UN เตือนสถานการณ์คนอดตายในกาซา เลวร้ายพอๆ กับเอธิโอเปียเมื่อ 40 ปีก่อน ขณะทรัมป์หักหน้าเนทันยาฮู ชี้คนปาเลสไตน์อดอยากจริง
โครงการอาหารโลกเตือนสถานการณ์ความอดอยากขาดอาหารถึงขั้นคนอดตายในกาซาเวลานี้ เลวร้ายพอๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นในเอธิโอเปียเมื่อ 40 ปีก่อน ขณะที่ทรัมป์หักหน้าเนทันยาฮู ชี้กาซากำลังเผชิญความอดอยากอย่างแท้จริง พร้อมกำชับอิสราเอลให้พยายามมากขึ้นเพื่อเปิดทางลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่กาซา
รอสส์ สมิธ ผู้อำนวยการด้านสถานการณ์ฉุกเฉินของโครงการอาหารโลก (ดับเบิลยูเอฟพี) แห่งสหประชาชาติ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเจนีวาเมื่อวันอังคาร (29 ก.ค.) ว่า สถานการณ์ความอดอยากขาดอาหาร (famine) ในกาซาขณะนี้ไม่เหมือนเหตุการณ์ใดๆ ที่เคยเห็นมาในศตวรรษนี้ แต่เตือนให้นึกถึงวิกฤตการณ์อดอยากขาดอาหารในเอธิโอเปียช่วงปี 1983-1985 หรือไม่ก็ที่ บิอาฟรา (สาธารณรัฐที่แบ่งแยกดินแดนจากไนจีเรียและมีอายุเพียง 3 ปีคือระหว่างปี 1967-1970 ) ในศตวรรษที่แล้ว และสำทับว่า จำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วนตั้งแต่ตอนนี้
การแสดงความคิดเห็นนี้เกิดขึ้นหลังจาก โครงการริเริ่มเพื่อการจำแนกระยะขั้นตอนทางด้านความมั่นคงทางอาหารอย่างบูรณาการ (Integrated Food Security Phase Classification Initiative หรือ IPC) เตือนว่า สถานการณ์ความอดอยากขาดอาหารขั้นเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นแล้วในกาซา
ไอพีซีซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนจากยูเอ็นและดำเนินการตรวจสอบสถานการณ์การขาดอาหาร ยืนยันว่า การจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่กาซาทันทีและอย่างไม่มีข้อจำกัด เป็นทางเดียวในการป้องกันไม่ให้ปัญหานี้ลุกลามอย่างรวดเร็วและมีผู้เสียชีวิตอย่างกว้างขวาง
ไอพีซีระบุว่า ข้อมูลล่าสุดเท่าที่รวบรวมได้จนถึงวันที่ 25 ก.ค.บ่งชี้ว่า สถานการณ์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ในกาซาถึง “เกณฑ์ความอดอยากขาดอาหาร” แล้วในแง่การบริโภคอาหารและการขาดสารอาหารเฉียบพลันในกาซาซิตี้
ทั้งนี้พื้นที่ที่ถูกระบุว่าอดอยากขาดอาหาร หมายถึงพื้นที่ที่ครัวเรือนอย่างน้อย 20% ขาดอาหารหรือหิวโหยขั้นรุนแรง, เด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปีอย่างน้อย 30% ขาดสารอาหารอย่างเฉียบพลันหรือซูบผอม ซึ่งหมายถึงมีน้ำหนักตัวน้อยมากเมื่อเทียบกับส่วนสูง และใน 1 วันมีผู้ใหญ่ 2 คน หรือเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี 4 คนจากจำนวน 10,000 คนเสียชีวิตเนื่องจากขาดอาหาร หรือจากการขาดสารอาหารผสมกับการเจ็บป่วย
อิสราเอลปิดล้อมกาซาโดยสิ้นเชิงนับจากวันที่ 2 มี.ค. หลังจากการเจรจาหยุดยิงล่มเพื่อกดดันให้ฮามาสปล่อยตัวประกัน และเริ่มอนุญาตการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาอย่างจำกัดมากเมื่อปลายเดือนพ.ค. ท่ามกลางเสียงเตือนจากนานาชาติว่า ชาวปาเลสไตน์กำลังอดอยากหิวโหย
อย่างไรก็ตาม การผ่อนคลายมาตรการปิดกั้นของอิสราเอลในเดือนพ.ค.มาพร้อมระบบการแจกจ่ายความช่วยเหลือแบบใหม่ของอิสราเอลและอเมริกาภายใต้มูลนิธิเพื่อมนุษยธรรมแห่งกาซา (จีเอชเอฟ) ที่เต็มไปด้วยความสับสนและความรุนแรง ขณะที่องค์กรบรรเทาทุกข์ดั้งเดิมที่นำโดยยูเอ็นเผยว่า การจัดส่งความช่วยเหลือเผชิญอุปสรรคจากข้อจำกัดของกองทัพอิสราเอล นอกจากนั้นขบวนรถลำเลียงสิ่งบรรเทาทุกข์ยังถูกแก๊งอาชญากรและฝูงชนที่หิวโหยปล้นระหว่างทาง
แม้อิสราเอลระบุว่า ไม่ได้จำกัดจำนวนรถขนสิ่งบรรเทาทุกข์ แต่หน่วยงานต่างๆ ของยูเอ็นและองค์กรบรรเทาทุกข์ชี้ว่า แม้แต่มาตรการมนุษยธรรมล่าสุดยังไม่เพียงพอรับมือสถานการณ์ความอดอยากที่เลวร้ายลงในกาซา
นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ยังยืนกรานว่า ไม่มีชาวปาเลสไตน์ในกาซาแม้แต่คนเดียวที่อดอยาก และอิสราเอลจัดหาความช่วยเหลือให้แก่กาซามาโดยตลอดนับจากสงครามเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนต.ค. 2023 “เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่มีชาวกาซาหลงเหลืออยู่เลย” และประกาศว่า จะทำสงครามกับฮามาสต่อไป
วันจันทร์ (28 ก.ค.) กองทัพอิสราเอลยังออกมาวิพากษ์วิจารณ์ “การกล่าวอ้างผิดๆ ว่า มีความอดอยากขาดอาหารที่จงใจให้เกิดขึ้นในกาซา”
แต่ดูเหมือนแม้แต่พันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของอิสราเอลยังไม่เห็นด้วย โดยในวันเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า กาซากำลังเผชิญความอดอยากอย่างแท้จริง และสำทับว่า อิสราเอลสามารถทำได้มากกว่านี้ในการเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่กาซา
ทรัมป์ยังบอกอีกว่า อเมริกาจะจัดตั้งศูนย์แจกจ่ายอาหารที่ไม่มีรั้วกั้นเพื่อให้ชาวปาเลสไตน์เข้าถึงอย่างง่ายดาย รวมทั้งจะร่วมกับประเทศอื่นๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมในกาซา
(ที่มา: เอเอฟพี/เอพี/รอยเตอร์)
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO