“เกษตรฯ-มูลนิธิธรรมนัส”ระดมช่วยผู้ประสบภัยชายแดนกัมพูชา
วันที่ 29 ก.ค. 2568 น. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีส่งมอบของบริจาคช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อการกุศล
โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อการกุศล บริจาคสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในเบื้องต้น โดยมี นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ สส.พรรคกล้าธรรม อาทิ นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี,นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี, นายบัญชา เดชเจริญศิริกุล นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ, นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ สส.นครศรีธรรมราช, นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก ณ บริเวณหน้าอาคาร 1 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดตั้ง War Room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อติดตามสถานการณ์ ประเมินผลกระทบ วางแผนเสนอแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
รวมทั้งในวันนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อการกุศล ร่วมกันบริจาคสิ่งของ อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น เป็นต้น เพื่อนำไปส่งมอบให้กับเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังเตรียมมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ ที่ได้รับความเสียหายทางด้านการเกษตร โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งส่วนกลาง และในพื้นที่ได้เร่งสำรวจข้อมูล และเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่ และเป็นไปตามระเบียบ กฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเป็นกำลังใจและสนับสนุนให้พี่น้องประชาชนทุกคนปลอดภัย ติดตามประกาศจากหน่วยงานอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือ และป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งขอเป็นกำลังใจและห่วงใยทหารแนวหน้าในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย” รมว.เกษตรฯ กล่าว
ด้านร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่ไปให้กำลังใจพี่น้องประชาชนบริเวณศูนย์อพยพ และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ใช้โรงเรียนในพื้นที่เป็นศูนย์อพยพ ในฐานะเป็นคนไทยด้วยกัน
“สิ่งสำคัญตอนนี้คือ กำลังใจ และปัจจัย 4 เพราะประชาชน และทหารได้รับผลกระทบอย่างมาก จึงเป็นที่มาที่ทำให้ 2 พรรคการเมือง รวบรวมปัจจัยนำส่งน้ำใจของคนไทย รวมไปถึงเกษตรกรบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังเดือดร้อน
เช่นเดียวกับพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติ ที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ จังหวัดในภาคเหนือ เราคนไทยจะไม่ทอดทิ้งกัน อะไรที่สามารถช่วยเหลือ และส่งต่อน้ำใจไปได้ เราพร้อมที่จะทำ วันนี้ต้องขอขอบคุณพี่น้องภาคเอกชนที่ร่วมกับมูลนิธิธรรมนัสฯ ในการส่งมอบเครื่องอุปโถคบริโภคลงไปที่ศูนย์อพยพ” ร.อ.ธรรมนัส ระบุ