Waterless Skincare คืออะไร ? เทรนด์ดูแลผิวด้วยสกินแคร์ปราศจากน้ำ
ทักทายค่าเพื่อน ๆ ชาวซิสส สำหรับบทความนี้อยากชวนเพื่อน ๆ มาอัปเดตเทรนด์บิวตี้กันหน่อย ล่าสุดเห็นว่าเทรนด์ " Waterless Skincare " สกินแคร์ที่ปราศจากน้ำกำลังมาแรง เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์บิวตี้แบบใหม่ที่น่าสนใจ ทั้งกับสายบิวตี้เอง รวมไปถึงสาย eco รักษ์โลกด้วยนะ เพราะเทรนด์นี้เขาให้ความสำคัญความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อม ทั้งผลิตภัณฑ์และการใช้งานมีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปได้ด้วย ดู ๆ แล้วเป็นอีกหนึ่งเทรนด์บิวตี้ที่น่าติดตามอยู่เหมือนกันน้า ว่าแล้วเราลองไปทำความรู้จักกับ "Waterless Skincare" ให้มากขึ้นกันดีกว่า ว่าจะมีข้อดียังไง หรือมีสกินแคร์ Waterless Skincare ตัวไหนใช้ดีกันบ้าง
Waterless Skincareคืออะไร ?
Waterless Skincare หรือ สกินแคร์ที่ปราศจากน้ำ เป็นเทรนด์การดูแลผิวที่ไม่ใช้น้ำเป็นส่วนผสมหลัก เริ่มฮิตจากฝั่งเกาหลีใต้ แล้วค่อย ๆ เป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ประมาณปี 2015 ทางฝั่ง K-Beauty แบรนด์ต่าง ๆ เริ่มมีการพัฒนาสูตรสกินแคร์ที่ปราศจากน้ำออกมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของส่วนผสมสำคัญ สกินแคร์ประเภท Waterless Skincare เลยจะค่อนข้างมีความเข้มข้นสูง เช่น แชมพูก้อน สบู่ก้อน เซรั่มแบบแท่ง บาล์มและน้ำมันบำรุงผิว ฯลฯ
และนอกจากความสำคัญในการเสริมประสิทธิภาพของสารสกัดสำคัญ Waterless Skincare แล้ว สกินแคร์ Waterless Skincare ยังให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม มีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วยนะ เพราะอย่างที่บอกไปว่า Waterless Skincare เป็นสกินแคร์บำรุงผิวที่ไม่ใช้น้ำเป็นส่วนผสมหลัก เลยมีส่วนช่วยลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต และยังช่วยลดขยะพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์ลงไปได้ด้วย
ข้อดีของการใช้สกินแคร์ที่ปราศจากน้ำ
Waterless Skincare หรือสกินแคร์ที่ปราศจากน้ำ เป็นเทรนด์ดูแลผิวแบบใหม่มาแรงที่ไม่ใช้น้ำเป็นส่วนผสมหลัก มีข้อดีทั้งด้านความสวยความงาม การบำรุงผิว และยังมีข้อดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ตามนี้เลย
- สกินแคร์มีความเข้มข้น เพิ่มประสิทธิภาพการบำรุง
โดยปกติแล้วสกินแคร์จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 80-95% การผสมน้ำในสกินแคร์เลยมีส่วนทำให้สารสำคัญเจือจางลงไปมาก แต่สำหรับ Waterless Skincare ที่เป็นสกินแคร์ที่ใช้น้ำเป็นส่วนน้อย หรืออาจจะไม่ใช้เลย เลยมีส่วนทำให้สารบำรุงอยู่ปริมาณที่เข้มข้นมากกว่าสกินแคร์ทั่วไป และมีประสิทธิภาพในการดูแลผิวได้มากขึ้นด้วยนั่นเอง
- ไม่จำเป็นต้องใช้สารกันเสีย
สำหรับสกินแคร์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมักจะไวต่อแบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่าง ๆ บางตัวเลยจำเป็นต้องใส่สารกันเสีย เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งสารกันเสียบางชนิดอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือปัญหาผิวอื่น ๆ ได้ ส่วน Waterless Skincare ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบน้อย เลยไม่จำเป็นต้องใช้สารกันเสีย ทำให้มีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า
- ลดการระคายเคือง
นอกจาก Waterless Skincare จะลดปริมาณน้ำลงไปแล้ว สกินแคร์ที่ปราศจากน้ำบางสูตร อาจจะมีการลดการใช้สารกันเสียและสารเติมแต่งอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวออกไป สกินแคร์ Waterless Skincare เลยช่วยลดความเสี่ยงของอาการแพ้และการระคายเคืองผิวที่อาจเกิดจากสารเคมีไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายอีกด้วย
- ช่วยประหยัดการใช้สกินแคร์
ด้วยความที่ Waterless Skincare ค่อนข้างมีความเข้มข้นสูง เลยสามารถใช้ในปริมาณเล็กน้อย แต่ให้ประสิทธิภาพที่ดีได้ พอใช้นิด ๆ สกินแคร์ไม่หมดเร็วก็ทำให้ใช้สกินแคร์ได้นานขึ้นด้วย แถมยังทำให้ไม่ต้องซื้อสกินแคร์บ่อย ๆ ช่วยทั้งประหยัดสกินแคร์ และประหยัดงบในการซื้อสกินแคร์ลงไปได้ด้วย
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากข้อดีด้านการบำรุงผิวแล้ว Waterless Skincare ยังมีข้อดีทางด้านสิ่งแวดล้อมด้วย ด้วยความที่ Waterless Skincare เป็นสกินแคร์ที่ปราศจากน้ำ หรือมีน้ำเป็นส่วนประกอบมาก เลยช่วยลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต และยังช่วยลดขยะพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์ไปอีกด้วย
วิธีดูแลผิวแบบ Waterless Skincare ลงสกินแคร์ยังไงให้ถูกต้อง
ตามไปทำความรู้จักกับ Waterless Skincare กันมาแล้ว สำหรับใครที่อยากบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ Waterless Skincare ให้ได้ผลลัพธ์ดี การลงสกินแคร์ตามสเต็ปที่ถูกต้องก็เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ เพื่อให้สกินแคร์บำรุงผิวซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีที่สุด และลดการระคายเคืองได้ด้วย เพื่อน ๆ สามารถลงสกินแคร์ตามสเต็ปนี้ได้เลย
ขั้นตอนการลงสกินแคร์ “ตอนเช้า”
Step 1: เจลล้างหน้า /โฟมล้างหน้า ( Cleanser ) เป็นการปลุกผิวหน้าในตอนเช้า และขจัดความมันและสิ่งสกปรกออก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
Step 2: โทนเนอร์ ( Toner ) หลังจากล้างหน้าที่อาจจะมีความตึงผิว จากไอเทมทำความสะอาดผิวหน้าที่ชำระล้างความมันบนผิวออกไปบางส่วน จึงควรเช็ดโทนเนอร์ ที่เป็นตัวช่วยในการปรับสภาพผิวให้สมดุล และช่วยเปิดรูขุมขนให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
Step 3: เอสเซนส์/น้ำตบ ( Essence ) หลังจากปรับสภาพผิวให้สมดุลด้วยโทนเนอร์แล้ว ให้บำรุงด้วยสกินแคร์เนื้อบางเบาต่อ เช่น เอสเซนส์หรือน้ำตบ ช่วยบำรุงผิวหน้า เติมความชุ่มชื้น และยังช่วยเตรียมผิวให้สกินแคร์ซึมซาบในขั้นตอนต่อไปได้ดีขึ้นด้วย
Step 4: เซรั่ม ( Serum ) ขั้นตอนการบำรุงผิวหน้าตามสภาพผิว ด้วยการลงเซรั่มเพื่อบำรุงผิวตามสภาพผิวและปัญหาผิว สำหรับเซรั่มในการลงสกินแคร์ตอนเข้า แนะนำให้เลือกเนื้อเซรั่มที่มีความบางเบา เพื่อไม่ทำให้หนักหน้าในระหว่างวัน
Step 5: ครีมกันแดด ( Sunscreen ) ทาครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ทั้งจากแสงแดด และแสงสีฟ้าจากหน้าจอ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ แนะนำให้เลือกเป็นครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบา เพื่อไม่ทำให้หนักหน้าระหว่างวัน
ขั้นตอนการลงสกินแคร์ “ตอนกลางคืน”
Step 1: Makeup Remover / Cleansing ล้างเครื่องสำอาง เช็ดล้างทำความสะอาดเครื่องสำอาง ครีมกันแดด และมลภาวะ รวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ต้องเจอมาตลอดทั้งวันออกจากผิว ด้วย Makeup Remover หรือคลีนเซอร์ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก ความมัน เพื่อไม่ให้มีสิ่งอุดตันรูขุมขนจนก่อให้เกิดสิวขึ้นมาได้
Step 2: โฟมล้างหน้า ( Cleansing Foam ) เป็นขั้นตอน Double Cleansing ทำความสะอาดขจัดสิ่งสกปรกและมลภาวะต่าง ๆ ที่ตกค้างอีกหนึ่งขั้นตอน ด้วยโฟมล้างหน้า แนะนำให้เลือกโฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของเรา เพื่อให้การทำความสะอาดที่ดียิ่งขึ้น
Step 3: โทนเนอร์ ( Toner ) ขั้นตอนของการบำรุงผิว จากการล้างหน้า 2 ขั้นตอนอาจจะทำให้มีความตึงผิว จึงควรเช็ดโทนเนอร์เพื่อปรับสภาพผิวให้สมดุล และช่วยเปิดรูขุมขนให้รับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
Step 4: เอสเซนส์/น้ำตบ ( Essence ) บำรุงผิวกันต่อด้วยเอสเซนส์หรือน้ำตบที่มีเนื้อบางเบา สามารถใช้เป็นเอสเซนส์ตัวเดียวกับขั้นตอนลงสกินแคร์ตอนเช้าก็ได้ เพื่อให้เอสเซนส์ช่วยบำรุงผิวหน้า เติมความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวซึมซาบสกินแคร์ในขั้นตอนต่อไปได้ดีขึ้น และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดีด้วย
Step 5: ครีมแต้มสิว / ลดรอยสิว ( Acne Spot ) สำหรับคนที่เป็นสิว หรือมีรอยสิว ให้ลงครีมแต้มสิว หรือยารักษาสิวในขั้นตอนนี้ ให้แต้มยาสิวแค่บาง ๆ บริเวณที่เป็นสิว ในส่วนที่เป็นตัวลดรอยสิว ลองนวดเบา ๆ เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าไปก่อน แล้วค่อยลงสกินแคร์ในสเต็ปต่อไป
Step 6: เซรั่ม ( Serum ) ในขั้นตอนลงเซรั่มบำรุงผิวหน้าตอนกลางคืน จะลงเพื่อบำรุงผิวในตอนกลางคืนอย่างล้ำลึกยิ่งขึ้น และแนะนำให้เลือกเป็นเซรั่มที่ช่วยบำรุงตามสภาพผิวของเรา เพื่อให้เซรั่มทำงานได้ดี และบำรุงผิวให้ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Step 7: ครีมบำรุงรอบดวงตา ( Eye Cream ) ในตอนกลางคืนควรบำรุงรอบดวงตาให้ได้รับความชุ่มชื้น เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และควรเลือกสกินแคร์ที่มีความอ่อนโยน เหมาะกับรอบดวงตาโดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง
Step 8: มอยเจอร์ไรเซอร์ ( Moisturizer ) ขั้นตอนลงมอยส์เจอไรเซอร์ในตอนกลางคืน เป็นขั้นตอนลงสกินแคร์เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างล้ำลึก ให้ตื่นเช้ามาพร้อมกับผิวชุ่มชื้น เต่งตึง และสดใส และสำหรับคนผิวมันควรเลือกเป็นมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเจล ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพื่อป้องกันการอุดตัน
Step 9: สลีปปิ้ง มาสก์ ( Sleeping Mask ) ปิดจบขั้นตอนลงสกินแคร์ในช่วงกลางคืน ด้วยการลง Sleeping Mask ในขั้นตอนลงสกินแคร์ตอนกลางคืน เพื่อล็อกและคงความชุ่มชื้นให้ผิวตลอดคืน และนอกจากนั้น Sleeping Mask ยังมีคุณสมบัติช่วยเสริมความเรียบเนียนของผิวได้อีกด้วย
ป้ายยา 15 สกินแคร์ที่ปราศจากน้ำ ตัวไหนใช้ดี ?
Waterless Skincare แบรนด์ 1 BANILA CO Clean It Zero Original Cleansing Balm
มาเริ่มกันที่ Waterless Skincare ตัวนี้เลย BANILA CO Clean It Zero Original Cleansing Balm สำหรับตัวนี้จะเป็นคลีนซิ่งบาล์มแบบ All in one เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว นอกจากจะช่วยขจัดสิ่งสกปรก ลบเครื่องสำอาง ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวและปรับสมดุลให้ผิวชุ่มชื้น และยังมีส่วนผสมอะเซโรล่า เชอร์รี่ สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยผลัดเซลล์ผิวพร้อมกับน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ ปลอบประโลมผิวให้ชุ่มชื้นและผ่อนคลาย มีความอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวระคายเคืองด้วย
พิกัด konvy / watsons / beautrium
สกินแคร์ที่ปราศจากน้ำ 2 Bifesta Cleansing Balm Deep Clear
มาต่อกันที่สกินแคร์ Waterless Skincare ที่เป็นไอเทมทำความสะอาดผิวหน้า อย่าง Bifesta Cleansing Balm Deep Clear อีกหนึ่งคลีนซิ่งบาล์มใช้ดีจาก Bifesta ตัวนี้จะเป็นบาล์มสีชาร์โคลธรรมชาติ สูตรทำความสะอาดล้ำลึก ตัวช่วยสลายเมคอัพที่ติดทนได้อย่างอ่อนโยน แถมล้างออกง่าย ทำความสะอาดหมดจด แถมยังมีผลชาร์โคลที่ช่วยดูดซับสิ่งตกค้างจากรูขุมขนและลดน้ำมันส่วนเกินอยู่ด้วย และยังช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เนียนนุ่ม ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติอีกด้วย
พิกัด konvy / watsons / beautrium
สกินแคร์ปราศจากน้ำ 3 YOU Gentle Clean Deep Cleansing Balm Cocomelt
ตามมาด้วย YOU Gentle Clean Deep Cleansing Balm Cocomelt คลีนซิ่งบาล์ม เนื้อเชอร์เบทเนียนละเอียด มีความบางเบา ละลายเป็นออยล์ได้เร็ว ช่วยขจัดเครื่องสำอาง ครีมกันแดด สิ่งสกปรก และความมันส่วนเกินได้รวดเร็ว ด้วยน้ำมันมะพร้าวออร์แกนิก และยังมีส่วนช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ช่วยปลอบประโลมผิว ด้วยสารสกัดจากใบบัวบก น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันเปลือกส้ม และวิตามิน E & B5
พิกัด konvy / watsons / beautrium
สกินแคร์ปราศจากน้ำที่ 4 ARCHITA White Strawberry Skincare Stick Balm
มาต่อกันที่ Waterless Skincare ที่เป็นบาล์มบำรุงผิวกันบ้างดีกว่า อย่าง ARCHITA White Strawberry Skincare Stick Balm ตัวนี้จะเป็นสกินแคร์สติกมาพร้อมกับคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและมอยส์เจอไรเซอร์ ทำให้ผิวเนียนกระจ่างใสขึ้น จากสารสกัด White Strawberry, Sodium Hya, และ Kakadu Plum เป็นเกราะปกป้องจากมลภาวะภายนอก ลดความไวต่อการแพ้ ลดเลือนจุดด่างดำ ปรับสมดุลให้ผิว
พิกัด shopee / beautrium / konvy
ออยล์บำรุงผิว 5 Bio-Oil Specialist Skincare Oil
นอกจาก Waterless Skincare ที่เป็นไอเทมบำรุงผิวเนื้อบาล์ม ยังมีสกินแคร์ปราศจากน้ำที่เป็นออยล์บำรุงผิว อย่าง Bio-Oil Specialist Skincare Oil ออยล์บำรุงผิวที่มีคุณสมบัติเด่นช่วยในการลดเลือนรอยแผลเป็น ผิวแตกลาย และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ให้ดูจางลง นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และยังเหมาะกับทุกสภาพผิวอีกด้วย ไม่มีสารกันบูด ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีส่วนผสมของ วิตามิน A และ E แถมเป็นออยล์บำรุงผิวที่ใช้ได้ทั้งหน้าและทั้งตัวด้วยนะ
พิกัด watsons / beautrium / shopee
ออยล์บำรุงผิวกาย 6 Neutrogena Body Oil Light Sesame
ตามมาด้วย Neutrogena Body Oil Light Sesame ตัวนี้เป็น Waterless Skincare ที่เป็นออยล์บำรุงผิวกายจากคุณค่าสารสกัดน้ำมันงา มาพร้อมกับเนื้อสัมผัสบางเบาหอมละมุน สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวรวดเร็ว ไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะ และยังช่วยฟื้นบำรุงผิวแห้งหยาบกร้านให้ดูสุขภาพดีเปล่งประกาย เนียนนุ่มชุ่มชื้นยาวนานอีกด้วย
พิกัด watsons / konvy / lazada
ออยล์บำรุงผิว ถูกและดี 7 Johnson's Bedtime Baby Oil
ยังไม่จบกับ Waterless Skincare ที่เป็นออยล์บำรุงผิว มาต่อกันที่ Johnson's Bedtime Baby Oil เบบี้ออยล์สารพัดประโยชน์จากจอห์นสัน อีกหนึ่งเบบี้ออยล์ตัวดังใช้ดี แถมหาซื้อง่าย ราคาจับต้องได้ มาพร้อมกับคุณสมบัติบำรุงผิวเนียนนุ่ม และเป็นเนเชอรัลคาล์มเอสเซนส์ หอมผ่อนคลายสบายผิว สูตร Hypoallergenic อ่อนโยนพิเศษ ไม่ทำให้เกิดผื่นคันอีกด้วย
พิกัด johnsonsbaby / konvy / watsons / shopee / lazada
สกินแคร์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำ 8 I-Nature ไอ-เนเจอร์ น้ำมันมะพร้าวธรรมชาติสกัดเย็น 100 %
ตามมาด้วยสกินแคร์ปราศจากน้ำ ที่เป็นออยล์บำรุงผิวแบบออแกนิก จากธรรมชาติ 100% อย่าง I-Nature ไอ-เนเจอร์ น้ำมันมะพร้าวธรรมชาติสกัดเย็น 100 % เกรดพรีเมียม ที่เขาบอกมาว่าสกัดสดใหม่ตลอด ไม่มีการค้างสต็อค และยังมาพร้อมกับกลิ่นหอมของมะพร้าวอ่อน ๆ ไม่เหม็นหืน และยังมีวิตามิน E ธรรมชาติสูงกว่าวิตามิน E สังเคราะห์ในเครื่องสำอางทั่วไป 40-60 เท่าเลยด้วย นอกจากบำรุงผิวยังใช้นวดตัว บำรุงผมได้ด้วย
พิกัด watsons / big c / lazada / shopee
บอดี้โลชั่นปราศจากน้ำ 9 Naturals by Watsons True Natural Olive Body Lotion
มาถึง Waterless Skincare ที่เป็นออยล์โลชั่น บำรุงผิวกายกันบ้าง อย่าง Naturals by Watsons True Natural Olive Body Lotion มาพร้อมกับเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน และยังเป็นสูตร Vegan 100% ที่อุดมด้วยวิตามิน กรดไขมันธรรมชาติ และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นพร้อมปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน บำรุงให้ผิวแลดูสุขภาพดี
พิกัด watsons / tops / shopee / lazada
บาล์มปราศจากน้ำ 10 Eucerin Aquaphor Soothing Skin Balm
ตามมาด้วยไอเทมบำรุงผิว Waterless Skincare อย่าง Eucerin Aquaphor Soothing Skin Balm สำหรับไอเทมนี้จะเป็นบาล์มทาผิว เหมาะกับผิวแห้งแตกเฉพาะจุด ด้วยสารสำคัญในการช่วยปลอบประโลมผิวแห้ง เพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นบำรุงผิวตามธรรมชาติ พร้อมสร้างเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรงขึ้น และยังช่วยช่วยเสริมกระบวนการสร้างผิวใหม่อีกด้วย
พิกัด eucerin / watsons / konvy / beautrium
บาล์มบำรุงผิวจากธรรมชาติ 11 Phutawan Aromatic Balm
อีกหนึ่งสกินแคร์ Waterless Skincare ที่เป็นบาล์มบำรุงผิว อยากป้ายยา Phutawan Aromatic Balm จากภูตะวัน แบรนด์เครื่องหอม สกินแคร์ออแกนิกของไทย จุดเด่นของบาล์มบำรุงผิวตัวนี้จะเป็นบาล์มบำรุงจากสารสกัดธรรมชาติ และสามารถใช้ดมใช้ทาได้ในตลับเดียว เพราะเขามีกลิ่นน้ำมันหอมระเหยช่วยให้ผ่อนคลาย และยังมีส่วนผสมของสมุนไพรกว่า 5 ชนิด ที่มีส่วนช่วยนวดกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการทำงานหรือออกกำลังกาย ลดฟกช้ำ ลดวิงเวียนได้ด้วย
พิกัด phutawanshop / shopee / lazada
สกินแคร์ที่ปราศจากน้ำ 12 Curel INTENSIVE MOISTURE CARE Moisture Balm
ตามมาด้วย Curel INTENSIVE MOISTURE CARE Moisture Balm อีกหนึ่งบาล์มบำรุงผิว ตัวนี้จะเป็นสูตร Mild Acidio เนื้อสัมผัสเนียนนุ่มดุจกำมะหยี่ ไม่เหนียวเหนอะหนะ และยังช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้านและมลภาวะต่าง ๆ ให้ผิวมีความชุ่มชื้นขึ้น ด้วยสารสกัดจากยูคาลิปตัส และเทคโนโลยี Barrier Film ที่ทำให้ผิวเรียบเนียน ดูสุขภาพดี แข็งแรงด้วย
พิกัด curelexperience / konvy / watsons
สบู่เซรั่ม 13 Smooto สมูทโตะ โทเมโท คอลลาเจน ไวท์เทนนิ่ง เซรั่มโซป
ไอเทมสบู่ก้อนก็ถือว่าเป็น Waterless Skincare ไอเทมหนึ่งด้วยเหมือนกัน ซึ่งสบู่ก้อนบำรุงผิวที่อยากป้ายยา ก็คือ Smooto สมูทโตะ โทเมโท คอลลาเจน ไวท์เทนนิ่ง เซรั่มโซป ตัวนี้จะเป็นสบู่เซรั่ม ที่ช่วยทำความสะอาดได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายเลย นอกจากคุณสมบัติช่วยขจัดสิ่งสกปรก ขจัดความมันส่วนเกิน สบู่เซรั่มตัวนี้ยังมีส่วนช่วยบำรุงให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น กระะจ่างใส ด้วยสารสกัดมะเขือเทศเข้มข้น และคอลลาเจนนั่นเอง
พิกัด smootojapan / watsons / allonline
สบู่สมุนไพร 14 Protex Thai Therapy Tamarind Turmeric Thanaka Soap Mini 6
อีกหนึ่ง Waterless Skincare ที่เป็นไอเทมสบู่ก้อน อยากป้ายยาตัวนี้เลย Protex Thai Therapy Tamarind Turmeric Thanaka Soap Mini 6 สบู่สมุนไพร จากสารสกัดจากมะขาม ขมิ้น และทานาคา และยังมีวิตามินซีและวิตามินอี ช่วยดูแลผิวเนียนนุ่ม ทำให้ผิวแลดูสะอาด ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับกลิ่นหอม ๆ จากส้มแมนดารินและพีชด้วยนะ
พิกัด konvy / watsons / tops / shopee
แชมพูปราศจากน้ำ 15 LUSH แชมพูบาร์
นอกจากสกินแคร์บำรุงผิว ลองมาบำรุงผมแบบ Waterless Skincare กันบ้าง อย่าง LUSH แชมพูบาร์ แชมพูชนิดก้อนแบบใหม่แบบสับ ที่ไม่มีสารทำฟอง SLS ตัวช่วยบำรุงผมให้กลับมานุ่มสลวยอีกครั้ง แถมยังมีหลายสูตรให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสูตรกำจัดเชื้อโรค สูตรผมมีน้ำหนัก สูตรผ่อนคลายหนังศีรษะ สูตรผมเงางาม นุ่มลื่น ฯลฯ จากส่วนผสมธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้ง กุหลาบ เลมอน เป็นต้น แถมยังเป็นแชมพูก้อนที่เป็น vegan อีกด้วยนะ
พิกัด lush / lazada
ข้อควรระวังการใช้สกินแคร์ที่ปราศจากน้ำ
ถึงแม้ว่า Waterless Skincare จะให้ข้อดีทั้งด้านการบำรุง และสิ่งแวดล้อม แต่ Waterless Skincare เป็นสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของน้ำน้อยมาก อาจจะไม่เหมาะกับสภาพผิวบางประเภท และมีข้อจำกัดในการใช้อยู่บ้าง เช่น
- อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีแนวโน้มเป็นสิว หรือรูขุมขนอุดตัน เพราะ Waterless Skincare มีความเข้มข้น และบางตัวอาจจะมีน้ำมันเป็นส่วนผสม ทำให้สกินแคร์มีความหนัก และอุดตันรูขุมขนได้ง่าย
- ระวังการระคายเคือง ถึงแม้ว่า Waterless Skincare จะลดการใช้สารกันเสีย แต่ก็อาจมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ รวมถึงสกินแคร์ไร้น้ำส่วนใหญ่ค่อนข้างเข้มข้นมาก ถ้าหากใช้ในปริมาณที่มากเกินไป อาจะทำให้ผิวระคายเคืองได้
- ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ ด้วยความที่ Waterless Skincare เป็นสกินแคร์ที่มีความเข้มข้นสูง จึงควรใช้ในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองขึ้นได้
- ราคาสูง เนื่องจากส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงและกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม อาจจะทำให้ Waterless Skincare มีราคาค่อนข้างสูงกว่าสกินแคร์ทั่วไป
**********************************************************
สรุป
ตามไปทำความรู้จักกับ " Waterless Skincare " สกินแคร์ที่ปราศจากน้ำกันมาแล้ว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์บิวตี้มาแรงที่น่าสนใจอยู่เหมือนกันน้า เพราะนอกจากเป็นสกินแคร์ที่มีความเข้มข้น ช่วยบำรุงผิวแบบจัดเต็ม แถมยังสามารถใช้ในปริมาณเล็กน้อย ใช้ต่อได้ยาว ๆ ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ในยุคที่ Climate Change เริ่มก่อตัวรุนแรง การหันมาใส่ใจเรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ สำหรับเพื่อน ๆ สาย eco ที่อยากบำรุงผิว พร้อมกับรักษ์โลกไปด้วย Waterless Skincare น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกบำรุงผิวที่เหมาะอยู่เหมือนกัน
ขอบคุณรูปภาพจาก Konvy / shopee / lazada / istock และข้อมูลอ้างอิงจาก thestandard / padthai
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ