GCNT ระดมพลังทุกภาคส่วน เตรียมจัดงาน “GCNT EXPO 2025 เร่งเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่ความยั่งยืน
สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT) เครือข่ายความร่วมมือด้านความยั่งยืนของภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผนึกพลังองค์กรสมาชิกและพันธมิตรจากทุกภาคส่วน เตรียมจัดงาน “GCNT Expo 2025: Forward SDGs Faster Together – รวมพลังเร่งสร้างโลกที่ยั่งยืน” งานแห่งความมือครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อเร่งเดินหน้าประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย SDGs 2030 ผ่านกรอบ 7 Transformations หรือ 7Ts ระหว่างวันที่ 29 – 31 กรกฎาคม 2558 ณ ทรู ดิจิตอล พาร์ค กรุงเทพฯ
GCNT ร่วมกับองค์กรสมาชิกชั้นนำ ได้แก่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุดเกอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด(มหาชน) บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยสมาชิกอีกอีกกว่า 100 องค์กร และภาคส่วนต่างๆ ร่วมจัดงาน GCNT EXPO 2025 ในพื้นที่กว่า 4,500 ตารางเมตร นับเป็นครั้งแรกที่รวบรวมพลังพันธมิตรจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และเยาวชน เร่งขับเคลื่อน SDGS อย่างเป็นระบบ โดยมุ่งหวังให้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรม และแนวปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ใด้จริง ขยายผล และวัดผลได้ รวมทั้งกระตุ้นให้ธุรกิจไทยทุกขนาดทุกภาคอุตลาหกรรมปรับตัวต่อแนวโน้มโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล
นายศุกชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT)
นายศุกชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT) ประธานคณะผู้บริหารบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เปิดเผยว่า ประเทศไทยและโลกกำลังเผชิญกับความท้าทาย ซึ่งส่งผลตรงต่อการบรรลุ SDGs ไม่ว่าจะเป็น การลดการปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ ( Decarbonization) มีช่องว่างด้านการลงทุน การเข้าถึงแหล่งทุน เทคโนโลยี และการบูรณาการห่วงโซ่อุปทานในกระบวนการดังกล่าว ความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Conficts) ที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อสถานการณ์ความไม่แน่นอนในการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ รวมถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล และเทคโนโลยีใหม่ AI (Digtalizaion) ที่แม้จะช่วยให้บรรลุ SDGs ได้เร็วขึ้น แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องการใช้พลังงานที่ค่อนข้างสูง การเข้ามาแทนที่แรงงาน และความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล และข้อมูล
นอกจากนี้ โลกยังเผชิญกับวิกฤตความมั่นคงทางอาหารและเกษตรกรรม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร การขาดแคลนแรงงาน และทรัพยากรที่ลดลง และที่สำคัญคือ วิกฤตศรัทธา (Crisis of Trust) บั่นทอนความเชื่อมั่น และความร่วมมือข้ามภาคส่วน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการเดินหน้า SDGGs ให้บรรลุผลตามเป้าหมายของสหประชาชาติ
“วันนี้ แม้ประเทศไทยจะเผชิญความท้าทายหลายด้าน แต่เราอยู่ในจุดที่ไม่อาจถอยหลังกลับไปได้ (Point of No Return) และนี่คือโอกาลที่สำคัญของทุกคน ทุกภาคส่วน ที่จะลุกขึ้นมารวมพลัง เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกด้วยการเร่งเดินหน้าบรรลุ SDGs ให้เร็วขึ้น เป็นรูปธรรม และวัดผลได้ไปพร้อมๆ กัน เราหวังว่า GCNT EXPO จะเป็นเวทีต้นแบบต้านความยั่งยืนที่สร้างผลกระทบเชิงบวกได้มากที่สุดเวทีหนึ่งในประเทศไทย ที่จะยกระดับความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจกับพันธมิตรจากทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมาย SDGs ในระดับประเทศอย่างจริงจังและต่อเนื่อง อาทิการผลักดันนโยบายเพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน การนำเสนอนวัตกรรมทางธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในรูปแบบต่างๆซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญที่จะเปลี่ยนผ่านประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืน” นายศุภชัย กล่าว
ดร. ธันยพร กริชติทายาวุธ ผู้อำนวยการ GCNT กล่าวว่า งาน GCNT EXPO 2025 ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์การเร่งขับเคลื่อน SDG& อย่างรอบด้าน ภายได้กรอบ 7Ts สะท้อนถึงความสำคัญของธุรกิจไทยที่นอกจากจะขับเคลื่อนการเติบโดทางเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ยังมีบทบาทที่สำคัญต่อประเทศในการเร่งบรรลุ SDGs ได้แก่ Table, Tourism, Tech, Trade, Transition ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์ หรือ Talent และ ดั้งอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจ ความเชื่อมั่น และความโปร่งใสในการทำงานร่วมกัน หรือ Trust ทั้งหมดนี้เป็นกรอบแนวคิดที่ช่วยให้ธุรกิจไทย ไม่เพียง “ปรับตัว” แต่จะ “นำการเปลี่ยนแปลง” และ “สร้างความร่วมมือ” กับทุกภาคส่วน เพื่อเร่งสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
“เราต้องการจะจัดงานความยั่งยืนให้เป็นกิจกรรมที่ทำใ้ห้เกิด การมีส่วนร่วมของหลายๆคนหลายๆเจนเนอเรชั่น ครอบคลุมอุตสาหกรรมทุกที่มีอยู่ในประเทศไทยที่คิดว่าน่าจะเป็นทางรอดของประเทศไทย หา Solution หรือทางออกในบริบท ภูมิปัญญาของประเทศไทย เรามองว่าการที่จะเดินไปข้างหน้าหรือรวมพลังไปด้วยกัน การมีส่วนร่วมนี้ต้องเกิดจากการมีกิจกรรมไปด้วยกันไม่ได้มานั่งฟังการบรรยาย เป็นการรวมพลังเร่งสร้างโลกที่ยั่งยืนด้วยการมีส่วนร่วม กลุ่มเป้าหมายของเราคือภาคธุรกิจ ทั้งผู้บริหารระดับสูง พนักงานและก็สมาชิกของ GCNT” ดร. ธันยพรกล่าว
GCNT EXPO 2025 ประกอบด้วย เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้สำหรับผู้นำความยั่งยืนทุกภาคส่วน ในทุกระดับ ได้แก่
Auditorium Stage – เวทีวิสัยทัศน์และนโยบาย 7Ts
เวทีแสดงวิสัยทัศน์และเสวนาระดับนโยบายของผู้นำองค์กรสมาชิก GCNT และผู้เชี่ยวชาญด้านเพื่อร่วมกันหาคำตอบ ทางออก รวมถึงต่อยอดความร่วมมือ ภายใต้กรอบ 7Ts ประกอบด้วย
- Talent กลยุทธ์ด้านกำลังแรงงานไทย เพื่อรับมือสังคมสูงวัย และการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมยุคดิจิทัล และดาร์บอนต่ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
- Table ฝาวิกฤตความมั่นคงทางอาหารและเกษตรกรรม ด้วยเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะและการเกษดร หรือการประมงยั่งยืน กับการรักษาจุดแข็งของไทยในฐานะครัวของโลก
- Tech AI ทางออกของความยั่งยืน หรือทิ้งอีกหลายคนไว้ข้างหลัง การปรับตัวของไทยและภาคธุรกิจ
- Trade สำรวจความพร้อมและการปรับตัวของภาคธุรกิจไทยตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อการค้าและการลงทุนเพื่อความยั่งยืน
- Transition การเปลี่ยนผ่านพลังงานของไทย สู่สมดุลความมั่นคงทางพลังงาน ทางเลือกพลังงานสะอาด และราคาที่เหมาะสม
- Tourism การใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่อประเทศไทย
- Trust พื้นฟูความเชื่อมั่น พร้อมเสรินสร้างความยุติธรรม และมาตรฐานธรรมาภิบาลใหม่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
“เรามองเรื่องของ 6T+1 เป็น 7T ที่เป็นการเปลี่ยนผ่าน transformation ซึ่งเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุดเป็นเรื่องอาหารและการเกษตรตั้งแต่ต้นทางของระบบ การรักษาสมดุลระหว่างการใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติออกมาจนถึงการประกอบการการแปรรูปแล้ว กลายเป็นสินค้าและส่งออกต่างประเทศ เรื่องที่ 2 เป็นจุดอ่อนและต้องคืนความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว ส่วนเรื่องที่ 3 การใช้เทคโนโลยี การใช้ AI ที่พึ่งพาพลังงานให้สมดุลกับสิ่งแวดล้อม หรือเป็น climate solution เอามาใช้ให้เกิดเป็นผลบวก ทั้ง 3 เรื่องแรกนี้จะเกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนธุรกิจเศรษฐกิจ” ดร. ธันยพรกล่าว
สำหรับเรื่องที่ 4 การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภาคธุรกิจที่จะมีผลต่อการพัฒนาซัพพลายเชน ยกตัวอย่างจากสมาชิกของ GCNT ที่มีจำนวน 130 รายมีจำนวนคนที่อยู่ในการสร้างแรงงานในซัพพลายเชนประมาณ 1 ล้านคน การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ ก็สามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้ เรื่องที่ 5 คือ เรื่องของการค้าการเงินการธนาคาร ซึ่งกลุ่มธุรกิจเหล่านี้รวมกันมีสัดส่วนประมาณกว่า 20% ของการประกอบการในประเทศ มีการจ้างงานในจำนวนคนที่ไม่มาก แต่เป็นกลุ่มที่สร้างรายรับให้ประเทศมากที่สุด และสร้างผลกระทบมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ดังนั้นภายในงาน GCNT EXPO ก็จะผลักดันการเงินสีเขียวทำให้เกิดความเป็นธุรกิจสีเขียว เรื่องสุดท้ายพลังงาน เป้าหมายของประเทศชัดเจนว่ามุ่งให้เป็นพลังงานสะอาด แต่แผนพัฒนาตามไม่ทัน ยังไม่เห็นผลของการแข่งขัน และยังต้องใช้เงินเพิ่มเติม สุดท้ายการสร้างความไว้วางใจให้กับประเทศ
ภายในงานจะได้พบกับผู้นำทางความคิดจากหลากหลายวงการที่ล้วนมีบทบาทในการผลักดันเรื่องความยั่งยืนในรูปแบบที่จับต้องได้ เริ่มตั้งแต่ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ GCNT และประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ที่จะมาร่วมเปิดมุมมองของภาคเอกชนไทยสู่การเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืน ร่วมด้วยผู้บริหารหญิงมากความสามารถอย่าง นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล จาก BJC และนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ จาก CPF ซึ่งจะมาแบ่งปันวิสัยทัศน์ในฐานะผู้นำองค์กรด้านอาหารและค้าปลีกระดับชาติ
นอกจากนี้ ยังมีผู้นำจากองค์กรระดับนานาชาติ อาทิ ซิกเว เบรกเก CEO ของกลุ่มทรู, Richard David Maloney CEO ของ UOB Thailand และ Adam Brennan Chief Sustainability Officer จาก Thai Union ที่จะมาร่วมสะท้อนบทบาทของธุรกิจในการร่วมสร้างโลกที่ยั่งยืน
ด้านนักคิดและนักวิชาการ เช่น ดร. อาร์ม ตั้งนิรันดร นักวิชาการด้านจีนศึกษา นางสาวสฤณี อาชวานันทกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อสังคม และ รศ. ดร. ต่อภัสสร์ ยมนาค นักเศรษฐศาสตร์ผู้ผลักดันธรรมาภิบาล ล้วนเตรียมร่วมเวทีเสวนาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของประเทศ
ดร. ธันยพรกล่าวว่า ลักษณะของกิจกรรมในงาน จะสะท้อนให้เห็นถึงการรวมพลังเร่งสร้างโลกที่ยั่งยืน Forward SDGs Faster Together ได้ โดยเป้าหมายเพื่อให้ตอบโจทย์ที่คนจะเข้าใจแล้วนำกลับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ในเวทีจะไม่พูดถึงปัญหา สถานการณ์ปัจจุบัน เพราะคนทั่วไปก็มีประสบการณ์และมีความเข้าใจในระดับหนึ่ง แต่จะเน้นไปที่ทางออก การที่กล้าก้าวข้ามมิติต่างๆเหล่านี้
“ยกตัวอย่าง เรื่องอาหาร ประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ด้านอาหารมากกว่าประเทศอื่นๆ แต่ต้องมีแนวทางในการใช้ชีวิต รับกับต้นทุนของอาหารที่สูงขึ้นในอนาคต ถ้าเราสามารถบริหารจัดการ ปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตตามสภาพปุ๋ยอากาศ ที่เปลี่ยนไปก็ไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากเกินไป เราก็สามารถที่จะอยู่ได้ เป็นก้าวข้ามผ่านปัญหาเหล่านี้และความท้าทาย” ดร. ธันยพรกล่าว
ดร. ธันยพรกล่าวว่า แม้ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 1 ของอาเซียนในด้านความคืบหน้าของการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs แต่ยังห่างไกลจากเป้าหมายปี 2030 โดยเฉพาะใน SDGs ข้อ 13 เป้าหมายที่ 13 ปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่าง ด้านการเกษตร ประเทศไทยยังไม่มีแผนที่จะช่วยภาคเกษรรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การพัฒนาพันธ์ุ การปรับเปลี่ยนการเพาะปลูก การนำเทคโนโลยีมาใช้ “ดังนั้นเวทีการพูดคุยภายในงานจะนำเสนอแนวทางที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศจากการลงมือทำจริง ไม่ใช่สิ่งที่ได้จากงานวิจัย”
ใน SDG Index 2024 ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับอยู่ที่อันดับ 45 ของโลก ลดลง 2 อันดับจากอันดับ 43 ปี 2566 แต่คะแนนรวมยังคงเท่ากับปี 2566 คือ 74.7 คะแนน สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ ซึ่งอยู่ที่ 66.5 คะแนน
ในภูมิภาคอาเซียนประเทศไทยยังครองอันดับ 1 เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน (2562 – 2567) ตามมาด้วย เวียดนาม (อันดับ 54) สิงคโปร์ (อันดับ 65) อินโดนีเซีย (อันดับ 78) มาเลเซีย (อันดับ 79) ฟิลิปปินส์ (อันดับ 92) บรูไนดารุซซาลาม (อันดับ 96) กัมพูชา (อันดับ 104) ลาว (อันดับ 119) และเมียนมา (อันดับ 120)
ในเป้าหมายที่ถือว่าบรรลุผลคือ SDG ข้อ 1 ยุติความยากจนทุกรูปแบบในทุกที่ (ปัจจุบันความยากจนวัดจากคนที่มี ค่าใช้จ่ายดำรงชีพรายวันต่ำกว่า $1.90 ต่อวัน) และ SDG ข้อ 3 สร้างหลักประกันการมีสุขภาวะที่ดี และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย
“นับว่าการพัฒนายั่งยืนของประเทศไทยยังไม่ได้ไม่คืบหน้า แต่ถ้าเรามองการพัฒนาให้ยั่งยืนไปที่ปี 2030 ก็ตั้งเป้าหมายในเรื่องที่เราอยากจะทำให้ประเทศไทยน่าอยู่ในปี 2030 สิ่งที่ทำให้เรายังเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนได้เพราะเราไม่ถอย” ดร. ธันยพรกล่าว
เวทีนี้ไม่ได้มีแค่ “แรงบันดาลใจ” แต่ยังเป็นเวทีของ “การลงมือทำ” เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ผ่านกิจกรรมเสวนา เวิร์กช็อป นิทรรศการ และโอกาสสร้างเครือข่ายข้ามภาคส่วนกว่า 100 องค์กร ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และเยาวชน
Grand Hall Stage – เสียงจากคนลงมือทำจริง
เวทีแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์จากลงมือทำจริง ที่จะตอกย้ำว่าเราทุกคนทุกองค์กรล้วนเกี่ยวข้องกับ SDGs อาทิ
- พูดคุยเรื่องการอนุรักษ์ทะเล กับทราย สก็อต
- การปกป้องพื้นที่สีเขียวและชีวิตบนบก กับ จิ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี
- เสียงจากโลกที่เปลี่ยนไป กับก้องกรีน กรีน x BJC
- การจัดการขยะทะเลกับภาวะโลกรวน กับวรรรณสิงห์ ประเสริฐกุล x Thal Union
- จากห้องแต่งหน้าสู่โลกที่ยั่งยืน Green Glam กับ พิมรี่ พาย x Loreal
- ชวนทอร์คเรื่อง ใจ” ในโลกที่สุขภาพไม่ใช่แค่เรื่องกาย กับ ดีเจพี่อย นภาพร
HR Corner-จุดเริ่มต้นอาชีพสายยั่งยืน
พื้นที่แนะแนวสายงานด้านความยั่งยืนจากองค์กรสมาชิก GCNT และ UN Agency สำหรับเยาวชนและผู้ตนใจ ที่จะเชื่อมไปประเห็นความยิ่งอื่นกับกับทุกสายสาชีพ ร่วมเรียนรู้แบบลงมือทำ และสร้างเครือข่ายกับบริษัทภาคเอกชนและภาคส่วนอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการจ้างงานต่อไปในอนาคต โดยจะมีการเปิดรับสมัครงาน – ฝึกงานโดยตรงจากองค์กรสมาชิกกว่า 20 แห่ง เวที Career Talk โดยตัวจริงสายยั่งยืน กิจกรรมให้คำปรึกษาในการเตรียมตัวสมัครงาน และพัฒนาทักษะการทำงาน
Workshops -50+ เซสชั่นเรียนรู้จริงจากเครือข่าย
การอบรมเชิงปฏิบัติการโดยวิทยากรจากเครือข่ายความยั่งยืน ที่จะมาเปิดพื้นที่กว่า 50 เซลชั่น ให้ผู้สนใจได้ร่วมเรียนรู้ แลกเปลี่ยนมุมมอง เทคนิค และทักษะเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนให้ไปได้ลึกขึ้น เร็วขึ้น และไกลขึ้น อาทิ Workshop Inclusion Toolkits Training for Organizations and business” โดย UNDP xCanada Focus Group “Pathway to net zero โดม TGO Workshop “Soul Connect” โดยเครือข่ายสุขภาวะทางปัญญา สสส.
Business Solutions Exhibitions – นิทรรศการแนวทางแก้ปัญหาจริงของธุรกิจ
การจัดแสดงผลงานและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนขององค์กรชั้นนำ ที่เน้นการนำเสนอแบบ acion-based learning
Member Networking – เปิดบ้านต้อนรับสมาชิก GCNT และ บริษัทที่สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ GCNT ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 17.00 – 19.00 น.
GCNT Expo 2025 fถือเป็นพื้นที่ต้นแบบของความร่วมมือระดับประเทศที่จะจุดประกายพลังใหม่ สู่การเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการผลักดันนโยบายส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน การสนับสนุนนวัตกรรมและโมเดลธุรกิจ ที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งการพัฒนาแรงงานและเยาวชนด้วยทักษะแห่งอนาคต
ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดโปรแกรมต่างๆ และลงทะเบียนเข้าร่วมงาน GCNT Expo 2025 ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่เว็บไซต์ https://expo.globalcompact-th.com/ และโซเชียลมีเดียทุกช่องทางของ GCNT