ประวัติ “มาดามรถถัง” จากครูภูมิศาสตร์ สู่เจ้าแม่ยานเกราะ ที่ UN ยังต้องสั่งซื้อ
เปิดประวัติ “มาดามรถถัง” นพรัตน์ กุลหิรัญ สตรีแกร่งแห่งชัยเสรี ผู้สร้างยานเกราะไทยส่งขาย 46 กองทัพทั่วโลก
สำหับ นพรัตน์ กุลหิรัญ หรือที่วงการเรียกติดปากว่า มาดามรถถัง (Madam Tank) คือ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารหัวเรือใหญ่ของบริษัท ชัยเสรี เม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ ผู้ผลิต–ซ่อมบำรุงยานเกราะและชิ้นส่วนยุทโธปกรณ์ของไทยที่ปัจจุบันส่งมอบงานให้ทั้งกองทัพไทย กองทัพต่างประเทศ รวมถึงสหประชาชาติ ตัวเลขที่มักถูกอ้างถึงคือ ลูกค้ากว่า 46 กองทัพทั่วโลก โชว์ศักยภาพผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
วิเคราะห์ประเด็นสำคัญจากข่าว
คัดลอก
ข้อความสร้างอัตโนมัติโดย AI
จุดเริ่มสายอุตสาหกรรมของ มาดามรถถัง
นพรัตน์เกิดและเติบโตในย่านเยาวราช ทายาทครอบครัวพ่อค้าเหล็กเชื้อสายจีน จบการศึกษาด้านภาษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ และสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยวิชาการศึกษา (ปทุมวัน) ก่อนเริ่มอาชีพเป็นครูสอนภูมิศาสตร์ ต่อมาสมรสกับ หิรัญ กุลหิรัญ ที่ทำกิจการซ่อมรถและดัดแปลงเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมสู่การเริ่มต้นทำงานให้กองทัพในฐานะผู้จัดหาอะไหล่–ชิ้นส่วนยานพาหนะ และพัฒนามาเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนยาง–เหล็กสำหรับรถบรรทุกและรถสายพานของทหารในเวลาต่อมา
กำเนิด “ชัยเสรี” และการยกระดับสู่ผู้ผลิตยานเกราะเต็มรูปแบบ
ข้อมูลเชิงอุตสาหกรรมชี้ว่า แบรนด์ ชัยเสรี เริ่มต้นจากธุรกิจผลิต, บริการชิ้นส่วนยาง และยางติดเหล็กสำหรับรถบรรทุก ก่อนขยายสู่การผลิต แทร็กรถสายพาน (track shoes) และ ล้อกดสายพาน (road wheels) ของกองทัพบกไทย จากนั้นจึงตั้งโรงงานซ่อม, ยกเครื่องยานรบ และพัฒนาสายการผลิตยานเกราะของตนเอง โดยมีหลักไมล์สำคัญอย่างการรับสัญญาจากกองทัพบกครั้งแรกในปี 2512 และเปิดโรงงานผลิตแทร็กที่รังสิตในปี 2517 ก่อนจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “CHAISERI” ในปี 2533
ผลงานเด่น First Win และยานเกราะสะเทินน้ำสะเทินบก 8×8
ชื่อ ชัยเสรี ถูกจับตาในเวทีโลกจากผลงาน First Win 4×4 ยานเกราะกันทุ่นระเบิด (MRAP) โครงสร้าง V-hull ที่ออกแบบเพื่อทนภัย IED/ทุ่นระเบิดและอาวุธเบา ใช้งานโดยหน่วยงานความมั่นคงไทยและต่างประเทศ รวมถึงรุ่นดัดแปลงเพื่อภารกิจพยาบาลสนามที่องค์การสหประชาชาติสั่งผลิตจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมี ยานเกราะสะเทินน้ำสะเทินบก 8×8 สำหรับนาวิกโยธินไทยซึ่งถูกยกให้เป็นผลิตผลภายในประเทศที่สร้างความภูมิใจในงาน Defense & Security 2023
เครือข่ายลูกค้า และโมเดลธุรกิจ
บทสัมภาษณ์หลายชิ้นระบุว่านพรัตน์ผลักดันงานวิจัยและการผลิต ตามโจทย์ลูกค้าเป็นรายประเทศ ใช้ฐานซัพพลายและแรงงานไทยเป็นหัวใจหลัก พร้อมยอมรับความท้าทายนโยบายรัฐ เช่น สิทธิประโยชน์การลงทุนที่ธุรกิจไทยผู้ผลิตจริงอาจได้ไม่เท่ากับผู้นำเข้า แต่ยังคงรักษาพอร์ตงานซ่อม–อัปเกรดยานพาหนะควบคู่กับการผลิตยานเกราะใหม่ ส่งผลให้ธุรกิจมีรายได้ระดับพันล้านบาทต่อปีในบางช่วง และขยายการส่งออกต่อเนื่อง
รางวัล-เกียรติยศ และบทบาทสาธารณะ
นพรัตน์ได้รับรางวัลผู้ส่งออกดีเด่นหลายปี และปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีในปี 2560 ขณะที่โรงงานหลักของชัยเสรีตั้งอยู่ที่ปทุมธานีบนพื้นที่ราว 140,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอุตสาหกรรมนี้ในไทย
บทบาทล่าสุดต่อสถานการณ์ชายแดน
เดือนสิงหาคม 2568 นพรัตน์และทีมชัยเสรีออกประกาศ “จิตอาสา” สนับสนุนแนวหน้าไทย–กัมพูชา โดยจัดส่งยานเกราะ First Win 4×4, ยานเกราะล้อยางอื่น ๆ รวมถึงจัดทีมซ่อม–ช่างเทคนิคและอะไหล่เพื่อประจำพื้นที่ โดยย้ำว่าเป็นความร่วมมือเพื่อความมั่นคงของชาติ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งถูกสื่อหลักรายงานกว้างขวาง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง : Chaiseri Defense, วิกิพีเดีย