รวบพระ หนีคดีฉ้อโกง-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เสียหายกว่า 6 ล้านบาท
รวบพระ หนีคดีฉ้อโกง-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เสียหายกว่า 6 ล้านบาท
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายพล (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 25 กันยายน 2567 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุมได้ในวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลแก่งหางแมว อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดี ฉ้อโกงประชาชนหลังสืบทราบว่า หลบหนีไปบวชเป็นพระภิกษุ ที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (กก.1 บก.ปอศ.) ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายพล (นามสมมุติ) ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
จากการสืบสวนทราบว่า นายพล (นามสมมุติ) ได้หลบหนีไปบวชเป็นพระภิกษุ อยู่ที่ วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลแก่งหางแมว อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ และสามารถควบคุมตัวได้บริเวณภายในวัด โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า ตนเคยถูกหลอกให้ไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับค่าจ้างในการเปิดบัญชีละ 3,000 บาท และถูกชักชวนจากกลุ่มคนร้ายผ่านทางเฟซบุ๊กให้ไปทำงานที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยเสนอค่าจ้างเดือนละ 2-3 หมื่นบาท เมื่อเดินทางไปถึง ได้ถูกนำตัวไปยังสถานที่ปิดลับและถูกควบคุมตัวร่วมกับคนไทยคนอื่นๆ ที่ถูกหลอกไปเช่นเดียวกัน มีหน้าที่เพียง สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนในระบบคอลเซ็นเตอร์ เมื่อมีเหยื่อหลงเชื่อและ โอนเงินเข้าบัญชี หากใครปฏิเสธหรือพยายามหลบหนี จะถูกทำร้ายร่างกาย หรือ "หายตัวไป" โดยไม่ทราบชะตากรรม และเมื่อบัญชีถูกอายัดแล้ว ทางเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะนำตัวไปปล่อยทิ้งไว้ที่บริเวณชายแดนให้หาหนทางกลับประเทศไทยเอง เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป