โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ยกระดับบริการสุขภาพ มุ่งสู่มาตรฐานอาเซียน
"โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์" ยกระดับบริการด้านสุขภาพ พัฒนาความเป็นเลิศ 5 ด้าน มุ่งเป็นศูนย์เชี่ยวชาญทางการแพทย์ชั้นสูงระดับภูมิภาคอาเซียน พร้อมให้บริการผู้ป่วยทุกระดับด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางครบทุกสาขา มีเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยครบวงจร
วันที่ 19 สิงหาคม 2568 ที่ จ.นครสวรรค์ แพทย์หญิงรจนา ขอนทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ พร้อมด้วย นายแพทย์วิพัฒน์ อุดมพงศ์ลักขณา รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ฯ แพทย์หญิงกมลทิพย์ ประสพสุข รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจด้านบริการปฐมภูมิ นายแพทย์ทรงวุฒิ ประสพสุข รองผู้อำนวยการด้านพัฒนาคุณภาพ นางรังสิมา วารีสุข รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร นายแพทย์ชวพล อิทธิพานิชพงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกฯ คุณปารินันท์ คงสมบูรณ์ พยาบาลวิชาชีพเชี่ยวชาญ นายแพทย์ภูริทัต เมืองบุญ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาคุณภาพบริการ แพทย์หญิงธีรพร วิทิตศิริ หัวหน้ากลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด นายแพทย์ณัฐพงษ์ ตุลาพันธุ์ หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวช ร่วมเปิดโครงการสวรรค์ประชารักษ์พบสื่อมวลชน ประจำปี 2568 เพื่อนำเสนอการให้บริการศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง 5 ด้าน, การให้บริการของโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ (ในเมือง), การให้บริการด้านจิตเวชและยาเสพติด และความร่วมมือของสหสาขาวิชาชีพเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาความรุนแรงในจังหวัดนครสวรรค์ โดยมี พยาบาล เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมมหาชนก ชั้น 9 อาคารศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ (เขาเขียว)
โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เป็นโรงพยาบาลศูนย์ของเขตสุขภาพที่ 3 ขนาด 796 เตียง มีพื้นที่ 202 ไร่ ให้บริการพื้นที่ 5 จังหวัด คือ จ.นครสวรรค์ จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.อุทัยธานี และ จ.ชัยนาท มีวิสัยทัศน์เป็นศูนย์เชี่ยวชาญทางการแพทย์ชั้นสูงในระดับอาเซียน ให้บริการผู้ป่วยในระดับตติยภูมิ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางครบทุกสาขา มีเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยครบวงจร ให้การดูแลประชาชนมากกว่า 3 ล้านคน มีสถิติการให้บริการผู้ป่วยนอกกว่า 700,000 คนต่อปี ผู้ป่วยใน 57,000 คนต่อปี และมีอัตราครองเตียง ร้อยละ 90
โดยในปี 2568 นี้ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ได้ทําการยกระดับการให้บริการ โดยมีการพัฒนาหลายด้าน ได้แก่ 1. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีการปรับปรุงให้มีความทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีอาคารบริการ 14 อาคาร ครบตามมาตรฐาน P plus, การรักษาความปลอดภัยด้วยระบบสแกนประตูอัตโนมัติเข้า-ออกอาคารและหอผู้ป่วย, มีระบบผลิตน้ำประปาที่สะอาดปลอดภัย สํารองน้ำได้ 3 วัน, มีบ่อบําบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐาน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบต่อชุมชน, มีการติดตั้ง Solar cell ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 200,000 บาทต่อเดือน, มีพื้นที่สีเขียวภายในโรงพยาบาลฯมากกว่าร้อยละ 40, มีระบบสํารองไฟฟ้าด้วย Generator เพียงพอทุกอาคาร และจัดระบบขนส่งภายในโรงพยาบาลฯด้วยรถไฟฟ้า ท่อขนส่ง Tempus เปล Mobile มีทางเชื่อมระหว่างอาคาร
2. ด้านการบริการ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ มีการปรับโฉมการบริการด้วยสถานที่และเครื่องมือที่ทันสมัย โดยมุ่งเน้นเป็นศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง 5 ด้าน ดังนี้
- ศูนย์เชี่ยวชาญด้านหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมา โรงพยาบาลฯได้ทํา ECMO ไปแล้ว 44 ราย ผ่าตัด Open heart 271 ราย รวมถึง thoracic aortic aneurysm และ EVAR ผ่าตัดโรคหัวใจในเด็ก ผ่าตัด abdominal aortic aneurysm repair อันดับ 1 ของประเทศ และให้บริการสวนหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- ศูนย์เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง โรงพยาบาลฯมีเทคโนโลยีการรักษาโรคมะเร็งที่ทันสมัยและครบวงจร เช่น การผ่าตัด การฉายรังสีแบบ 3 มิติและแบบเร่งอนุภาค การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดแบบมุ่งเป้าและภูมิคุ้มกันบําบัด นอกจากนี้ ยังลดการส่งต่อผู้ป่วยฉายแสงได้ถึง 82% ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้ป่วยได้กว่า 100 ล้านบาท พร้อมยกระดับ Nuclear medicine ในปี 2569
- ศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ ในปี 2567 ที่ผ่านมา โรงพยาบาลฯ ได้ปลูกถ่ายกระจกตาเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ส่วนในปี 2568 นี้ ตั้งเป้าพัฒนาทีมจัดเก็บอวัยวะ เพื่อยกระดับการปลูกถ่ายไตและไขกระดูกในปี 2569
- ศูนย์เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด โรงพยาบาลฯ สามารถรับรักษาทารกป่วยวิกฤต จำนวน 15 เตียง และมีเครื่องมือที่ทันสมัยในการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด
- ศูนย์เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลฯมีห้องฉุกเฉินขนาด 3,000 ตารางเมตร 34 เตียง มี CT scan และห้องผ่าตัดภายใน ER อีกทั้งยังรับรู้ตําแหน่งและสถานะผู้ป่วยแบบ real time ด้วยโปรแกรม smart ER รวมทั้งส่งต่อผู้ป่วยปลอดภัยอุบัติเหตุเป็นศูนย์ด้วย smart and safety ambulance และส่งต่อรวดเร็วเชื่อมโยงทั้งเขตสุขภาพด้วย smart and safety EMS
นอกจากนี้ โรงพยาบาลฯยังมีบริการต่อยอดเพิ่มเติม อาทิเช่น มีการ Trauma center รักษาผู้ป่วยบาดเจ็บซับซ้อนได้ทุกระบบ, สามารถทํา Radio intervention และ Neuro intervention, เป็นศูนย์ ods ผ่าตัดครอบคลุมทุกโรคในปี 2567 ได้รับรางวัลชนะเลิศ Best Practice Service Plan Sharing และคลินิกโรคอ้วนผ่าตัดโรคอ้วนไปแล้ว 50 ราย, ทันตกรรมเฉพาะทางครบทุกสาขา, ให้บริการด้านนิติเวชทั้งเขตสุขภาพ ได้รับรางวัลเครือข่าย OSCC ระดับประเทศ, อีกทั้งยังมีอาคารผู้ป่วยจิตเวชให้บริการแบบ one stop service สามารถรับผู้ป่วยในได้ 27 เตียง แยกจากผู้ป่วยทั่วไป, และปรับปรุงโรงพยาบาลแห่งเดิมให้เป็น Wellness center, life style medicine, ศูนย์แพทย์ทางเลือกและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
3.ด้านบุคลากร โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ มีบุคลากร จํานวน 2,664 คน แบ่งเป็น แพทย์ 251 คน ทันตแพทย์ 21 คน เภสัชกร 55 คน และพยาบาล 898 คน โดยมีพยาบาลที่ได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทาง จํานวน 267 คน, เป็นศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิกที่มีความเป็นเลิศ โดยผลิตนักศึกษาแพทย์แล้วทั้งสิ้น 21 รุ่น จํานวน 592 คน, เปิดสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาศัลยกรรมทั่วไปตั้งแต่ปี 2562, เป็นสถาบันฝึกอบรมวิสัญญีพยาบาล ตั้งแต่ปี 2560 รวม 36 คน, เป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ครอบครัวตั้งแต่ปี 2566, ผลิตแพทย์อายุรศาสตร์ร่วมกับรามาธิบดี ตั้งแต่ปี 2553 รวม 84 คน, ในปี 2567 และ 2568 มีงานวิจัยและ R2R ตีพิมพ์ในระดับนานาชาติจํานวน 15 ผลงาน ระดับประเทศ 81 ผลงาน และระดับจังหวัด 57 ผลงาน, สนับสนุนการทําความดีของเจ้าหน้าที่ด้วยรางวัลคนดีศรีสวรรค์ประชารักษ์ พร้อมเผยแพร่ความดีให้เกิดการรับรู้ทั้งองค์กร, เปิดอบรมแพทย์เฉพาะทางด้าน Emergency practice และการพยาบาลวิกฤต ในปี 2569
และ 4. ด้านประสิทธิภาพการบริการ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ มีการพัฒนาระบบการรักษาและผ่าตัดที่ซับซ้อนมากขึ้นทําให้ค่า CMI สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศ, พัฒนาระบบ Three refer plus เชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยรวดเร็วแม่นยํา, พัฒนาสู่การเป็น Smart hospital ด้วย Digital IPD paperless Telemedicine ระบบบันทึกการพยาบาล digital โปรแกรมบริหารครุภัณฑ์ครบวงจร, พัฒนาทางห้องปฏิบัติการด้วย Smart lab มีระบบป้องกันการจ่ายเลือด ผิดคน ผิดหมู่ ด้วยโปรแกรม Smart blood bank, มีห้องจ่ายยาผู้ป่วยนอกแบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ ลดค่าจ้างบุคลากรได้ถึง 400,000 บาทต่อเดือน รองรับผู้ป่วยได้มากกว่า 2,500 คนต่อวัน ลดเวลารอรับยาลงได้ถึง 6 เท่า พร้อมปรับระบบบริการผู้ป่วยนอก, ส่งผลให้ระยะเวลารอคอย OPD เฉลี่ยจาก 252 นาที ลดเหลือ 143 นาที และทําให้เกิดความพึงพอใจในผู้รับบริการมากกว่า ร้อยละ 90
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ยกระดับบริการสุขภาพ มุ่งสู่มาตรฐานอาเซียน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คลินิกปันรักษ์ จุดตรวจสุขภาพพื้นฐานในปั๊มน้ำมันบางจาก กลยุทธ์เข้าถึงชุมชนของ สปสช.
- กระทรวงสาธารณสุขลุยขับเคลื่อนสู่ระบบสุขภาพดิจิทัล
- รพ.สวรรค์ประชารักษ์ โชว์เทคโนโลยี ยกระดับสาธารณสุขไทย สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ
- โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ยกระดับบริการสุขภาพ มุ่งสู่มาตรฐานอาเซียน
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath