ทำไมเครือผู้รับเหมาจีนที่มีส่วนในการสร้างตึก สตง. ถึงเป็นต้นเหตุชุมนุมไล่รัฐบาลเซอร์เบีย
สัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ประกาศผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ประจำปีงบประมาณ 2568 ผลการประเมินในกลุ่มองค์กรอิสระที่น่าจับตามอง ปรากฏว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ที่ 94.64 คะแนน
ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสนี้ แม้ได้คะแนนสูง แต่ก็ต้องเจอคลื่นวิจารณ์ล้นหลาม เพราะเหตุการณ์อาคารที่ทำการ สตง. แห่งใหม่ ถล่มจากแผ่นดินไหวเมื่อต้นปี จากนั้นความไม่ชอบมาพากลก็ตามมาหลายเรื่อง เกี่ยวกับการทุจริตและความไม่โปร่งใส หนึ่งในนั้นคือการใช้บริการผู้รับเหมาจีน China Railway No. 10 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ China Railway Engineering Corporation (CREC) หรือบริษัททางรถไฟจีน ผู้รับเหมาก่อสร้างระดับโลก มาเป็นหนึ่งในกิจการร่วมค้าที่เข้ามารับผิดชอบงานก่อสร้าง รวมไปถึงการใช้เหล็กเส้นของ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ที่ตรวจสอบว่าไม่ได้มาตรฐาน
แม้ว่ากระแสผู้รับเหมาจีนกับตึกถล่มจะค่อยๆ เงียบลง มีกระทั่งการมอบรางวัลให้ สตง. แต่ที่เซอร์เบีย ความผิดพลาดของผู้รับเหมาจีนที่เป็นสาเหตุให้มีคนเจ็บคนตายลุกลามกลายเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่เพื่อขับไล่รัฐบาล
หลังคาสถานีรถไฟสร้างโดยผู้รับเหมาจีนถล่ม จุดเริ่มต้นการชุมนุมใหญ่ที่เซอร์เบีย
โศกนาฏกรรมครั้งสำคัญเกิดขึ้นวันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 ที่เมืองโนวีซาด เมืองใหญ่อันดับสองของเซอร์เบีย เมื่อหลังคาของสถานีรถไฟพังถล่มลงมา มีผู้เสียชีวิต 14 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายคน
สถานีรถไฟแห่งนี้เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่และเปิดใช้งานในปี 2021 โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่างกรุงเบลเกรด ของเซอร์เบีย กับกรุงบูดาเปสต์ ของฮังการี โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) ของจีน
และบังเอิญเหลือเกิน ที่ผู้รับเหมาหลักของโครงการนี้คือกลุ่มบริษัทร่วมค้าของจีน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ China Railway International Co., Ltd (CRIC) บริษัทย่อยในเครือ China Railway Engineering Corporation (CREC) เหมือนหนึ่งในผู้สร้างอาคาร สตง.
ฝ่ายค้านและกลุ่มวิจารณ์รัฐบาลชี้ว่า โศกนาฏกรรมเมื่อปลายปีที่แล้วเป็นผลโดยตรงมาจากการทุจริตคอร์รัปชันในภาครัฐ ขาดการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ และการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในยุคของประธานาธิบดี อาเล็กซานดาร์ วูชิช
รัฐบาลวูชิชถูกกล่าวหาว่าทุจริต บริหารหละหลวม กำกับดูแลหย่อนยาน ให้ความสำคัญกับข้อตกลงทางการเมืองกับจีนมากเกินไป จนเร่งรีบก่อสร้าง โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพงานและความปลอดภัย แต่บริษัทจีนสองแห่งปฏิเสธการปรับปรุงหลังคาดังกล่าว โดยชี้แจงว่า หลังคาพังลงมาเพราะโครงสร้างเดิม แต่มีภาพในโซเชียลมีเดียชี้ว่าการพังทลายเกิดจากกระจกหนาที่เพิ่งติดตั้งบนหลังคา
ยิ่งไปกว่านั้น มีเสียงเรียกร้องให้เปิดเผยสัญญากับบริษัทจีน แต่รัฐบาลปฏิเสธ และไม่ยอมเปิดเผยกระบวนการประกวดราคาและจัดซื้อจัดจ้างจากสองบริษัท ฝ่ายค้านและกลุ่มนักวิจารณ์ได้ตั้งข้อสงสัยมานานแล้วเกี่ยวกับสัญญาต่างๆ ในโครงการ BRI ของจีนว่าอาจขาดความโปร่งใส และเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มการเมืองและนายทุนพวกพ้อง เมื่อเกิดเหตุถล่มขึ้น ข้อสงสัยเหล่านี้ก็ดูมีน้ำหนักขึ้นมาทันที และโศกนาฏกรรมนี้จึงตอกย้ำความเชื่อว่ารัฐบาลกำลังขายชาติ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าความปลอดภัยของพลเมือง
ปลายเดือนพฤศจิกายน ผู้ต้องหา 11 คนถูกจับกุมเพื่อรับผิดชอบเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงก่อสร้างของเซอร์เบียและผู้อำนวยการบริษัทรถไฟของรัฐบาลเซอร์เบียรวมด้วย ทั้งคู่ได้ตัดสินใจลาออก ในขณะที่ผู้นำระดับสูงคนอื่นๆ เช่น นายกรัฐมนตรีมิลอส วูเชวิช ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองโนวีซาดในช่วงที่การก่อสร้างสถานีรถไฟเริ่มต้นขึ้น ยังคงดำรงตำแหน่งอยู่
ก่อนหลังคาสถานีรถไฟถล่ม ประชาชนเซอร์เบียมีความไม่พอใจต่อรัฐบาลวูชิชเป็นทุนเดิม เช่น การควบคุมสื่อ บ่อนทำลายประชาธิปไตย รวบอำนาจ และไม่สามารถตรวจสอบได้ โศกนาฏกรรมครั้งนี้จึงกลายเป็นชนวนสำคัญจุดประกายให้เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ในเซอร์เบีย โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบและจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด
อเล็กซานดาร์ วูชิช ผู้นำฝ่ายขวาแห่งเซอร์เบีย อยู่ในอำนาจมา 8 ปี ขึ้นชื่อเรื่องการใช้อำนาจแทรกแซงการเมือง จนกลายเป็นประชาธิปไตยแบบชี้นำ มีความสัมพันธ์กับหลายขั้วมหาอำนาจไม่เลือกฝ่าย โดยเฉพาะการชักชวนให้จีนเข้ามาลงทุนในภาคอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน
นับตั้งแต่หลังคาสถานีรถไฟถล่มเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ประชาชนออกมาชุมนุมอย่างต่อเนื่องข้ามปี นักศึกษาหลายมหาวิทยาลัยในเซอร์เบียเริ่มต้นประท้วงขับไล่รัฐบาลในข้อหาทุจริตคอร์รัปชัน ก่อนจะขยายวงกว้างไปยังผู้ประท้วงหลายเมืองในเซอร์เบีย ผู้เข้าร่วมกว่าหลายแสนคน มีเป้าหมายเพื่อให้รัฐบาลของ ประธานาธิบดีอเล็กซานดาร์ วูชิช ลาออกจากตำแหน่ง และจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่โดยเร็ว
การประท้วงยาวนานกว่า 8 เดือนเริ่มต้นที่การชุมนุมอย่างสงบก็กลายเป็นความรุนแรงกระจายไปตามเมืองต่างๆ ทั้งเบลเกรดและเมืองเล็กๆ อาคารถูกเผา ร้านค้าถูกปล้น ผู้ชุมนุมขับไล่รัฐบาลต้องปะทะกับฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลและตำรวจปราบจลาจล มีการปาหิน ขวด จุดพลุและประทัด
ผู้ประท้วงรัฐบาลได้ประกาศว่า ประธานาธิบดีวูชิชไม่มีความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งแล้ว และยังได้ทำลายอาคารสำนักงานพรรคของรัฐบาล ประธานาธิบดีวูชิชตอบโต้ว่า ผู้ประท้วงเป็น ‘ผู้ก่อการร้าย’ ที่พยายาม ‘โค่นล้มรัฐ’ นักวิจารณ์กล่าวหาว่าประธานาธิบดีใช้อำนาจเผด็จการมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ขึ้นสู่อำนาจครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรีในปี 2014 และครั้งที่สองในฐานะประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2017
ความรุนแรงในเซอร์เบียไม่ได้ส่งผลกระทบภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นปฏิกิริยาระดับนานาชาติ โดยเฉพาะการสมัครเข้า EU ของเซอร์เบียที่อาจต้องเจออุปสรรคครั้งใหญ่
ผู้รับเหมาจีนไม่ได้มีปัญหาแค่นั้น
นอกจากโศกนาฏกรรมในเซอร์เบีย บริษัทรับเหมาจีนยังเผชิญกับข้อกล่าวหาในหลายประเทศ เช่น
- เปรู: มีรายงานข้อกล่าวหาว่าเครือข่ายบริษัทจีนมีส่วนพัวพันกับการทุจริตและฮั้วประมูลในโครงการต่างๆ จนนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อสอบสวนโดยรัฐสภาเปรู
- ทั่วโลก: ธนาคารโลกขึ้นบัญชีดำบริษัทก่อสร้างของรัฐบาลจีนบางแห่ง ห้ามไม่ให้เข้าร่วมในโครงการที่ธนาคารให้เงินทุนสนับสนุน เนื่องจากปัญหาการทุจริต
- ลาตินอเมริกา: โครงการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำและเหมืองแร่ที่ได้รับการลงทุนจากจีน ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าทำลายระบบนิเวศ ละเลยกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม และไม่ผ่านกระบวนการปรึกษาหารือกับชุมชนท้องถิ่นและชนพื้นเมืองอย่างเหมาะสม ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำและวิถีชีวิตดั้งเดิม
- แอฟริกาและเอเชีย: ปัญหาการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างไม่เป็นธรรมเป็นข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง รวมถึงสภาพการทำงานที่เลวร้าย ค่าจ้างต่ำ การกีดกันการจัดตั้งสหภาพแรงงาน และการนำเข้าแรงงานจากจีนมาเอง ทำให้เกิดประโยชน์ต่อการจ้างงานในท้องถิ่นน้อย
- อินโดนีเซีย: มีรายงานการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจำนวนมากของคนงานในโรงงานนิกเกิลที่ลงทุนโดยจีน ซึ่งชี้ให้เห็นถึงมาตรฐานความปลอดภัยที่หละหลวม
บทความต้นฉบับได้ที่ : ทำไมเครือผู้รับเหมาจีนที่มีส่วนในการสร้างตึก สตง. ถึงเป็นต้นเหตุชุมนุมไล่รัฐบาลเซอร์เบีย
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เรื่องราวไม่ธรรมดาของวงดนตรีนามว่า ‘Massive Attack’ ขับขานเรื่องคนพลัดถิ่น ยืนหยัดต่อต้านสงคราม และพลิกวงการดนตรี
- ทั่วโลกเกิดอะไรขึ้นบ้างสัปดาห์นี้ 18-23 สิงหาคม 2568
- อนุสัญญาออตตาวา ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา อาจทำให้ข้อตกลงหยุดยิงถูกทำลาย
ตามบทความก่อนใครได้ที่
- Website : plus.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath