วางแผนภาษีอย่างไร? ให้คุ้ม เปิดสิทธิลดหย่อนภาษี ปี 2568 ลงทุนถูกทาง ช่วยประหยัด “หลักล้าน”
“ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” คือ ภาษีที่สรรพากรจัดเก็บจากคนทั่วไปที่มีรายได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากงานประจำ การรับจ้าง การให้เช่า หรือแม้แต่ดอกเบี้ยจากการออมเงิน สรุปคือ เมื่อเรามีรายได้นั้นคือเราต้องยื่นภาษี และหากรายได้ถึงเกณฑ์นั้นจะหมายความว่าเราต้องเสียภาษี
แต่เมื่อพูดถึงการเสียภาษี หลายคนอาจเกิดความรู้สึกกังวลเพราะฟังเหมือนมันเป็นเรื่องยาก ต้องมีความรู้เยอะถึงจะทำได้ แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่สำคัญคือเราต้องทำความเข้าใจโครงสร้างของภาษีก่อน และวางแผนจัดการภาษีเพื่อให้การเงินของเราเป็นระบบ
วางแผนลดหย่อนภาษี ช่วยประหยัดได้
สิริพร บุญเสริมศักดิ์ วิทยากรจากสมาคมนักวางแผนการเงินไทย กล่าวถึงวิธีจัดการวางแผนภาษีภายในงาน Thairath Money Roadshow และพื้นฐานภาษีที่ทุกคนต้องรู้ คือเรื่องของเงินได้พึงประเมิน และหักค่าใช้จ่าย เพื่อให้เรื่องภาษีของเราง่ายมากขึ้น
ใครที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา?
- บุคคลทั่วไป เช่น มนุษย์เงินเดือน ฟรีแลนซ์ เจ้าของร้าน ฯลฯ
- กลุ่มคนที่รวมตัวกันแต่ไม่ใช่บริษัท เช่น ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคล ที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
- ผู้ที่เสียชีวิตในปีนั้น แต่ก่อนเสียชีวิตมีรายได้เกิดขึ้น (จะมีคนมายื่นภาษีแทน)
- กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่งให้ทายาท (รายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตก่อนแบ่งมรดก)
- วิสาหกิจชุมชน ที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นบริษัท แต่รวมตัวกันในรูปแบบห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล
สูตรคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือเราต้องเอา เงินได้พึงประเมิน - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน ก่อนจะออกมาเป็นเงินได้สุทธิที่จะนำไปคำนวณอัตราภาษีตามขั้นบันได เพื่อให้ได้ภาษีที่ต้องเสีย, ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย หรือภาษีครึ่งปีที่เสียไปแล้ว และภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่มหรือได้คืน
แต่สิ่งที่น่าสนใจบนเวที Workshop ของสมาคมนักวางแผนการเงินแห่งประเทศไทยนั้น คือวิธีวางแผนลดหย่อนภาษีที่จะช่วยให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีเงินเก็บติดตัวมากขึ้น โดยมีข้อมูลการลดหย่อนอย่างหลากหลาย เช่น
1. ค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว เช่น
- ตัวเราเอง ลดหย่อนได้ 60,000 บาท
- คู่สมรส (ตามกฎหมาย) ลดหย่อนได้ 60,000 บาท
- บุตร ลดหย่อนได้ 30,000 บาท/คน หากมีบุตรคนที่สองจะลดหย่อนได้อีก 30,000 บาท
- พ่อแม่ ลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท
2. ค่าลดหย่อนจากประกัน เช่น
- ประกันสังคม ลดหย่อนได้ 9,000 บาท
- ประกันสุขภาพพ่อแม่ ลดหย่อนได้ 15,000 บาท
- ประกันชีวิต ลดหย่อนได้ 100,000 บาท
3. ค่าลดหย่อนจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2568 เช่น
- ดอกเบี้ยบ้าน ลดหย่อนได้ 100,000 บาท
- Easy E-Receipt ลดหย่อนได้ 50,000 บาท
- สร้างบ้านใหม่ ปี 67-68 ลดหย่อนสูงสุดได้ไม่เกิน 100,000 บาท
4. ค่าลดหย่อนจากการบริจาคตอบแทนสังคม เช่น
- บริจาคสาธารณกุศล ลดหย่อนได้ 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อน
- ค่าลดหย่อนจากการลงทุนการออมและเกษียณอายุ เช่น
- เบี้ยประกันบำนาญ ลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ 200,000 บาท
- PVD 15% ของเงินได้ 500,000 บาท
กองทุน Thai ESGX ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1.4 ล้านบาท
การที่เราสามารถลดหย่อนภาษีได้นั้นจะทำให้รายจ่ายของเราลดน้อยลง ซึ่งในปัจจุบันมีหลายช่องทางที่จะสามารถช่วยให้การจ่ายภาษีของเราเป็นไปอย่างโปร่งใส และไม่สะเทือนกระเป๋าสตางค์ของเรา เช่น กองทุน Thai ESGX ที่เราจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษี
กองทุน Thai ESGX จะเป็นแบบเดียวกับหลักเกณฑ์เดิมของกองทุน Thai ESG ซึ่งต้องลงทุนในสินทรัพย์ด้านความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV แต่กองทุน Thai ESGX จะมีข้อกำหนดเพิ่มเติม คือ
- ต้องลงทุนในหุ้นยั่งยืนทั้งใน SET หรือ MAI ไม่น้อยกว่า 60% ของ NAV
- กลุ่มตราสารหนี้ที่มีความยั่งยืน
- โทเคนดิจิทัลเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน
- การลงทุนอื่น ๆ เช่น เงินสด หรือหลักทรัพย์ต่างประเทศ จะต้องไม่เกิน 20% ของ NAV
โดยผู้ลงทุนในกองทุน Thai ESGX จะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1,400,000 บาท หากแต่ก่อนลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่าลืมศึกษารายละเอียดของกองทุนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : วางแผนภาษีอย่างไร? ให้คุ้ม เปิดสิทธิลดหย่อนภาษี ปี 2568 ลงทุนถูกทาง ช่วยประหยัด “หลักล้าน”
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- วางแผนภาษีอย่างไร? ให้คุ้ม เปิดสิทธิลดหย่อนภาษี ปี 2568 ลงทุนถูกทาง ช่วยประหยัด “หลักล้าน”
- ขายของออนไลน์ ยื่นภาษีกับสรรพากรอย่างไร มีอะไรบ้างที่ควรรู้
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : Thairath Money
- LINE Official : Thairath