประกาศเกียรติคุณเพื่อยกย่องบุคคล กลุ่มบุคคล ชุมชน องค์กร หรือหน่วยงานที่ส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปี 2568 จำนวน 2 ประเภท ได้แก่ บุคคล 10 ราย นายเมตต์ เมตต์การุณ์จิต, นายขวัญชัย สุรินทร์ศรี, นายอุทัย พรหมวงศ์, ผศ.ศิริเพ็ญ อัตไพบูลย์, นายพิศณุภงศ์ ศรีศากยวรางกูร, นายเจษฎา นิลสงวนเดชะ, นายชาญชัย สุนันท์กิ่งเพชร, นายรัชพล เต๋จ๊ะยา, นางถิรนันท์ โดยดี และนายชินวุธ ศิริสัมพันธ์ และกลุ่มบุคคล/องค์กร/หน่วยงาน 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมและการกีฬา ม.วลัยลักษณ์, กลุ่มวิจัยประวัติศาสตร์ และมรดกทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน), สมาคมครูมวยไทย และโรงเรียนวัดสะแก
รมว.วธ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ได้พิจารณาเสนอ “โครงการฟื้นฟูหนังใหญ่โดยชุมชนหนังใหญ่ในประเทศไทย” (The Community-based Revitalization of Nang Yai Traditional in Thailand: CRNT) เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโกในบัญชีประเภท แผนงาน โครงการ และกิจกรรมที่มีการสงวนรักษาที่ดี (Register of Good Safeguarding Practices) เนื่องจากหนังใหญ่เป็นศิลปะการแสดงไทยทำจากหนังวัวหรือควาย จัดแสดงกลางแจ้งในพระราชวัง วัด หรือหมู่บ้าน โดยใช้แสงกองไฟส่องผ่านจอผ้า เล่าเรื่องรามเกียรติ์จากรามายณะ มีมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 แต่ปัจจุบันใกล้สูญหายเหลือเพียง 3 ชุมชนที่ยังสืบทอด คือ วัดขนอน จ.ราชบุรี, วัดบ้านดอน จ.ระยอง และวัดสว่างอารมณ์ จ.สิงห์บุรี ดังนั้นการฟื้นฟูหนังใหญ่จึงเป็นตัวอย่างการรักษามรดกวัฒนธรรมให้มีชีวิตและเผยแพร่ทั้งระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และนานาชาติ ทั้งนี้ปัจจุบันมีเพียง 40 รายการ จาก 788 รายการที่ขึ้นทะเบียนในประเภท “แผนงาน โครงการ และกิจกรรมที่มีการสงวนรักษาที่ดี” ยูเนสโกจึงสนับสนุนให้ประเทศภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เสนอขึ้นทะเบียนในบัญชีประเภทดังกล่าว โดยหลังจากนี้ สวธ. จะจัดทำเอกสารข้อมูลหนังใหญ่ให้สมบูรณ์ และคาดว่าจะเสนอ ครม. เห็นชอบและเสนอต่อยูเนสโกภายในเดือน มี.ค. 2569
น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังรับทราบความคืบหน้าการเสนอรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมต่อยูเนสโก ได้แก่ ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทยและชุดไทย : ความรู้ งานช่างฝีมือ และแนวปฏิบัติการแต่งกายชุดไทยประจำชาติ (Chud Thai : The Knowledge, Craftsmanship and Practices of the Thai National Costume) ซึ่งยูเนสโกมีหนังสือแจ้งยืนยันว่าจะนำรายการ ชุดไทย : ความรู้ งานช่างฝีมือ และแนวปฏิบัติการแต่งกายชุดไทยประจำชาติเข้าสู่การพิจารณาเพื่อนำขึ้นทะเบียนในบัญชีตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ในการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 21 ในปี 2569 นอกจากนี้ ยังรับทราบการเสนอรายการข้าวเม่า (Duman) เป็นมรดกร่วมกับประเทศในอาเซียน เพื่อเสนอยูเนสโก เนื่องจากประเทศฟิลิปปินส์เชิญชวนประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนที่มีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับข้าวเม่าขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ โดยมีเป้าหมายยื่นเสนอเอกสารขึ้นทะเบียนในปี 2569 ขณะนี้ สวธ. และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอยู่ระหว่างรวบรวมและจัดทำข้อมูล เพื่อขึ้นบัญชีระดับจังหวัดและระดับชาติตามลำดับ และที่ประชุมยังรับทราบการประกาศขึ้นบัญชีมรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2567 จำนวน 10 รายการ ประกอบด้วย ตำนานสุบินกุมาร, เพลงทรงเครื่อง, ผ้าเกาะโส้, ยิงคันกระสุน, ตำนานพระนางสร้อยดอกหมาก, ตำนานเขานางหงส์, เรือมอันเร, บุญเดือน 3 นมัสการพระธาตุพนม,เสื่อกกจันทบูร และผ้าหม้อห้อม